เบิร์นลี่ย์ ในมือของ แวงซองต์ กอมปานี จะรุ่งหรือร่วงใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า - OPINION
- เบิร์นลี่ย์ กลับมาสู่ศึก พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
- แวงซองต์ กอมปานี ทำผลงานได้ดี
- วางแผนอยู่รอดในลีกระยะยาว
โดย Navapun Munarsa
เบิร์นลี่ย์ หวนกลับมาสู่ศึก พรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ซึ่งพวกเขามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะอยู่ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีให้นานที่สุด และไม่ต้องการตกชั้นลงไปเล่นในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกแล้ว
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เบิร์นลี่ย์ ภายใต้การนำทัพของ แวงซองต์ กอมปานี ผู้จัดการทีมชาวเบลเยียม และอดีตกองหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการคว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และเก็บได้ถึง 101 คะแนน พร้อมคว้าตั๋วกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก แบบอัตโนมัติ
จากผลงานดังกล่าวทำให้ กอมปานี ได้รับคำยกย่องว่า เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ เบิร์นลี่ย์ กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุก และครองบอลสร้างสรรค์เกม ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่เล่นในสไตล์โบราณอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ เบิร์นลี่ย์ อยู่ระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมปรีซีซันเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลหน้า และสนามซ้อมบาร์นฟิลด์ ก็กำลังคึกคักเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ โดย ไมค์ แจ็คสัน ผู้ข่วยกุนซือ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำงานหนักเพื่อเผชิญความท้าทายที่รออยู่
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 20021-22 นักเตะ สต๊าฟโค้ช และกองเชียร์ เบิร์นลี่ย์ ต้องทนทุกข์ทรมานกับการตกชั้นจากศึก พรีเมียร์ลีก ในรอบ 6 ปี โดยพลพรรค “เดอะ คลาเร็ตส์” จบด้วยอันดับ 18 และ แจ็คสัน ที่เข้ามารับงานต่อจาก ฌอน ไดช์ ในช่วง 8 เกมสุดท้ายก็ไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้
แจ็คสัน กล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วการตกชั้นยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดผมเสมอ มันไม่หายไปไหนหรอก แต่คุณก็พยายามเอามันออกจากหัวให้ได้ แต่หลังจากการทำงานทั้งหมดที่เราทำในฤดูกาลที่แล้ว ทุกคนที่สโมสรมีความตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง มันเป็นสิ่งที่เรารอคอย”
ขณะที่ แอนดี บายส์ บรรณาธิการกีฬาของ “BBC Radio” แสดงความคิดเห็นว่า กอมปานี คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ เบิร์นลี่ย์ โดยระบุว่า “เบิร์นลี่ย์ มีสไตล์ที่เปลี่ยนไปภายใต้การคุมทีมของ แวงซองต์ กอมปานี มันชัดเจนตั้งแต่วันแรก พวกเขาเล่นฟุตบอลที่ลื่นไหล รวดเร็ว และการขึ้นเกมจากแนวรับแท็คติคหลักของพวกเขา”
แจ็คสัน กล่าวต่อว่า “แวงซองต์ มาพร้อมกับบุคลิก และความใส่ใจในสิ่งที่เขาต้องการ และทุกสโมสรต้องการทำตามเขา เราสร้างขั้นตอนต่าง ๆ ตลอดฤดูกาลที่แล้ว และปรับปรุงตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งน่ายินดีที่ได้เห็นผลที่ออกมา”
“ไม่มีใครรู้ว่าเรามีความพร้อมที่ดีกว่าหรือไม่ แต่หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของ แวงซองต์ คือ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผู้เล่น และทีมงาน หากคุณทำตามแนวทางเหล่านี้ คุณก็กำลังพัฒนาตัวเอง และหวังว่าเราจะปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้นได้อีก”
“เมื่อคุณอยู่กับผู้จัดการทีมแบบ แวงซองต์ คูณต้องมีความเชื่ออย่างแท้จริงในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ นักเตะออกไปเล่น และสมควรได้รับเครดิตสำหรับสิ่งนั้น เมื่อคุณทำงานกับเขาทุกวัน คุณจะเห็นคุณค่าของการทำงานหนัก และการเรียนรู้”
ขณะเดียวกัน เบิร์นลี่ย์ จะเจอกับงานหนักทันทีในการประเดิมเกมแรกของศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ด้วยการเปิดรัง เทิร์ฟมัวร์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และอดีตทีมเก่าอย่าง กอมปานี
อานาส ซารูรี กองกลางทีมชาติโมร็อกโก กล่าวว่า “มันเหมือนกับความฝันของผมที่จะได้เล่นในพรีเมียร์ลีก 1 ฤดูกาลเต็มๆ ผมอยากอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ แต่มันจะยากเช่นเดียวกับการแข่งขันใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่ตอนนี้เราได้มาอยู่ที่นี่แล้ว และมันขึ้นอยู่กับเราแล้วที่จะทุ่มเททุกอย่าง และทำงานหนัก”
ฮามิช วิลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ เบิร์นลี่ย์ กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกด้านของสโมสรทั้งในและนอกสนาม เจ้าของใหม่เข้ามาในเดือนธันวาคม 2020 และมีความทะเยอทะยานที่จะกำหนดนิยามใหม่ว่า สโมสรฟุตบอลคืออะไร และมีความหมายต่อแฟนๆ อย่างไร”
“เราต้องการที่จะขยายแบรนด์ของเรา เจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ และทำให้ เบิร์นลีย์ เป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้น เรากำลังทำสิ่งที่ยอดเยี่ยม และสร้างสรรค์บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ และกุญแจสำคัญสำหรับเราคือ การทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิม”
“เบิร์นลี่ย์ เองเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลาย และสิ่งหนึ่งที่เราต้องการทำคือ ทำให้แน่ใจว่าฐานแฟน ๆ ของเรามีความหลากหลายอย่างที่ควรจะเป็น และเป็นตัวแทนของพื้นที่ เราตระหนักดีในฐานะสโมสร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความสำเร็จในสนาม และนั่นคือจุดที่เราทุ่มเทให้กับการลงทุน และพลังงานของเราอย่างมาก”
สุดท้ายเมื่อถูกถามว่า การจบอันดับที่ 17 ใน พรีเมียร์ลีก จะถือเป็นความสำเร็จเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลหรือไม่ วิลสัน กล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับว่าคุณพูดกับใคร ถ้าคุณคุยกับ แวงซองต์ เขาจะตอบว่า ไม่แน่นอน เขามีจิตใจของผู้ชนะ และมีในความทะเยอทะยาน และหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราคือ การอยู่ใน พรีเมียร์ลีกต่อไป”