ฮาแลนด์ เหมาะสมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่ไหน - OPINION

สื่อดังทุกเจ้าพร้อมใจกันรายงานตรงกันว่า เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังจะย้ายมาถล่มตาข่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมรับค่าแรงระดับครึ่งแสนปอนด์ต่อสัปดาห์

ผลงานการทำประตูที่ค่าเฉลี่ยหนึ่งลูกต่อเกมของเขานับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ เร้ด บูลส์ ซัลซ์บวร์ก เป็นสิ่งการันตีชั้นยอดว่าทีมใดที่ได้เขาไปจะเพิ่มพูนความอันตรายในเกมรุกได้อย่างแน่นอน

แต่เขาจะเข้าระบบของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของทั้งสองทีม รวมไปถึงความโหดหินของลีกที่ไม่เท่ากันอีกด้วย

ซิตี้ มีการเล่นเกมรุกที่ลื่นไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแดนหน้าที่ทุกคนจะต้องผ่านบอลกันแบบเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำเพื่อจู่โจมคู่แข่งได้แบบไม่ทันให้พวกเขาได้ตั้งตัวและนี่อาจจะเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของ ฮาแลนด์ ที่มีอัตราความแม่นยำในการผ่านบอลเพียง 70% เท่านั้นกับ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งต่ำกว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่มีอัตราความแม่นยำน้อยที่สุดในทีม เรือใบสีฟ้า ที่ 85.5% อยู่มากโข

เช่นเดียวกับการควบคุมบอลหรือการจับบอลหลังเพื่อนผ่านมาให้ที่ ฮาแลนด์ เองก็มีค่าเฉลี่ยจับบอลลั่นหรือจับบอลเสียอย่างน้อย 2.83 ครั้งต่อเกม เป็นรองเพียง กาเบรียล เฆซุส คนเดียวเท่านั้นที่ 2.92 ครั้งต่อเกม ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นของ ซิตี้ นั้นมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเขาทุกคน

ท้ายที่สุดก็คือรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกัน เมื่อทีมของ มาร์โก โรเซ เน้นเกมสวนกลับและการผ่านบอลแบบไดเรคท์โดยอาศัยความแข็งแกร่งของ ฮาแลนด์ เข้ามาช่วย

จากคลิปข้างต้นและอีกหลายๆคลิปการทำประตูหรือการสร้างโอกาสการทำประตูเกือบทั้งสิ้นของ เสือเหลือง เราจะเห็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน อย่างการที่กองหลังของคู่แข่งจะต้องวิ่งหน้าตั้งไล่ล่าบอลที่ถูกผ่านมาให้กับ ฮาแลนด์ เพราะมันเป็นบอลที่ ดอร์ทมุนด์ ตั้งรับฉกเอาคืนมาได้แล้วเล่นเร็ว ขณะที่กับ ซิตี้ - พวกเขามักจะเป็นฝ่ายครองเกมอยู่ตลอดและยักย้ายถ่ายบอลไปทางซ้ายทีหรือขวาทีเพื่อหาช่องในการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย

หรืออย่างในกรณีตัวอย่างของผู้เล่นจำนวนมากที่ย้ายมาจาก บุนเดสลีกา แล้วไม่สามารถแจ้งเกิดได้หรือไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เหมือนตอนเล่นอยู่กับสโมสรเก่าก็มีมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น จาดอน ซานโช, เลออน เบลีย์ และ ติโม แวร์เนอร์

อย่างไรก็ดี เรากำลังพูดถึงผู้เล่นที่อายุเพียง 21 ปี เท่านั้น และเขาก็ยังมีเวลาเหลืออีกมากให้ปรับตัวหรือเรียนรู้แทคติกใหม่ๆ