โควาซิช แทนที่ กุนโดกัน และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ แมนซิตี้ - OPINION
โดย Navapun Munarsa
การเซ็นสัญญาคว้าตัว มาเตโอ โควาซิช กองกลางชาวโครเอเชีย จาก เชลซี เพื่อแทนที่ อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ชาวเยอรมัน ที่ย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากทีมชุด “ทริปเปิลแชมป์” เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และไม่น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้
โควาซิช ซึ่งถูกคว้าตัวมาในราคา 25 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านปอนด์ นั้น จะเข้ามาสานงานต่อจาก กุนโดกัน ที่อำลาทีมไป โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ มองว่า ดาวเตะวัย 29 ปี มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเข้ามาช่วยงานแผงมิดฟิลด์ “เรือใบสีฟ้า”
โควาซิช เป็นนักฟุตบอลที่ผ่านเวทีระดับสูงมาอย่างโชกโชน และเคยเล่นให้กับสโมสรดังมากมาย อาทิ อินเตอร์ มิลาน ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี และ เรอัล มาดริด ในศึก ลา ลีกา สเปน นอกจากนี้ ยังมีดีกรีคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้วถึง 4 สมัย
กองกลาง “ตราหมากรุก” เป็นนักเตะที่สไตล์มกล้เคียงกับ กุนโดกัน อย่างมาก แต่ดูเหมือนว่า โควาซิช จะชอบยืนปักหลักหน้าแผงแนวรับมากกว่า ซึ่งเห็นได้จากสถิติการยิงไป เพียง 25 ประตู จากการลงเล่นให้ทุกสโมสร 500 นัด ส่วน กุนโดกัน ซัดไป 110 ประตู จาก 557 นัด
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของ กุนโดกัน มีความสำคัญอย่างมากต่อ แมนฯ ซิตี้ ในซีซันที่ผ่านมา ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ กวาร์ดิโอล่า ไม่อยากเสีย ดาวเตะวัย 32 ปี ออกไป และหลังจากพลาดตัวเป้าหมายหลักอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ย้ายไป มาดริด เขาเลยตัดสินใจหันไปหา โควาซิช แทน
ไซมอน สโตน กูรูจาก “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำกล่าวว่า "มันอธิบายได้ว่าทำไม แมนฯ ซิตี้ ถึงต้องเซ็นสัญญากับ มาเตโอ โควาซิช จาก เชลซี และมันทำให้คุณสงสัยว่า กวาร์ดิโอลา จะหยุดอยู่แค่นั้นหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีความไม่แน่นอนอยู่เสมอเกี่ยวกับอนาคตของ แบร์นาร์โด ซิลวา ขณะที่ ริยาด มาห์เรซ ก็เสียตำแหน่งตัวจริงไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และแน่นอนว่า มันจะเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ”
“ยิ่งไปกว่านั้น อายเมอริค ลาปอร์ต ก็ไม่อยากเสี่ยงที่จะหลุดจากทีมชาติสเปนชุดลุย ศึกยูโร 2024 และ กวาร์ดิโอลา พิสูจน์ให้เห็นเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้วว่า เขาไม่กังวลเลยที่จะขายนักเตะที่รู้สึกว่าเป็นคีย์แมนทีมให้กับคู่แข่ง
“เขาขาย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กาเบรียล เฆซุส ให้กับ อาร์เซนอล ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจได้มากที่รู้ว่า เมื่อไหร่พวกเขาควรจะปล่อยนักเตะออกไป กุนโดกัน อาจไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะย้ายออกไปก่อนซัมเมอร์จะหมดลง”
นอกจากนี้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ก็มีข่าวว่า กระตือรือร้นที่จะย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ โดยมี บาเยิร์น มิวนิค ให้ความสนใจ โดย ดาวเตะวัย 33 ปี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 5 สมัย จาก 6 ฤดูกาลกับ “เรือใบสีฟ้า”
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กวาร์ดิโอลา ยอมรับว่า วอล์คเกอร์ ต้องดิ้นรนอย่างหนกเพื่อปรับตัเข้ากับระบบใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ และหลังหายเจ็บกลับมา แนวรับเลือดผู้ดี ก็ต้องตกเป็นตัวสำรองมาตลอดจนจบซีซันที่แล้ว
ชูเอา กันเซโล แบ็คชาวโปรตุเกส เป็นอีกรายที่ต้องเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม แม้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของ แมนฯ ซิตี้ ก็ตาม แต่หลังจากมีปัญหากับ กวาร์ดิโอลา นั้น ดาวเตะวัย 29 ปี ก็หมดอนาคตไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางตัวสำรองชาวอังกฤษ ก็เป็นอีกรายที่อนาตไม่แน่นอนหลังย้ายมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา และได้ลงสนามเป็นตัวจริงไปเพียง 10 เกมเท่านั้น
มาห์เรซ ในวัย 32 ปี ที่อยู่ในช่วงฟอร์มหลุดนั้น ก็เป็นหนึ่งในสตาร์ดังจากยุโรปที่มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบียในช่วงปิดซีซัน ซึ่งหากเจ้าตัวย้ายออกไป ฟิล โฟเด้น และ จูเลียน อัลวาเรซ ก็พร้อมทำหน้าที่แทนอยู่แล้ว
สุดท้าย ซิลวา และ ลาปอร์ต ก็มีข่าวพัวพันกับการย้ายออกไปทุกซัมเมอร์ และปีนี้ก็ไม่ต่างกัน หลังจากตกเป็นเป้าหมายของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ บาร์เซโลนา ตามลำดับ ซึ่งต้องดูว่า กวาร์ดิโอลา จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป