และแล้ว 'ผู้แพ้' ตัวจริงแห่งโปรแกรมลับแข้งทีมชาติ มิถุนายน 2023 ก็ได้แก่... บราซิล! - OPINION

Brazil v Senegal - International Friendly
Brazil v Senegal - International Friendly / Anadolu Agency/GettyImages
facebooktwitterreddit

เพราะเป้าหมายของเกมอุ่นเครื่อง ไม่ว่าจะระดับสโมสรหรือทีมชาติ ก็ล้วนเป็นไปเพื่อการ "เตรียมทีม" ไว้สู้ศึกของจริงที่จะมีมาในอนาคตอันใกล้ แต่ปรากฏว่าแชมป์โลก 5 สมัยอย่าง บราซิล ผ่านเกมลับแข้ง 2 เกมของเดือนนี้ บวกกับอีก 1 เกมเมื่อต้นปี แบบที่ออกจะ "เปล่าประโยชน์" หาอะไรหยิบจับได้ยากยิ่ง ทั้งที่ ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

สุญญากาศหลังฟุตบอลโลก

เพราะไม่น่าเชื่อ 1) ทีมอย่าง บราซิล เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัย หยุดนิ่งที่ตัวเลข 5 นั่นมาเกิน 20 ปีแล้ว -- แชมป์โลกหนสุดท้ายคือ 2002 เวิลด์ คัพ บนแผ่นดินเอเชีย (เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น) ยุคเบ่งบานของ 3R โรนัลโด้-ริวัลโด้-โรนัลดินโญ่ แล้วจากนั้นก็ตกรอบแบบไม่เป็นท่ามาตลอด โดยร่วงที่เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายถึง 4 จาก 5 ครั้งหลัง รวมหนล่าสุดที่กาตาร์นี่ด้วย

และก็ไม่น่าเชื่อ 2) ทีมอย่าง บราซิล กล้าๆ ปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะ "สุญญากาศ" ไร้กุนซือมาเป็นหัวเรือใหญ่ ได้อย่างไรตั้ง "ครึ่งปี" เข้าไปแล้ว

ย้อนไปว่าถึง ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ บราซิล ถูกยกเป็นหนึ่งในทีมเต็งเบอร์ต้นๆ ตั้งแต่แรก ด้วยผลงานระดับสุดยอดในช่วงรอบคัดเลือก ซึ่งพวกเขาชนะ 14 เสมอ 3 ไม่พลาดท่าแพ้ให้ใครทั้งสิ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถล่มประตูคู่แข่งกระจายถึง 40 ลูก แถมเสียไปแค่ 5 ประตู--ย้ำ--เตะ 17 เสียแค่ 5

เรียกว่าทั้งรุกร้อนแรง รับเหนียวแน่น และความมั่นใจมาเต็ม สำหรับ "ลา เซเลเซา" ที่มี ตีเต้ กุมบังเหียน

และอันที่จริง บราซิล ก็เริ่มต้นเส้นทางล่าแชมป์โลกสมัย 6 ได้อย่างสวยงาม ชนะ เซอร์เบีย 2-0 แบบที่น่ายิงขึ้นเม็ดสี่เม็ดห้า (โอกาสจบรวม 24 ครั้ง) ต่อด้วยเชือด สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 เท่ากับชนะ 2 เกมซ้อน การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ตั้งแต่ตรงนั้น ปล่อยให้เกม 3 เป็นการทดลองแข้งสำรอง และต่อให้แพ้ แคเมอรูน 0-1 ก็ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

รัศมีแชมป์โลกของ บราซิล ยังเปล่งปลั่งอย่างแสบหูแสบตา ในรอบ 16 ทีมที่กราดยิง เกาหลีใต้ เละเทะ 4-1

เพียงแต่ปัญหาก็คือ บราซิล กลับไม่อาจเจาะ โครเอเชีย เข้าได้มากกว่า 1 ตุง (เนย์มาร์ 105+1) ในตลอด 120 นาทีของรอบ 8 ทีมสุดท้าย -- เสมอ 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ...ที่จะว่าไป ก็ไม่ต่างจากการ "โยนหัวก้อย" มากนัก

เมื่อ โรดรีโก้ โกเอส กับ มาร์กินญอส สังหารพลาด และเวลาเดียวกัน อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไม่อาจปัดป้องลูกยิงของแข้งหมากรุกได้สักลูก ก็เป็นอันเกมโอเวอร์ บราซิล แพ้ดวลเป้า 2-4 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นครั้งที่ 4 จาก 5 ทัวร์นาเมนต์หลัง

