ไค ฮาแวร์ตส แพะรับบาปของ เชลซี ในวันที่ไร้ซึ่งกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติ - OPINION

Borussia Dortmund v Chelsea FC: Round of 16 Leg One - UEFA Champions League
Borussia Dortmund v Chelsea FC: Round of 16 Leg One - UEFA Champions League / Stuart Franklin/GettyImages
facebooktwitterreddit

ผลงานของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมีร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ยังคงตกต่ำลงเรื่อย ๆ โดย 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ พลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่พบกับชัยชนะเลยแม้แต่เกมเดียว

มีเหตุผลมากมายที่หยิบยกมาถึงการที่ เชลซี ล้มเหลว ไล่ตั้งแต่อาการบาดเจ็บของนักเตะ และ ผู้เล่นที่ย้ายมาใหม่ยังปรับตัวไม่ได้ รวมถึงฝีมือในการทำงานของ พ็อตเตอร์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่มีกองหน้าระดับโลกยืนประจำการในแนวรุก

Kai Havertz
Borussia Dortmund v Chelsea FC: Round of 16 Leg One - UEFA Champions League / Stuart Franklin/GettyImages

เมื่อไม่มีดาวยิงระดับคุณภาพอยู่ในทีมนั้น ภาระหนักมันจึงตกมาที่ ไค ฮาแวร์ตส กองกลางชาวเยอรมันที่ต้องขยับขึ้นมารับบทกองหน้าจำเป็น ทั้งที่มันไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติของ อดีตดาวเตะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เลย  

เชลซี เริ่มต้นซีซั่นด้วยการมีผู้เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าให้เลือกใช้งาน 2 ราย ประกอบด้วย อาร์มานโด้ โบรย่า และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบามาย็อง โดยรายแรกดวงแตกได้รับบาดเจ็บยาวในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ส่วนรายหลังก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เลย

ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า หัวหอกดาวรุ่งวัย 20 ปี ชาวไอวอรี่ โคสต์ ถูกคว้าตัวมาจาก โมลด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และถึงแม้จะเป็นกองหน้าธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่มีประสบการณ์กับการเล่นฟุตบอลในเวทีระดับสูงมาก่อน

วิคเตอร์ โอซิมเฮน ของ นาโปลี และ ดูซาน วลาโฮวิช ของ ยูเวนตุส เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการเขามาเพิ่มความเฉียบขาดให้กับ เชลซี แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกไปคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่เป็นสไตล์กองหน้าตัวต่ำมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก แทน และจะเข้ามาร่วมทีมซีซั่นหน้า

เอ็นคุนคู เป็นผู้เล่นที่มีเทคนิค และทำประตูได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เล่นเป็นกองกลางตัวรุกให้กับ ไลป์ซิก ซึ่ง เชลซี มีนักเตะอย่าง ฮาแวร์ตส, เมสัน เมาท์ และ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่เล่นในบทบาทนั้นอยู่แล้ว หรือบางทีพวกเขาอาจคิดว่า ไม่จำเป็นต้องมาศูนย์หน้าตัวเป้าในทีม

Kai Havertz
Borussia Dortmund v Chelsea - UEFA Champions League / Soccrates Images/GettyImages

ฮาแวร์ตส เป็นผู้เล่นที่รูปร่างสูง แข็งแกร่ง เล่นลูกกลางอากาศได้ดี มีพรสวรรค์ทางเทคนิค จ่ายบอลได้ยอดเยี่ยม และสามารถถึงตัวเองลงมาสร้างสรรค์เกมในแผงมิดฟิลด์ได้ แต่เขาจะโชว์ศักยภาพของตัวเองได้ดีกว่านี้หากได้ยืนในตำแหน่งที่ถนัด

นับตั้งแต่ยุค แฟรงค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิ่ล มาจนถึง พ็อตเตอร์ นั้น ฮาแวร์ตส ถูกปรับไปเล่นหลายบทบาททั้งกองกลางตัวกลาง, ตัวริมเส้น รวมถึงกองหน้าตัวเป้า แต่ตำแหน่งที่เจ้าตัวทำได้ดีที่สุดคือ เพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10

ในฤดูกาลนี้ ฮาแวร์ตส ลงเล่นไปแล้วรวมทุกรายการ 31 เกม ยิงได้เพียง 6 ประตูเท่านั้น และมันจึงกลายมาเป็นคำถามว่า สรุปแล้วปัญหาเกมรุกที่ฝืดสนิทของ เชลซี เกิดมาจากแผนการเล่น หรือตัวนักเตะเองที่ไม่เฉียบขาด

ฮาแวร์ตส ย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัวเกือบ 100 ล้านปอนด์ ซึ่ง เชลซี ก็คงไม่ปล่อยตัวเขาออกจากสโมสรแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า พ็อตเตอร์ จะทำอย่างไรให้ ดาวเตะวัย 23 ปี คืนฟอร์มเก่งอีกครั้งมากกว่าจะกลายเป็น “แพะรับบาป” เหมือนทุกวันนี้