ดิโอโก้ โชต้า มิติในเกมรุกที่ ลิเวอร์พูล กำลังตามหา - OPINION
โดย Navapun Munarsa
การที่ ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ ลิเวอร์พูล ครั้งแรกในรอบ 4 เดือนครึ่ง ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่บุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ที่สนาม เซลเฮิสท์ ปาร์ค ต่อด้วยเจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมสำหรับ “หงส์แดง” อย่างแท้จริง
ก่อนเกมเกมกับ พาเลซ นั้น โชต้า ได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปเพียง 77 นาทีนับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บที่น่องอย่างรุนแรงเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ แอนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมปีที่ผ่านมา
โชต้า ได้ลงเล่นไป 71 นาทีในเกมเสมอกับ พาเลซ จากนั้น ได้ลงเล่นอีก 76 นาที กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน และถึงแม้จะร้างสนามไปนาน แต่ดาวเตะวัย 26 ปี ก็ยังแสดงถึงคุณภาพการเคลื่อนที่ และความกระหายในการช่วยทีมไล่เพรสซิ่งเหมือนเดิม
หลังจากไม่ได้ลงเล่นมานาน รวมถึงพลาดโอกาสไปช่วยทีมชาติโปรตุเกสลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ มันไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์เลยที่ฟอร์มการเล่นของ โชต้า ยังไม่เข้าที่เข้าทาง และมันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับเขาที่หลาย ๆ คนจะคาดหวังให้เจ้าตัวกลับไปยิงได้เหมือนปีที่แล้วด้วยจำนวน 21 ประตู
ขณะเดียวกัน ในช่วงพรีซีซั่นที่ผ่านมา อดีตดาวยิง วูล์ฟแฮมป์ตัน แทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมเลย หลังจากโชคร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ก่อนจะกลับมาลงสนามได้อีกทีต้องรอถึงเดือนกันยายนปีที่แล้ว
การคาดหวังให้ โชต้า คืนสู่ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซในทันทีหลังจากอาการบาดเจ็บรุนแรงถึง 2 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งมันอาจไม่ใช่แค่เขาเพียงคนเดียว แต่มันรวมถึงผู้เล่นทุก ๆ คน ด้วยเช่นเดียวกัน แม้จะทุ่มเทเรียกความฟิตกลับมาได้เร็วแค่ไหนก็ตาม
มันเป็นเวลาเกือบ 11 เดือนแล้วที่ โชต้า ทำประตูล่าสุดให้กับ ลิเวอร์พูล โดยฤดูกาลนี้ มันเป็นปีที่ยากลำบากอย่างแท้จริง หลังจากที่เขาได้ลงเล่นเพียง 8 นัด และได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก เพียง 4 นัด เท่านั้น และมันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เจ้าตัวกลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความมั่นใจทันที
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้าย ลิเวอร์พูล กล่าวหลังจาก โชต้า กลับมาลงสนามได้ว่า “มันยอดเยี่ยมที่เราได้เห็น ดิโอโก้ กลับมา และมันก็ยอดเยี่ยมที่ได้นักเตะคนอื่น ๆ กลับมาลงสนามได้ด้วย เพราะเมื่อคุณมีผู้เล่นเหล่านี้เป็นทางเลือก มันช่วยได้เยอะจริงๆ”
ในฤดูกาลนี้ โชต้า ลงเล่นไปเพียง 319 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายและน่อง โดยมีเพียง 2 กองกลางอย่าง นาบี เกอิต้า และ เคอร์ติส โจนส์ ที่เป็นผู้เล่นทีมชุดแรกของ ลิเวอร์พูล และได้ลงสนามน้อยกว่าในจำนวน 293 นาที และ 189 นาที ตามลำดับ
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ต้องเจอปัญหาปวดหัวมาตลอด เพราะนอกจาก โชต้า ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว หลุยส ดิอาซ ปีกชาวโคลอมเบีย ก็ไม่ได้ลงเล่นมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ส่วน โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ หัวหอกชาวบราซิลก็พลาดลงเล่นไป 10 เกม ก่อนจะเพิ่งฟิตกลับมาเป็นตัวเลือก
คล็อปป์ ไม่ได้มีอาวุธในแนวรุกให้เลือกใช้งานมากนัก และนั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เร่งเดินเรื่องคว้าตัว โคดี้ กัคโป กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ มาจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา
คล็อปป์ อธิบายถึงกรณีของ โชต้า ว่า “มันดีมากจริงๆ ที่เขากลับมา เราพยายามสร้าจังหวะกันขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็ร้างสนามไดนาน ก่อนหน้านั้นก็ได้รับบาดเจ็บ เขาไม่มีช่วงปรีซีซั่นกับเราเลย จากนั้น ก็ได้ลงเล่น 2-3 เกม และทำได้ดีจริงๆ แล้วก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง มันเป็นฤดูกาลที่ยากสำหรับเขา แต่ไม่เป็นไรหรอกแน่นอน เขาเล่นได้ดีกว่านี้ แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องช่วยเขา เราต้องผ่านมันไปให้ได้ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ”
โรเบิร์ตสัน กล่าวเสริมว่า “ดิโอโก้ ได้ออกสตาร์ทครั้งแรกในรอบเวลากว่า 4 เดือน ซึ่งดีมาก เขาแค่พยายามเรียกจังหวะของเขากลับมาหลังจากหายไปนาน เขาพยายามดึงโมเมนตัม และความเฉียบคมกลับมา ผมคิดว่าเขาดูเฉียบคมอยู่เสมอ และ บ็อบบี้ ก็ด้วย
“ดังนั้นพวกเขาต้องทำงานกันต่อไป เช่น เรียกความฟิตกลับมา หรืออะไรทำนองนั้น และหวังว่าเราจะได้นักเตะคนอื่นๆ กลับมาอีก หลังจากนั้น เราแค่หวังว่าทุกคนจะฟิต พวกคุณรู้ไหม เรามีปํญหาอาการบาดเจ็บเยอะมากในฤดูกาลนี้ แต่ถ้าเราสามารถทำให้ทุกคนฟิตได้ มันจะเปิดโอกาสให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้เช่นกัน”
โชต้า กลับมาแล้ว ฟิร์มิโน่ ก็พร้อมลงสนาม ส่วน ดิอาซ น่าจะกลับมาได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้ คล็อปป์ มีทางเลือกมากขึ้น แต่อยู่ที่ว่า เขาจะทำให้แนวรุกที่หายบาดเจ็บกลับมาคืนฟอร์มเดิมได้เร็วเพียงใดในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้