ทางเลือกที่ไม่ง่ายหลังการหลุดพ้นช่วงเวลาอันดำมึดของอดีตเพชรน้ำงาม แมนยู: เมสัน กรีนวู้ด - OPINION

มิเรอร์ สื่อดังของอังกฤษออกมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับอนาคตการค้าแข้งของ เมสัน กรีนวู้ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังใน พรีเมียร์ลีก หลังจากเจ้าตัวหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเรื่องทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนอดีตแฟนสาวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

หากจำกันได้เมื่อต้นปีที่แล้วแข้งวัย 21 ปีถูกตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์บุกจับกุมและตั้งข้อหากระทำการรุนแรง ทำร้ายร่างกาย และพยายามข่มขืนแฟนสาวของตน โดยหลังจากนั้นไม่นานทางทีม ปีศาจแดง ก็ประกาศห้ามนักเตะรายนี้ยุ่งเกี่ยวกับสโมสรจนกว่าการพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จ รวมทั้งสปอนเซอร์ส่วนตัวต่าง ๆ ก็พากันถอนตัวออกไปด้วย

ตอนนั้นเรียกได้ว่าอนาคตของ กรีนวู้ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นมืดมนพอ ๆ กัน ในขณะที่สโมสรผลงานยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ พวกเขายังมาเสียกองหน้าดาวรุ่งตัวความหวังจากพฤติกรรมส่วนตัวที่ผิดกฎหมายไปเสียอีก แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นมืออาชีพของสโมสรที่รับลูกอย่างทันควัน พร้อมกับสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มที่จนกว่าจะมีคำตัดสินออกมา

ไม่มีใครคิดว่า กรีนวู้ด จะรอดพ้นจากเงื้อมือกฎหมายไปได้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าที่อังกฤษนั้นมีการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง ตรงไปตรงมา แม้คุณจะเด่นดังมาจากไหนหากพบเจอหลักฐานว่ากระทำความผิด โอกาสรอดนั้นน้อยมาก

แต่หลังจากที่ต่อสู้กันในทางกฎหมายมา 1 ปีเต็ม เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กรีนวู้ด ก็สามารถหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของ เกรทเทอร์ แมนเชสเตอร์ ได้มีแถลงการณ์เรื่องการยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาออกมา นั่นจึงทำใครหลายคนรอดูว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน ต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาจะยังไม่ให้นักเตะกลับเข้าสู่ทีม และจะมีการสอบสวนด้วยตัวเองเพื่อหาข้อสรุปเสียก่อน รวมทั้งทาง เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมก็ให้สัมภาษณ์ว่า เขายืนยันตามที่สโมสรได้แถลงไปก่อนหน้านั้น และไม่มีความเห็นเพิ่มเติม

ในขณะเดียวกันกระแสข่าวส่วนใหญ่ก็ออกมาในทางที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ มีรายงานว่านักเตะในทีมส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยที่จะให้ กรีนวู้ด กลับเข้าทีม บางส่วนมองว่าน่าจะเป็นฤดูกาลหน้า โดยให้แข้งรายนี้ไปเรียกความฟิตและฟื้นฟูสภาพจิตใจเสียก่อน ในขณะที่ทีมหญิงของ แมนยู รวมตัวกันเรียกร้องไม่ให้สโมสรรับดาวรุ่งวัย 21 ปีกลับมา และเสียงของแฟนบอลส่วนหนึ่งราว 30-40% ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ทำให้ทางสื่อใหญ่เมืองผู้ดีอย่าง มิเรอร์ คาดการณ์ว่าโอกาสที่กองหน้าชาวอังกฤษจะได้กลับสู่ทีมนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก แม้ว่าจะเหลือสัญญาอยู่กับทีมจนถึงปี 2025 ก็ตาม แต่ก็ยังพอจะมีทางเลือกให้นักเตะได้ตัดสินใจหากต้องย้ายออกจากิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในอนาคตอันใกล้นี้

โดยทางเลือกสำหรับ กรีนวู้ด ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในเวลานี้ มี 4 ออปชั่น คือ การย้ายไปค้าแข้งในยุโรป, ย้ายไปเล่นใน MLS สหรัฐอเมริกา, ย้ายไปเล่นในตะวันออกกลาง และสุดท้ายคือการย้ายไปเล่นใน ไชนิส ซูเปอร์ลีก ของประเทศจีน

ดูแล้วการค้าแข้งในบ้านเกิดคงเป็นไปได้ยากมาก แต่แม้ว่าแข้ง ปีศาจแดง จะมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง การย้ายออกไปค้าแข้งในต่างแดนก็คงไม่ใช่เรื่องหมู ๆ ช่นเดียวกัน

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากออปชันที่ออกมาแล้ว ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้า กรีนวู้ด ย้ายไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มตั้งแต่การย้ายไปเล่นในลีกตะวันออกกลางและเมืองจีน ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีความคล้ายคลึงกันตรงที่นักเตะจะได้ไปเล่นในเอเชีย แต่สิ่งที่ต้องแลกก็คือเงินค่าเหนื่อยที่น้อยลงไปด้วย จากที่ได้รับอยู่ที่ 75,000 ต่อสัปดาห์อาจจะเหลือเพียงประมาณ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งเป็นระดับเพดานเงินค่าเหนื่อยสูงสุดของทั้ง 2 ที่

อาจจะมีคนแย้งว่า ทำไม คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ย้ายไปเล่นกับ อัล นาสเซอร์ ถึงได้ค่าเหนื่อยแพงสุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลได้ล่ะ คำตอบคือสโมสรยอมจ่ายให้แค่แข้งโปรตุกีสคนเดียวเท่านั้น เพราะนักเตะในทีมที่ได้ค่าเหนื่อยรองลงมาอย่าง นอร์ดิน อาร์มาบัต ก็ได้เพียง 54,000 ต่อสัปดาห์เท่านั้น

ในขณะเดียวกันตัวเลือกต่อมาคือ การย้ายไปเล่นใน MLS นั้นอาจทำให้ กรีนวู้ด ได้เงินเพิ่มจากเดิม เช่นเดียวกับบรรดาสตาร์ที่เคยค้าแข้งในยุโรป เช่น ลอเรนโซ อินซินเญ ที่รับอยู่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งสูงที่สุดในลีก ในขณะที่ เซอร์ดาน ชากิรี อดีตปีก ลิเวอร์พูล ได้เงินอยู่ที่ 1150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ส่วนอดีตกองหน้า แมนยู อย่าง ชิชาริโต้ ได้รับอยู่ที่ 95,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และ กอนซาโล อิกัวอิน รับไปที่ 85,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

แต่ มิเรอร์ ก็มองว่าด้วยสถานการณ์ของกองหน้า ปีศาจแดง ในตอนนี้ MLS คงไม่อยากจะทุ่มเงินจ้างด้วยค่าเหนื่อยแพง ๆ แน่ ขนาด คริสติยอง เบนเตเก้ ที่เพิ่งย้ายไป ดีซี ยูไนเต็ด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมายังได้รับแค่ 63,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น

เช่นเดียวกันหาก กรีนวู้ด ตัดสินใจย้ายไปเล่นบนแผ่นดินยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นลีกชั้นนำอย่าง ลาลีกา, บุนเดสลีกา, กัลโช เซเรีย อา หรือ ลีกเอิง แต่ทั้งหมดนี้เรื่องการจ่ายเงินค่าเหนื่อยยังตามหลัง พรีเมียร์ลีก อยู่มาก จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะได้รับเงินจำนวนเท่าเดิมตามที่ต้องการได้

ในช่วงเวลาต่อจากนี้คงต้องอดใจรอกันอีกซักหน่อยกว่าที่การสืบสวนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสิ้นสุด และถึงเวลานั้นเราก็จะได้รู้ว่าอนาคตของนักเตะรายนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน แต่บอกเลยว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งที่ กรีนวู้ด ต้องรับมือต่อจากนี้ก็คือกระแสสังคมที่พร้อมจับตามองอยู่ทุกขณะนั่นเอง