ว่าด้วยปัญหาใหญ่ เชลซี กับ 3 ความเห็นของ 3 ตำนานจาก 3 เจนเนเรชั่น - OPINION
โดย Navapun Munarsa
ติอาโก้ ซิลวา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟมากประสบการณ์ชาวบราซิลของ เชลซี ทีมยักษใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความคิดเห็นว่า ทุกคนในสโมสรต้องหยุดคิด และเตรียมวางแผนสำหรับฤดูกาลหน้าให้ดีหากไม่อยากเจอวิกฤตเหมือนในปีนี้
นับตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา “สิงโตน้ำเงินคราม” ทุ่มเงินเสริมทัพในตลาดนักเตะ 2 รอบล่าสุดไปมากกว่า 550 ล้านปอนด์ แต่กลับล้มเหลวด้วยการตกรอบฟุตบอลถ้วยทุกรายการ และหล่นมารั้งอันดับ 11 ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก
อดีตกองหลัง เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กล่าวว่า “ผู้จัดการทีมสามารถเลือกนักเตะได้เพียง 11 คน จาก 30 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก และแน่นอนว่า จะมีคนอารมณ์เสียอยู่เสมอ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเล่นได้ เราต้องจัดการห้องแต่งตัว เพราะมันไม่พอดีกับขนาดทีมเลย”
โบห์ลีย์ ยอมทุ่มเงินมากมายเพื่อคว้านักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม ซึ่งหากรวมกับผู้เล่นเดิมแล้วเป็นจำนวนเกือบ 30 ราย นอกจากนี้ ยังปลด โธมัส ทูเคิล และ เกรแฮม พอตเตอร์ ออกจากตำแหน่งกุนซือ และปัจจุบันแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีม แต่ผลงานยังไม่กระเตื้องหลังพ่ายไปแล้ว 4 เกมติดต่อกัน
ซิลวา กล่าวต่อว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับสโมสร มันเกิดความไม่แน่นอนอย่างมาก ข้อดีคือมีผู้เล่นที่น่าทึ่งในทีมมากมาย แต่ในทางกลับกันก็มีผู้เล่นที่ไม่มีความสุขอยู่เสมอ เราจำเป็นต้องหยุดและวางกลยุทธ์ใหม่ ไม่อย่างนั้นฤดูกาลหน้าเราอาจทำผิดพลาดแบบเดียวกัน”
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เชลซี ได้ทำการพูดคุยเบื้องต้นกับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ อดีตกุนซือ บาเยิร์น มิวนิค ถึงการเข้ามาคุมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว นอกจากนี้ หลุยส์ เอ็นริเก อดีตโค้ชทีมชาติสเปนก็เคยอยู่ในข่ายพิจารณาเช่นกัน
“เราคอยชี้ความผิดที่ผู้จัดการทีม แต่เราต้องมองเข้าไปข้างในลึกๆ และดูว่าเรากำลังทำอะไรผิด และเราต้องพยายามเปลี่ยนแปลงมัน อย่างแรก เราต้องมองหาสิ่งที่เราทำผิด และต้องเล่นเป็นทีมให้มากขึ้น เพราะเราไม่ต้องการฮีโร่
“เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ถ้าเราทำในสิ่งที่เราต้องทำ อย่างน้อยที่สุด เราก็สามารถจบมันได้อย่างสมศักดิ์ศรี” ปราการหลังแซมบ้าวัย 38 ปี กล่าว
ดิดิเยร์ ดร็อกบา อดีตกองหน้าของ เชลซี กล่าวว่า ตอนนี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่ใช่ทีมเดิมที่เขาเคยรู้จักอีกแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในระหว่างปี 2004-2012 และคว้าแชมป์ไปถึง 12 รายการ
ดร็อกบา อธิบายว่า “เชลซี ไม่ใช่สโมสรเดิมอีกต่อไป ผมจำสโมสรของผมไม่ได้เลย พวกเขามีเจ้าของคนใหม่ และวิสัยทัศน์ใหม่ เราพยายามเปรียบเทียบกับสิ่งที่ทำในยุค โรมัน อับราโมวิช ซึ่งมีการซื้อนักเตะเข้ามามากมาย แต่เป็นตัวเลือกที่ฉลาดมาก"
“การนำผู้เล่นอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, อังเดร เชฟเชนโก้, เฮอร์นาน เครสโป, ไมเคิ่ล เอสเซียง, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูด้า และผม มันทำให้ทีมก้าวหน้า มันเป็นการสร้างทีมเพื่อคว้าแชมป์ และพวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว
“แต่ตอนนี้ เชลซี มีแนวทางที่แตกต่างออกไป พวกเขาเดิมพันกับผู้เล่นอายุน้อย ผมคิดว่าพวกเขาขาดผู้เล่นที่มีความเป็นผู้นำ และพวกเขาต้องการผู้เล่นที่มีความรับผิดชอบมากกว่านี้”
กุสตาโว โปเยต์ อดีตมิดฟิลด์ของ เชลซี แสดงความคิดเห็นว่า “ภายใต้การบริหารงานของ อับราโมวิช 90% ของผู้เล่นที่เข้ามาจำเป็นต้องโชว์ลงานทันที และถ้าคุณไม่ทำแบบนั้น คุณก็ต้องย้ายออกไป”
“ตอนนี้ เชลซี มีผู้เล่นใหม่กลุ่มหนึ่งที่มาถึงในเดือนมกราคม บางทีอาจยกเว้น เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และ ชูเอา เฟลิกซ์ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นดูเหมือนว่า จะพร้อมสำหรับอนาคตมากกว่า แต่อนาคตคืออะไร ปีหน้าหรือ 2 ปี แฟน เชลซี ไม่ชินกับการรอคอย”
ปัญหาที่กำลังถาโถมเข้ามาใส่ เชลซี ในเวลานี้ โบห์ลีย์ และทีมงานของเขากำลังเจอการบ้านกองโตในช่วงปิดฤดูกาล ซึ่งหากตัดสินใจผิดพลาดนั้น “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็อาจหลุดวงโคจรสู่ความสำเร็จไปอีกหลายปีก็เป็นได้