[OPINION] เคอร์ติส โจนส์ & เนโก้ วิลเลียมส์ : ‘ความหวัง’ ในเกมน่าผิดหวังของ ลิเวอร์พูล
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
เกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ เบิร์นลีย์ ไปอย่างน่าเสียดาย ทำเอาบรรดา เดอะค็อป ต่างหัวเสียกันยกใหญ่ ผลการแข่งขันที่ออกมาไม่โสภาสถาพร เมื่อทีมรักไม่สามารถทำสถิติรักษาชัยชนะในบ้านได้ และอาจจะลามไปถึงการทำลายสถิติ 100 คะแนนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยทำไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
รูปเกมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ ต่างเป็นห่วง เพราะหากยังเล่นกันแบบนี้ต่อไปการป้องกันแชมปป์ในซีซันหน้าก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับ คล็อปป์ และลูกทีม
ในอีกมุม แฟนอีกกลุ่มก็ออกมาเตือนสติกันว่า อย่าลืมสิว่า หงส์แดง คว้าแชมป์ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เกมที่ 31 การที่จะใส่เต็มแม็กใน 7 เกมที่เหลือนั้นคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ลีกให้ได้หลังจากที่ 30 ปีที่ผ่านมาได้แต่นั่งดูทีมอื่นเค้าชูถ้วยกันสลอน
เป็นเรื่องธรรมดาที่ภารกิจเสร็จสิ้น แรงจูงใจและความมุ่งมั่นมันก็น้อยลงไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็รู้ดี เพียงแต่ว่าเขาจะทำอย่างไรเพื่อเข็นให้ลูกทีมเล่นเกมที่เหลือด้วยชัยชนะและเป็นที่พอใจของแฟนบอล
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการแข่งขันและการทำลายสถิติจะดูเป็นเรื่องไม่น่าพอใจ แต่อีกด้านของความมืดมิดก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่า 'ความหวัง' ค่อย ๆ ส่องแสงเรืองรองให้ได้เห็น
ในเกมดังกล่าว เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่งดาวรุ่ง 2 คนประเดิมสนามเป็น 11 ตัวจริง นั่นคือ เคอร์ติส โจนส์ และ เนโก้ วิลเลียมส์ โดยรายแรกประจำการในแดนกลางด้านขวา ส่วนรายหลังได้กลับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาที่ถนัด หลังจากที่ในเกมกับ ไบรท์ตัน โดนโยกไปเล่นด้านซ้าย
จะว่าไปซีซันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับบรรดาแข้งดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล เมื่อหลายคนได้รับโอกาสในการลงสนามในทีมชุดใหญ่ทั้งในฟุตบอลถ้วยและ พรีเมียร์ลีก กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
เคอร์ติส โจนส์ คือหนึ่งในนั้น เพราะนับตั้งแต่ฟุตบอลอังกฤษกลับมาในโครงการ ‘รีสตาร์ท’ เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมลีกแถมยังทำประตูแรกของตัวเองได้เรียบร้อย ในขณะที่ วิลเลียมส์ ก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไปแล้วเช่นกัน
และในเกมที่เจ๊ากับ เดอะคลาเร็ต ทั้งคู่ก็มีชื่อเป็น 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง
แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาไม่น่าพิสมัย แต่ดาวรุ่งทั้ง 2 รายได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีดีขนาดไหนและพร้อมฉายแสงทุกครั้งเมื่อได้รับโอกาสจากผู้เป็นกุนซือ
ในเกมกับ ไบรท์ตัน เจ้าหนู วิลเลียมส์ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ก่อนที่จะโดนโยกกลับมาประจำการในตำแหน่งแบ็คขวาที่ถนัดในเกมล่าสุด ซึ่งก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจทำเอาฟูลแบ็ครุ่นพี่อย่าง ‘ร็อบโบ้’ ถึงกับต้องยืนขึ้นปรบมือให้กับความสามารถของไอ้หนูวัย 19 ปีรายนี้รวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง เคอร์ติส โจนส์
“พวกเขาทำได้ยอดเยี่ยมมาตลอดทั้งซีซันและมีส่วนผลักดันนักเตะคนอื่น ๆ ในตำแหน่งเดียวกัน ผมคิดว่า เนโก้ นั้นเล่นได้ดีและผมก็พยายามช่วยเขาทุกครั้งที่ทำได้ในฐานะนักเตะที่เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คเหมือนกัน” โรเบิร์ตสัน กล่าวกับ บีบีซี สปอร์ต หลังจบเกมเมื่อวันเสาร์
“เคอร์ติส เป็นนักเตะที่มีความเชื่อมั่นและมีทุกอย่างพร้อมซึ่งเขาได้แสดงออกมาให้เห็นในวันนี้ ผมหวังว่าเขาจะมีเส้นทางอาชีพที่ยิ่งใหญ่กับ ลิเวอร์พูล”
คำพูดของ ร็อบโบ นั้นสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของกัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่พูดถึงดาวเตะหมายเลข 48 คนนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ว่า
“เขาสามารถประสบความสำเร็จในทุกอย่างที่เขาต้องการ ถ้าเขายังคงมีทัศนคติที่ทำให้แน่ใจว่าจะทำให้สามารถพัฒนาฝีเท้าและได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เขาจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก”
โจนส์ เพิ่งจะได้รับสัญญาฉบับใหม่เป็นเวลา 5 ปีเมื่อสัปดาห์ก่อนและถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาในการพัฒนาฝีเท้าท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่พร้อมสรรพที่ ลิเวอร์พูล พร้อมกับโอกาสที่ได้ลงสนามแทนที่รุ่นพี่ที่ได้รับบาดเจ็บหรือต้องอำลาสโมสร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาได้ทำงานร่วมกับทีมที่เป็นทั้งแชมป์โลก, แชมป์ยุโรป และ แชมป์ พรีเมียร์ลีก ในทุก ๆ วัน
นอกจาก ร็อบโบ้ แล้ว ฟาบินโญ ยังเป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาประสานเสียงชื่นชมมิดฟิลด์วัย 19 ปีและเชื่อมั่นว่าเจ้าตัวจะกลายเป็นยอดนักเตะได้ในอนาคต
“แน่นอนว่าผมมองเห็นศักยภาพของเขา เคอร์ติส เป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากและเราก็มีความเชื่อมั่นในตัวเขาเช่นกัน” กองกลางทีมชาติบราซิลกล่าวกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร
“วันนี้เขาเล่นได้ดีและเกือบพังประตูได้ถึง 2 ครั้ง เรารู้ว่าเขาทำงานอย่างหนักทุกวันกับพวกเราและเขาก็พร้อมแล้ว เขาเป็นคนที่ความโดดเด่นเฉพาะตัว และเราก็เชื่อมั่นในตัวเขา”
ด้วยการที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้เปิดประตูแห่งโอกาสให้กับบรรดาผู้เล่นดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่นั้น โจนส์ คือหนึ่งผลผลิตที่ประสบความสำเร็จในก้าวแรกของเขาเป็นที่เรียบร้อย และเชื่อได้ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของเจ้าหนูรายนี้อย่างแน่นอน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด