เจมส์ การ์เนอร์ ทางออกของปัญหาแดนกลาง แมนยู - OPINION
มองจากดาวอังคารก็คงพอจะทราบว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาในแดนกลางมาอย่างยาวนาน ชนิดที่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่จะแก้ได้เสียที
โดยนับตั้งแต่ที่ พอล สโคลส์ แขวนสตั๊ดเป็นคำรบที่สอง พวกเขาใช้เงินไปหลายร้อยล้านกับกองกลางมากหน้าหลายตา ตั้งแต่ มารูยาน เฟลไลนี่, อันแดร์ เอร์เรรา, มอแกน ชไนเดอแลง, ปอล ป็อกบา, บาสเตียน ชไนสไตน์เกอร์ และ เนมานยา มาติช แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาทดแทนมิดฟิลด์ร่างเล็กผมสีเพลิงได้เลยสักคนเดียว
แต่โชคยังดีสำหรับ เอริค เทน ฮาก เมื่อคนที่ใช่ได้โผล่มาในเวลาที่ถูกต้องอย่างพอดิบพอดีและคนนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเสียด้วยสิ
เจมส์ การ์เนอร์ ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2019 กับ คริสตัล พาเลซ ขณะอายุเพียง 17 ปี และแม้จะไม่ได้ทันปล่อยของอะไรมาก แต่เขาก็ได้รับคำชื่นชมจาก โอเล กุนนาร์ โซลชา ว่าเป็นดาวรุ่งที่มีอนาคตไกลอย่างแน่นอน พร้อมยกเขาไปเปรียบเทียบกับ ไมเคิล แคร์ริค ในแง่ของการเล่นง่ายๆแต่ได้ประสิทธิภาพ
แต่สามปีผ่านไป แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงระส่ำกับการขาดกองกลางประเภทเดียวกับ แคร์ริค อยู่เหมือนเดิม
ส่วน การ์เนอร์ ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เพียงแค่ครั้งเดียวในช่วง 18 เดือนต่อมา ก่อนที่จะย้ายไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ กับ วัตฟอร์ด แบบยืมตัว
เขาไม่ค่อยได้โอกาสนักใน วิคาเรจ โร้ด ก่อนจะตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งในครึ่งฤดูกาลหลังไปยัง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ พร้อมได้ปล่อยของอย่างเต็มที่เสียที
4 ประตูจาก 20 เกมเพียงพอที่จะทำให้ เจ้าป่า กลับมายื่นข้อเสนอขอยืมตัวเขาอีกครั้งในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป - การ์เนอร์ ออกสตาร์ทได้ไม่สวยเอาเสียเลยในช่วงสองสัปดาห์
แต่การตัดสินใจของบอร์ดในการปลด คริส ฮิวจ์ตัน และแต่งตั้งอดีตกุนซือของ สวอนซี อย่าง สตีฟ คูเปอร์ เข้ามาแทน พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมากทั้งกับสโมสรและกับตัว การ์เนอร์ เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนในทีมชาติ อังกฤษ ชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี แถมแข้งจาก อคาเดมีของ ปีศาจแดง ยังมีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมของ คูเปอร์ อีกด้วย
การ์เนอร์ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการฟื้นคืนชีพของ ฟอเรสต์ กับบทบาทตัวควบคุมจังหวะของเกมที่มีหน้าที่สาดบอลไปรอบๆสนามและไล่กวดบอลช่วยเพื่อนยามทีมเป็นฝ่ายตั้งรับ
เขาถูกนำไปเปรียบกับ แคร์ริค ก็จริง แต่ การ์เนอร์ เองก็อันตรายไม่เบายามเติมเกมขึ้นไปหาจังหวะยิงไกลหรือวิ่งเป็นตัวหลอกให้เพื่อนๆแบบที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนักจากอดีตมิดฟิลด์หมายเลข 16
สายตาเริ่มจับจ้องไปที่เขามากขึ้นในรายการใหญ่อย่าง เอฟเอ คัพ เมื่อเขาคนเดียวเอากองกลางของ อาร์เซนอล เสียอยู่หมัด ไปจนถึงความสามารถในการเล่นลูกนิ่งจนได้แอสซิสต์ในเกมกับ เลสเตอร์ และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์
เมื่อต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล - ลูกทีมของ คูเปอร์ อาจจะไม่ได้เล่นได้อย่างเคย แต่ในเกมนั้นเราก็ได้เห็นการผ่านบอลทะลุช่องที่สวยงามจาก การ์เนอร์ ในแบบที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะต้องภูมิใจ
นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ การ์เนอร์ ทำได้ โดยที่ไม่มีกองกลางคนไหนของ ยูไนเต็ด ทำได้ในฤดูกาลนี้เลย คือการได้รับคำชมจาก รอย คีน
หลังตกรอบ เอฟเอ คัพ - ฟอเรสต์ ยังคำเดินหน้าทำผลงานได้ต่อเนื่องใน แชมเปี้ยนชิพ และเกือบจะแซงหน้า บอร์นมัธ เพื่อคว้าตั๋วเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติได้อยู่แล้วเชียว แต่การได้ไปเพลย์ออฟจริงๆก็นับว่าเกินคาดมากสุดๆแล้ว
เขาจบฤดูกาลด้วยการทำไป 4 ประตูกับ 8 แอสซิสต์จาก 41 เกม และมีคะแนนเฉลี่ยที่ 7.26 จากเว็บ Sofascore สูงที่สุดในทีมและเป็นอันดับที่ 3 ในลีก
มีตัวอย่างมากมายให้เห็น สำหรับผู้เล่นที่ไปได้สวยในลีกรองแต่กลับล้มไม่เป็นท่าใน พรีเมียร์ลีก อย่างเช่น ดไวท์ เกล และ มิโตรวิช กระนั้นมันก็ยังมีกรณีของ เมสัน เม้าท์ ที่ทำได้ดีทั้งกับ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ ก่อนจะเป็นผู้แอสซิสต์ประตูในรอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในอีกสองปีต่อมา
ท้ายที่สุดแล้ว พรีซีซั่นอาจจะให้คำตอบเราได้ดีที่สุดว่ากุนซือคนใหม่จะเอาอย่างไรกับพ่อหนุ่มวัย 21 คนนี้