อนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนไปของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
นับตั้งแต่เปิด พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มาอนาคตของกองหน้าอย่าง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในทีม อาร์เซนอล นั้นแทบจะหาแสงสว่างไม่เจอ จากการที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่บนม้านั่งสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่นับเรื่องสัญญาที่กำลังจะหมดลงในสิ้นเดือนเดือนมิถุนายนนี้อีก
ยิ่งเมื่อเข้าสู่เดือนมกราคมที่ตามกฎแล้วนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์จะสามารถเปิดการเจรจากับสโมสรนอกเกาะอังกฤษได้ ก็มีข่าวออกมาว่าเอเยนต์ของหัวหอกวัย 22 ปีกำลังพูดคุยกับทีมจากต่างแดนเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการย้ายทีมหลังจบฤดูกาล
มีหลายสโมสรที่ต้องการลายเซ็นของแข้งปืนโตรายนี้ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันว่าเขาได้ตกลงปลงใจกับทีมใด ซึ่งน่าจะทราบกันอีกทีก็คงช่วงปิดซีซันนั่นเลย
อย่างไรก็ตามด้วยโอกาสที่ได้รับจาก มิเกล อาร์เตต้า และฟอร์มการเล่นในช่วงหลัง อาจทำให้สถานการณ์ของเจ้าหนูเอ็ดดี้เปลี่ยนไป
เป็นที่รู้กันว่าจนถึงตอนนี้ อาร์เซนอล ยังไม่สามารถหาหัวหอกรายใหม่มาร่วมทีมได้เลย นับตั้งแต่ที่พวกเขาตัดสินใจปล่อย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัวให้กับ บาร์เซโลนา เมื่อเดือนมกราคม ในขณะที่ตัวที่มีอยู่อย่าง อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ ก็กำลังจะหมดสัญญา
รายชื่อของนักเตะบิ๊กเนมมากมายอยู่ในเรด้าร์ของผู้อำนวยการเทคนิคอย่าง เอดู และ อาร์เตต้า ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนกันอีกทีเมื่อตลาดซื้อขายซัมเมอร์เปิดทำการ แต่ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากพวกเขาไม่คิดจะรั้ง เอ็นเคเทียห์ เอาไว้ใช้งานต่อไป
3 นัดหลังสุดที่ อาร์เซนอล สามารถเก็บได้ 9 คะแนนเต็มจากการเจอคู่ต่อสู้ระดับเขี้ยวลากดินอย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และล่าสุดกับ เวสต์แฮม นั้น อาร์เซนอล ส่งหัวหอกวัย 22 ปีประเดิมสนามตั้งแต่นาทีแรกทุกนัด
และผลที่ออกมานอกจากจะเก็บชัยชนะรวดจนทำให้ เดอะกันเนอร์ส แซง ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ กลับขึ้นไปอยู่กันดับ 4 ของตารางได้สำเร็จแล้ว เอ็นเคเทียห์ ยังยิงได้ 2 ประตู จากเกมที่เอาชนะ สิงห์บลู 4-2 ด้วย นั่นหมายความว่าตอนนี้ฝีเท้าของหัวหอกลูกครึ่งอิงลิช-กานาเริ่มพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมและกลายเป็นนักเตะที่มีบทบาทสำคัญในเกมรุกของ อาร์เตต้า ไปแล้ว
ด้วยสไตล์การเล่นที่สามารถครองบอลได้ดีในพื้นที่สุดท้ายในแดนคู่ต่อสู้ และสามารถถ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมเติมขึ้นมาสร้างความอันตรายได้ ซึ่งการเล่นแบบนี้ทำให้ทีมคู่แข่งต้องคอยรับมือกับการประสานงานระหว่างเขากับ บูคาโย ซาก้า และ เอมิล สมิธ โรว อยู่บ่อย ๆ
นอกจากนั้น เอ็นเคเทียห์ ยังเป็นกองหน้าที่ชอบรับบอลและควบเข้าหาประตู พร้อมด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่ทำให้เขาสามารถเลี้ยงบอลในพื้นที่แคบ ๆ ได้ดี และหาตำแหน่งในการจบสกอร์ได้อยู่เสมอ
ดูได้จากเกมที่เจอกับ เวสต์แฮม ล่าสุด กองหน้าปืนโตเป็นนักเตะที่สร้างปัญหาให้กับแนวรับของเจ้าบ้านได้มากที่สุด สร้างสถิติพยายามจบสกอร์ 6 ครั้งโดยยิงตรงกรอบจนทำให้ ลูคัส ฟาเบียงสกี้ ต้องออกแรงเซฟถึง 4 ลูก ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่านักเตะทุกคนที่อยู่ในสนาม
คุณสมบัติที่สำคัญของ เอ็นเคเทียห์ อีกอย่างหนึ่งที่ โอบาเมยอง และ ลากาแซ็ตต์ ไม่มีคือความเร็ว ซึ่งจุดนี้ทำให้ อาร์เซนอล มีตัวเลือกในเกมรุกมากขึ้น โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อบอลสั้นเพื่อขยับหาช่องว่างในการเข้าทำเสมอไป การใช้บอลไดเร็กจากแนวลึกและอาศัยการสปีดของเขาสามารถสร้างความอันตรายที่คาดไม่ถึงให้กับคู่ต่อสู้ได้เช่นเดียวกัน
ความเร็วที่ว่านี้ยังช่วยให้ทีมเปลี่ยนจากเกมรุกเป็นรับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจที่ มาร์ติน โอเดการ์ด จะมีสถิติการวิ่งขึ้นเติมเกมรุกมากที่สุดในทีม (5 ครั้ง) ในเกมที่เฉือนชนะ ขุนค้อน เมื่อวันอาทิตย์
จากที่กล่าวมาทั้งหมด เอ็นเคเทียห์ ใช้เวลาเพียง 3 เกมในการพิสูจน์ว่าตัวเขาเองมีพัฒนาการและกลายเป็นผู้เล่นที่มีส่วนสำคัญในเกมรุกของ อาร์เซนอล ได้เป็นที่เรียบร้อย แม้ในช่วงต้นซีซันเขามักจะถูกเมินและหลายคนก็มองว่าเจ้าตัวไม่น่าจะมีอนาคตในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แล้วก็ตาม
และหากว่า เดอะกันเนอร์ส สามารถบรรลุเป้าหมายด้วยการคว้าอันดับ 4 กลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ อาร์เตต้า และ เอดู จะต้องเจอกับคู่แข่งจากหลายสโมสรที่พยายามดึงกองหน้าวัย 22 ปีไปร่วมทีมอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อดูจากผลงานในช่วงที่ผ่านมา มันก็น่าจะคุ้มค่าพอที่จะโน้มน้าวให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ฝากอนาคตในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด