กาเบรียล เฆซุส & โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จากส่วนเกินสู่การเติมเต็มที่อาจพา อาร์เซนอล กลับสู่ความยิ่งใหญ่ - OPINION
โดย Navapun Munarsa
หนึ่งในเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในการชิงแชมป์ถ้วย พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2022-23 คือ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงภายใต้การนำทัพของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสเปน ต้องพึ่งพา 2 อดีตผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง กาเบรียล เฆซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ในการเป็นกระดูกสันหลังของทีมเพื่อลุ้นแชมป์
เฆซุส และ ซินเชนโก้ ย้ายจาก เอทิฮัด สเตเดี้ยม มาเล่นกับ อาร์เซนอล เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัวรวมกัน 75 ล้านปอนด์ โดยหัวหอกทีมชาติบราซิล และ แบ็คทีมชาติยูเครน ช่วยกันผนึกกำลังทำให้ “ปืนใหญ่” มีลุ้นคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003
เฆซุส เข้ามาเติมเต็มในบทบาทกองหน้าหมายเลข 9 ส่วน ซินเชนโก้ เข้ามาอุดรอยรั่วทางแนวรับฝั่งซ้าย รวมถึงแดนกลางในบางเกม ซึ่งทำให้ทีมของ อาร์เตต้า มีการเล่นที่สมดุลมากขึ้น และมีการความแข็งแกร่งมากกว่าที่ผ่านมา
สำหรับ เฆซุส แม้จะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวไปนานกว่า 3 เดือน แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และดูเหมือนว่า ฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงจะไม่ได้หลุดหายไปเลย ขณะที่ ซินเชนโก้ ที่ได้รับบาดเจ็บขาหนีบ และไม่ได้ลงเล่นในเกมล่าสุดที่เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 นั้น ก็มีบทบาทนอกสนามอย่างมากในการให้คำแนะนำเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ
ในเวลานี้ อาร์เซนอล ของ อาร์เตต้า กำลังเผชิญบททดสอบอย่างหนักหลังจากใน 2 เกมล่าสุดนั้น พวกเขาไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล และ เวสต์แฮม ได้เลยทั้งที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน โดยบรรดากูรูเริ่มมองว่า “ปืนใหญ่” มีโอกาสจะหลุดฟอร์มจนโดน แมนฯซิตี้ แซงในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม การมีนักเตะที่มีประสบการณ์ลุ้นแชมป์อย่าง เฆซุส และ ซินเชนโก้ อยู่ในทีมนั้น ก็ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพจิตใจนักเตะ อาร์เซนอล คนอื่นๆได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งคู่รู้ดีว่า ควรทำอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน
เฆซุส และ ซินเชนโก้ เป็นแรงผลักดันที่ยอดเยี่ยมในห้องแต่งตัว และบทบาทของพวกเขาตลอดทั้งฤดุกาลที่ผ่านมาก็คือ ส่วนสำคัญในการตัดสินว่า พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” จะประสบความสำเร็จ หรือความล้มเหลว
ขณะเดียวกัน ปัญหาที่ชัดเจนที่สุดของ อาร์เซนอล ในตอนนี้คือ เกมรับที่ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากการที่ วิลเลี่ยม ซาลิบา เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติฝรั่งเศส วัย 22 ปี ที่เป็นคีย์แมนมาตลอดนั้น ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถลงช่วยทีมได้
นอกจากนี้ ผู้เล่นตัวหลักในเกมรุกอย่าง บูกาโย ซาก้า ปีกดาวรุ่งชาวอังกฤษ กำลังฟอร์มตกอย่างหนักหลังทำแค่ 1 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 เกมล่าสุด รวมถึงการพลาดจุดโทษในเกมนัดที่ผ่านมากับ เวสต์แฮม
เมื่อมองมาที่คู่แข่งสำคัญอย่าง แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ชาวสเปน ผลงานกำลังเข้าฝักสุดๆหลังเดินหน้าเก็บชัยชนะมาแล้ว 10 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งทำให้ อาร์เซนอล ต้องเรียกสติของตัวเองกลับมาโดยเร็วที่สุด และนักเตะอย่าง เฆซุส และ ซินเชนโก้ ต้องใช้ประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์
หาก อาร์เซนอล เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ในเกมต่อไปได้นั้น พวกเขาจะทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ไป 7 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 2 นัด ซึ่ง “เรือใบสีฟ้า” ไม่มีเกมลีกให้แข่งขัน เนื่องจากต้องทำศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
บางทีการลงแข่งก่อน และมีแต้มนำห่างก็อาจทำให้ อาร์เซนอล คลายความกดดันได้บ้างก่อนเกม ตัดสินแชมป์ที่จะออกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 27 เมษายนนี้ ซึ่งอาจเป็นเกมที่ เฆซุส และ ซินเชนโก้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังมีคุณภาพมากพอในการพาทีมเป็นแชมป์