สังเวยการไปไม่ถึงดวงดาวอีกครั้ง... ตีเต้ เลือกทำฮาราคีรี สละเก้าอี้ออกมาด้วยตัวเอง

ก็นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม บราซิล กล้าๆ ปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะ "สุญญากาศ" ไร้กุนซือใหญ่มาคอยดูแลทีมได้อย่างไรตั้ง "ครึ่งปี" เข้าไปแล้ว

ไม่ใช่ข่าวลือ ที่ว่า บราซิล อยากเล่นของใหญ่อย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ เพราะนอกจากกระแสข่าวจากหลายสำนักแล้ว เอ๊ดนัลโด้ โรดริเกส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ) ก็เคยยอมรับอย่างไม่ปิดบังว่าชื่นชอบในฝีไม้ลายมือของโค้ชชาวอิตาเลียนเป็นอย่างยิ่ง แถมบอกว่า แฟนๆ เองก็อยากเห็น อันเช่ มาทำทีมแซมบ้าเช่นกัน "ส่วนตัวผมชื่นชอบ อันเชล็อตติ มาก เขาไม่เพียงแต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักเตะ แต่ยังรวมถึงแฟนบอลด้วย ทุกที่ที่ผมไปในบราซิล อันเชล็อตติ คือชื่อแรกที่แฟนๆ เอ่ยถึงกับผม"

แต่ทานโทษ แม้ บราซิล จะเป็นงานท้าทายและน่าสนใจ อันเชล็อตติ ก็ไม่มีเหตุผลใดทั้งสิ้นที่จะสละเก้าอี้ เรอัล มาดริด ไปตอนนี้หลังจากเพิ่งกลับเข้านั่งเก้าอี้รอบใหม่ได้แค่ 2 ปี และยังเหลือสัญญาถึง 2024

รายงานล่าสุดจาก โกลโบเอสปอร์เต้ สื่อบราซิล บอกว่า ซีบีเอฟ เปิดฉากเจรจากับ อันเช่ ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้วว่าจะมาเริ่มงานตอนกลางปี 2024 หรือหลังจากหมดสัญญากับทีมชุดขาวตอนจบซีซั่นหน้า (แต่ อาส สื่อสเปน ตีข่าวแย้งไปอีกฟาก ว่ายังไม่มีการตกลงใดเกิดขึ้นทั้งนั้น ดีไม่ดีจะต่อสัญญาดูแลเด็กใหม่ จู๊ด เบลลิงแฮม ไปยาวๆ)

แล้วไม่ว่าจะเชื่อรายงานจากสื่อบราซิลหรือไม่ ข้อเท็จจริงก็คือ บราซิล "ไม่มีกุนซือ" มาเป็นคนกำหนดทิศทางวางยุทธศาสตร์อยู่ดีในตอนนี้

สิ่งที่ตามมาก็คือความ "เละเทะ" จับต้องไม่ได้ในเกมลับแข้ง 2 นัดของเดือนนี้

ทั้งที่มีคิวเตะ ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รออยู่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า แท้ๆ

FBL-BRA-SEN-FRIENDLIES
FBL-BRA-SEN-FRIENDLIES / PATRICIA DE MELO MOREIRA/GettyImages

ชนะ กินี 4-1

หลังผ่านบอลโลก มาถึงคิวทีมชาติ มี.ค. ที่ผ่านมา บราซิล ลงเล่นเกมลับแข้งไปแล้ว 1 นัด...ได้ผลแสบไส้อย่างการแพ้ โมร็อกโก 1-2 โดยที่พวกเขาใช้ ราม่อน เมเนเซส โค้ชทีมเยาวชน ยู-20 ควบงานนี้แบบขัดตาทัพไปพลาง

ราม่อน เมเนเซส : โค้ชวัย 50 อดีตกองกลาง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ 6 นัด และอดีตกุนซือของหลายสโมสรในบราซิล - กัวรานี่, วาสโก, ซีอาร์บี, วิตอเรีย เข้าคุมเยาวชน ยู-20 แซมบ้า ต้นปี 2022 เป็นต้นมา

ซีบีเอฟ ยังคงให้ ราม่อน นั่งเก้าอี้รักษาการกุนซือชุดใหญ่เวลานี้ ภายใต้คิวเตะลับแข้ง 2 นัด เริ่มต้นด้วยเกมกับ กินี ที่ RCDE สเตเดี้ยม นครบาร์เซโลน่า เมื่อ 17 มิ.ย.

เนย์มาร์ กับ อันโตนี่ ขาดหายเนื่องจากบาดเจ็บ ส่วน เฟร็ด, ฟาบินโญ่, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ราฟินญ่า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ติอาโก้ ซิลวา หลุดโผ

แต่แม้จะขาดตัวดังๆ ไปเยอะ ด้วยความห่างชั้นกันเยอะของ กินี ทีมเกรดรองลงไปของทวีปแอฟริกา ก็ทำให้ บราซิล (ครึ่งแรกใส่ชุดดำ ต้านการเหยียดผิว) กินนิ่ม 4-1 โชลินตอน, โรดรีโก้ โกเอส, เอแดร์ มิลิเตา, วินิซิอุส จูเนียร์ (จุดโทษ) สอยคนละเม็ด

แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะห่างชั้นกันขนาดนี้ ชัยชนะจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

พอเจอของแข็งขึ้นหน่อยในอีก 3 วันให้หลัง แผลก็เปิดอย่างเหวอะหวะ...

Rodrygo
Brazil v Guinea - International Friendly / Alex Caparros/GettyImages

แพ้ เซเนกัล 2-4

11 ตัวจริงนัดเจอ กินี (4-3-3) เอแดร์ซอน - อายร์ตัน ลูคัส, มาร์กินญอส, เอแดร์ มิลิเตา, ดานิโล่ - ลูคัส ปาเกต้า, กาเซมิโร่, โชลินตอน - วินิซิอุส, ริชาร์ลิซอน, โรดรีโก้

11 ตัวจริงนัดเจอ เซเนกัล (4-3-3) เอแดร์ซอน - อายร์ตัน ลูคัส, มาร์กินญอส, เอแดร์ มิลิเตา, ดานิโล่ - ลูคัส ปาเกต้า, บรูโน่ กิมาไรส์, โชลินตอน - วินิซิอุส, ริชาร์ลิซอน, มัลคอม

ก็เปลี่ยนแค่ 2 ตำแหน่งเท่านั้น บรูโน่ กิมาไรส์ แทน กาเซมิโร่ ตรงกลาง และปีกขวา มัลคอม ที่กลับสู่ทำเนียบทีมชาติอีกครั้งนับแต่โอลิมปิก เสียบแทน โรดรีโก้ โกเอส นั่นหมายถึง ราม่อน เมเนเซส ไม่ได้ปล่อยผ่านเกมนี้ และยังหวังผลการแข่งขันที่ดีอยู่

แต่ปรากฏว่าเกมที่ เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด กรุงลิสบอน โปรตุเกส เมื่อวันอังคาร กลายเป็นความพ่ายแพ้อันน่าอับอายของ บราซิล อีกครั้ง

ทั้งที่ ลูคัส ปาเกต้า ขึ้นโขกตุงตาข่ายนำ 1-0 ตั้งแต่ 11 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นเกมพลิกเป็น เซเนกัล รัวพรวดเดียว 3 เม็ด ฮาบิบ ดิยัลโล่ วอลเลย์สวยๆ 1-1 น.22, มาร์กินญอส แหย่ขาสกัดลูกหลุดเข้าประตูตัวเอง 2-1 น.52 และ ซาดิโอ มาเน่ ปั่นโค้งๆ เสียบเสาไกล 3-1 น.55

อีกแม้ มาร์กินญอส จะแก้ตัวยิงไล่บี้ 2-3 น.58 แต่ในช่วงทดเจ็บ บราซิล ก็มาเสียจุดโทษเพิ่มจากการตัดฟาวล์ของ เอแดร์ซอน โมราเอส และ มาเน่ สังหารเข้าไปไม่พลาด ปิดเกมที่ เซเนกัล ปราบ บราซิล ลงนิ่มๆ 4-2

Brazil v Senegal - International Friendly
Brazil v Senegal - International Friendly / Anadolu Agency/GettyImages

คิวเตะที่ไร้ค่า กับอนาคตที่ไม่ชัดเจน

เพราะ 2 เกมลับแข้งล่าสุดนี้ จะมีประโยชน์อะไรมากกว่าแค่มาเคาะสนิม ลองเตะรวมทีมทำความรู้จักกัน หรือเพิ่มสถิติรับใช้ชาติให้บรรดานักเตะ เมื่อเฮดโค้ชจริงๆ ไม่มี ทั้งการเลือกตัว จัดทีม วางแท็กติก แนวทางการฝึกซ้อม รูปแบบการจัดการในแคมป์ ย่อมจะแตกต่างอยู่แล้ว ระหว่างตอนนี้ที่มี ราม่อน เมเนเซส กับอนาคตที่จะมีกุนซือถาวรคนใหม่เข้ามา

ไม่มีทางเลยที่ ราม่อน จะได้งานระยะยาว เมื่อ 3 เกมในการทำหน้าที่ของเขา มีทั้งแพ้ โมร็อกโก และ เซเนกัล ที่โดยชื่อชั้น ไม่ควรเป็นงานยากของ บราซิล

มองในแง่ดีสุดๆ ความพ่ายแพ้ต่อ เซเนกัล ถ้าจะมีอะไรหยิบจับได้ ก็คงเป็นการบอกใบ้ว่า "ไม่ควรใช้ใคร" ในทีมชุดถัดๆ ไป เท่านั้น

และก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ซีบีเอฟ จะรอให้ อันเชล็อตติ มาจับงานช่วงกลางปีหน้าจริงๆ ไหม เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น บราซิล มีคิวสำคัญอย่าง รอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 รออยู่ถึง 7 นัด -- 6 เกมตอนปลายปีนี้ กับอีก 1 นัดช่วง มี.ค. ศกหน้า

  • โปรแกรมคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 ที่รออยู่ในปีนี้ของ บราซิล

    (ยังไม่ล็อกวันเวลาเตะ มีเพียงการวางคิวไว้หลวมๆ)

    กันยายน (เหย้า) โบลิเวีย

    กันยายน (เยือน) เปรู

    ตุลาคม (เหย้า) เวเนซุเอลา

    ตุลาคม (เยือน) อุรุกวัย

    พฤศจิกายน (เยือน) โคลอมเบีย

    พฤศจิกายน (เหย้า) อาร์เจนติน่า

ให้คาดเดา ซีบีเอฟ ก็คงจะหา "ใครสักคน" มานั่งเก้าอี้ชั่วคราวไปก่อน (ถ้าล็อกเป้าจะเอา อันเชล็อตติ มาตอนซัมเมอร์หน้าจริงๆ) ซึ่งพวกเขาต้องรีบลงมือโดยเร็วที่สุดด้วย เมื่อการคัดบอลโลกครั้งใหม่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้แล้ว และที่สำคัญ โค้ชใหม่ก็จะไม่มี "เกมอุ่นเครื่อง" อะไรทั้งสิ้นให้ได้ลองทีม ไม่ว่าใครจะเข้ามา ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งกับการรับมือ โบลิเวีย นัดแรกของคิวคัดบอลโลก 2026 ทันที

แทนที่จะหามาตั้งแต่เนิ่นๆ ให้ได้มาทำความคุ้นเคย เตรียมทีมให้พร้อมลุยคัดบอลโลก กับคิวลับแข้ง 2 แมตช์ของเดือนนี้ ก็ไม่ไง

อาจใช่ที่ระดับของ บราซิล ยังเหนือกว่าหลายคู่แข่งร่วมทวีป พอลงสนามตัดสินกันจริงๆ การจะหลุดออกจากโควตา 6+1 ของโซนอเมริกาใต้ คงเป็นไปได้ยาก

แต่ก็ใช่หรือไม่ว่า บราซิล ต้องแหงนหน้ามอง อาร์เจนติน่า ก้าวข้ามพวกเขาไปแล้ว--แม้จะไม่ใช่เรื่องของจำนวนแชมป์โลก (5:3) แต่เป็นเรื่องของ "ภาพนาทีนี้" ที่ อาร์เจนติน่า คือแชมป์โลกรายล่าสุด ส่วน บราซิล อดอยากปากแห้งมาเกิน 20 ปีแล้ว แถมไม่มีเฮดโค้ชอีกต่างหาก

ไม่พ้นต้องย้ำซ้ำอีกที... ทีมอย่าง บราซิล กล้าๆ ปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะ "สุญญากาศ" ไร้กุนซือใหญ่มากำหนดทิศทางกำกับความเป็นไปได้อย่างไรตั้ง "ครึ่งปี" เข้าไปแล้ว!

Brazil v Senegal - International Friendly
Brazil v Senegal - International Friendly / Anadolu Agency/GettyImages