บทพิสูจน์สุดท้ายของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก่อนถึงคราวกล่าวอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดกาล - OPINION

Manchester United v Brighton & Hove Albion - Premier League
Manchester United v Brighton & Hove Albion - Premier League / Michael Regan/GettyImages
facebooktwitterreddit

ทุกจังหวะที่กล้องจับภาพไปโซนม้านั่งข้างสนามระหว่างเกม แดงเดือด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เราก็จะเห็น คริสเตียโน โรนัลโด้ นั่งนิ่ง ๆ ทำหน้าตึงไม่พูดไม่จาไม่ยิ้มแย้มอยู่บนซุ้มม้านั่งสำรองตลอดเวลา ซึ่งดูแล้วก็อดจินตนาการถึงอารมณ์ความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของซุเปอร์สตาร์รายนี้ไม่ได้ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวมีข่าวลือไม่เว้นแต่ละวันถึงความไม่มีความสุขในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และต้องการจะย้ายออกถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทันทีก่อนที่ตลาดซัมเมอร์นี้จะปิดตัวลง

ไม่ใช่เรื่องผิดเลยแม้แต่น้อยที่คน ๆ หนึ่งจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตนเองโดยเฉพาะในบั้นปลายของอาชีพแบบนี้ ขนาดแฟนบอลเองยังไม่แฮปปี้กับสถานการณ์ของสโมสร นับประสาอะไรกับนักเตะที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบแบบเต็ม ๆ พร้อมทั้งต้องก้มหน้าน้อมรับคำด่าทอคำวิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ที่ถาโถมเข้ามาใส่แทบทุกวัน

Cristiano Ronaldo
Brentford FC v Manchester United - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

แน่นอนว่าเรื่องฝีเท้าของ โรนัลโด้ คงไม่มีใครหารกล้าตั้งคำถามอีกแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเองก็พิสูจน์มาแล้วนักต่อนักจนถึงปัจจุบันว่าเขาสามารถเทียบชั้นเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลแห่งยุคตีคู่กับ ลิโอเนล เมสซี อย่างปฏิเสธไม่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ โรนัลโด้ และนักเตะทุกคนจะไม่สามารถเอาชนะได้นั่นก็คือ "กาลเวลา" ที่เดินหน้าไปอย่างช้า ๆ เผลอแปปเดียวก็อายุ 37 ย่างเข้า 38 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นคืออุปสรรคสำคัญที่กำลังเข้ามากัดกินอาชีพค้าแข้งของเขาให้เหลือน้อยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ ทุกวินาทีตราบใดที่เวลายังคงเดินต่อไป

มีอะไรที่ โรนัลโด้ ยังต้องพิสูจน์อีก ?

ความสำเร็จ ? ถ้วยรางวัล ? การยกย่องสรรเสริญ ? สิ่งที่กล่าวไปเหล่านี้ CR7 ล้วนเคยประสบพบเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วทั้งสิ้นตั้งแต่สมัยที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันเมื่อ 20 ปีก่อน เพราะฉนั้นยังมีอะไรที่เขายังต้องพิสูจน์เพื่อให้ได้รับการยอมรับอีกล่ะ ?

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันข่าวลือแย่ ๆ ที่มีมูลดังที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ ณ เวลานี้ โรนัลโด้ เริ่มถูกทั้งคนรอบข้างรวมถึงแฟนบอลมองเขาในด้านลบมากขึ้น เริ่มเกิดคำถามขึ้นว่าทีมยังจำเป็นต้องมีเขาอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะถูกตอกย้ำด้วยผลงานของทีมที่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ชนิดที่เล่นได้ดีกว่าชัดเจน โดยที่พี่โด้นั่งมองเพื่อนร่วมทีมอยู่ข้างสนาม จนหลายคนมองว่าบางที "ไม่มีอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ"

ซึ่งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โรนัลโด้ ก็ไม่เคยออกมา ยอมรับ ปฏิเสธ หรือแสดงความเห็นใด ๆ กับข่าวที่ว่าเขาไม่มีความสุขและต้องการจะย้ายทีมเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงสื่อที่เล่นงานเขาอย่างหนักโดยอ้างอิงจากทั้งพฤติกรรมที่เริ่มแสดงออกมาทีละนิด ผลงานที่ย่ำแย่ รวมถึง การใกล้ถึงเวลาชี้เป็นชี้ตายช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะที่ใกล้เข้ามา

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วสมัยที่เจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ที่สุดท้ายไป ๆ มา ๆอยู่ดีดีก็กลับย้ายมาอยู่กับทีมเก่าอีกครั้งแบบเนียน ๆ ด้วยผลงานของ ฮอร์เก้ เมนเดส เอเยนต์มากฝีมือที่ทำให้ความต้องการของนักเตะในการดูแลของเขาเป็นจริง และ แมนฯ ยูไนเต็ด เองอาจจะกำลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกันนี้อยู่

Cristiano Ronaldo (Juventus Fc)
Cristiano Ronaldo of Juventus Fc looks on during the pre-... / Marco Canoniero/GettyImages

แน่นอนว่าหากสุดท้ายการย้ายทีมเกิดขึ้นทุกคนจะตีตราเขาว่าการย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมยังจบไม่สวย แม้จะมีดีกรีเป็นถึงนักเตะระดับตำนานของวงการ แต่การทิ้งสโมสรในช่วงเวลาอันยากลำบากไปแบบกลางคันเพราะต้องการความสำเร็จส่วนตัว อาจทำให้เขาเป็นได้เพียงตำนานของ เรอัล มาดริด ไม่ใช่ตำนานของ ปีศาจแดง ในสายตาของแฟนบอลก็เป็นได้

ตรงนี้เองคือบทพิสูจน์สุดท้ายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าเขาจะเลือกทำตามอีโก้ออกไปเดินหน้าไล่ล่าสิ่งที่ไม่แน่นอนต่อไป หรือจะยอมใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับสโมสรที่เขาเคยบอกว่ารักนักรักหนา และทำผลงานให้ดีที่สุด ลดทิฐิ ทุมเทกายใจ และพยายามแสดงออกให้ทุกคนเห็นว่าเขามุ่งมั่นจะทำเพื่อสโมสรมากกว่าตนเอง ลบล้างคำสบประมาท แม้สุดท้ายผลงานของทีมอาจจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่นั่นก็สามารถทำให้ทุกคนพูดได้อย่างเต็มปากว่าเขาทำเต็มที่เท่าที่ชายวัย 37 ปีจะทำได้แล้ว

นี่คือข้อกังขาสุดท้ายที่ โรนัลโด้ ยังต้องเลือก ว่าเขาจะยอมจำนนต่ออีโก้ดึงดันจะมองหาทีมที่ทำให้เขาบินได้สูงขึ้นต่อไป หรือจะเลือกที่จะอำลาจากไปแบบตำนานโดยยอมสละช่วงเวลาในชีวิตอีก 1 ปีใช้โอกาสสุดท้ายนี้ลองทำเพื่อคนอื่น เพื่อแฟนบอล และเพื่อชุบชีวิตสโมสรแห่งนี้อีกครั้ง แม้จะไม่สำเร็จแต่มันก็จะทำให้การใช้เวลาอยู่ร่วมกันครั้งสุดท้ายนี้มีความหมายมากกว่าเป็นแค่ช่วงเวลาร้าย ๆ ในบั้นปลายอาชีพเขา เพราะอีกมุมมันจะกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ที่เข้าไปอยู่ในใจของสาวก ปีศาจแดง ทุกคน ว่าเขาคือคนที่ยอมทุ่มเทเฮือกสุดท้ายทำเพื่อคนอื่น และพิสูจน์ว่าคู่ควรกับคำว่าตำนานสโมสรอย่างแท้จริง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม...


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด