ภาพรวมของ เชลซี ในช่วงปรีซีซันที่จะต่อยอดไปถึงฤดูกาล 2023-3024 - OPINION

  • เชลซี ทำผลงานดีในช่วงปรีซัน
  • กำลังมองหานักเตะมาร่วมทีมเพิ่มเติม
  • มีสไตล์การเล่นที่น่าจับตามอง
Chelsea FC v Newcastle United: Premier League Summer Series
Chelsea FC v Newcastle United: Premier League Summer Series / Kevin C. Cox/GettyImages
facebooktwitterreddit

มันเป็นเวลากว่า 4 สัปดาห์แล้วที่ เมาริซิโอ โปช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนติน่า เข้ามาคุมทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างแท้จริง

เชลซี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์ ซีรีส์ ครั้งแรก ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา โดยมีทีมอย่าง ฟูแล่ม, แอสตัน วิลล่า, เบรนท์ฟอร์ด และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งยังได้อุ่นเครื่องอีก 2 เกมกับ เร็กซ์แฮม และ โบรุสเซีย ดอร์มุนด์

ภายใต้การคุมทัพของ โปเช็ตติโน่ นั้น เชลซี ไม่พบกับความปราชัยเลยแม้แต่เกมเดียวในช่วงพรีซีซัน และพวกเขามีคิวจะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกบิ๊กแมตช์กับ ลิเวอร์พูล ในเกมลีกนัดเปิดฤดูกาล วันที่ 13 สิงหาคมนี้

Enzo Fernandez
Chelsea FC v Borussia Dortmund - Pre-Season Friendly / Justin Casterline/GettyImages

นับตั้งแต่ถูกเทคโอเวอร์สโมสรด้วยมูลค่า 4.25 พันล้านปอนด์ โดยกลุ่มนักธุรกิจชาวอเมริกันอย่าง ท็อดด์ โบห์ลีย์ นั้น เชลซี เปลี่ยนนโยบายการทำธุรกิจด้วยการมองหานักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงเข้ามาร่วมทีมตลอด แต่สำหรับ โปเช็ตติโน่ เขาต้องการผู้เล่นที่มีประสบการณ์เช้ามาช่ววประคองทีมบ้าง

 ในช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ เป็น 2 กองกลางตัวหลักที่ โปเช็ตติโน่ เลือกใช้งาน และ เชลซี กำลังไล่ล่าตัว มอยเซส ไกเซโด มิดฟิลด์ ไบรท์ตัน อย่างหนัก แต่การเจรจาไม่มีความคืบหน้ามากนัก

อย่างไรก็ตาม มันยังมีเรื่องดีอยู่บ้างหลังจาก อันเดรย์ ซานโตส มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวบราซิลที่ เชลซี เซ็นสัญญามาจาก วาสโก ดา กามา เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นั้น ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยได้ออกสตาร์ท 3 จาก 5 เกมที่สหรัฐอเมริกา และพร้อมจะเป็นตัวเลือกในทีมชุดแรกได้

ก่อนหน้านี้ โปเช็ตติโน่ ยืนยันว่า ต้องการจะลดขนาดทีม เชลซี ชุดนี้ และต้องการใช้งานผู้เล่น 22-23 คนเท่านั้น โดยพร้อมจะมอบให้โอกาสให้เด็กจากทีมเยาวชนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และบางเกมที่จะสามารถลงเล่นได้

ความต้องการของ โปเช็ตติโน่ หมายความว่า เชลซี ต้องการผู้เล่นใหม่ที่ใช้งานได้ทันที 2-3 ราย ในตำแหน่ง กองหลังตัวกลาง, มิดฟิลด์ตัวรุก และกองหน้าตัวเป้า ซึ่งพวกเขามีเวลาอีกราว 3 สัปดาห์ ก่อตลาดนักเตะจะปิดทำการ

Christopher Nkunku, Ben Chilwell, Thiago Silva
Chelsea FC v Fulham FC: Premier League Summer Series / Mike Stobe/GettyImages

ขณะเดียวกัน ในซัมเมอร์นี้ เชลซี ทำธุรกิจครั้งใหญ่ 2 ดีล ด้วยการคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส มาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ และ นิโกลาส์ แจ็คสัน ดาวยิงชาวเซเนกัล จาก บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์

 ในเกมอุ่นเครื่องที่สหรัฐฯ  เอ็นคุนคู ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการซัดไป 3 ประตู จาก 5 เกม ก่อนจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ แจ็คสัน ก็ระเบิดฟอร์ซัดไป 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ซึ่งดูเหมือนว่า พวกเขาจะเป็นอนาคตในระยะยาวของ เชลซี

 นอกจากนี้ โปเช็ตติโน่ ยังให้โอกาวนักเตะดาวรุ่งหลายรายได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่อง อาทิ บาเชียร์ ฮัมฟรียส์, เอียน มัตเซน และ เซซาเร่ คาซาดี้ โดยบรรดาผู้เล่นอายุน้อยเหล่านี้ต่างก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

ตลอดทั้งปรีซีซั่น เชลซี ของ โปเช็ตติโน่ ลงเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 มาตลอด โดยนักเตะสลับตำแหน่งกัน เล่นด้วยพลังงาน และมีความเข้มข้นในการเพรสซิ่งตลอดทั้งเกม ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เชลซี ของ โปเช็ตติโน่ ยังมีงานต้องทำอีกมาก แต่มันก็ผลงานที่พอใจกับการจบปรีซีซั่นแบบไร้พ่าย พร้อมกับคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์ ซีรีส์ และเรากำลังได้เห็นว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” ชุดนี้ กำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง