[OPINION] รุ่นพี่ ฟาน เดอ บีค ! จัดทีม 11 ผู้เล่น ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
นับตั้งแต่ลีกสูงสุดของอังกฤษ เปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักเตะต่างชาติทยอยย้ายเข้ามาค้าแข้งกันมากขึ้น ซึ่งนักเตะสัญชาติฮอลแลนด์ หรือเนเธอร์แลนด์ จัดว่าเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่นิยมถูกดึงตัวมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแห่งนี้ โดยหากนับรวมทั้งหมดก็มีมากถึง 145 คนเลยทีเดียว และยิงประตูรวมกันกว่า 965 ประตูนับเป็นนักเตะต่างชาติที่ยิงประตูรวมกันมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจาก ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ และ สกอตแลนด์ เท่านั้น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พึ่งจะคว้าตัวแข้งรายใหม่ชาวกังหันลมเข้าสู่ทีมอย่าง ดอนนี ฟาน เดอ บีค กองกลางที่ดึงตัวมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัวกว่า 40 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่ามิดฟิลด์วัย 23 ปีรายนี้ จะสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมเหมือนที่รุ่นพี่อีกหลาย ๆ คนเคยทำเอาไว้ในลีกแห่งนี้ได้หรือไม่
วันนี้เราจึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านย้อนรำลึกความหลังถึงเหล่ายอดนักเตะทีมอัศวินสีส้ม ทีเคยมาค้าแข้งยัง พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งจัดทีม 11 ผู้เล่นตามตำแหน่งที่ว่ากันว่าโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของอังกฤษแห่งนี้ โดยจะมีใครกันบ้างนั้น ลองไปชมกัน..
1. ผู้รักษาประตู - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
สโมสร : ฟูแลม, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 313 นัด
เก็บได้ 136 คลีนชีท
นายทวารระดับตำนานของของทีมชาติฮอลแลนด์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หลังจากช่วงต้นทศวรรษ 2000 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่สามารถมองหาผู้รักษาประตูที่สามารถไว้วางใจได้เลยหลังจากหมดยุคของ ปีเตอร์ ชไมเคิล กระทั่งในปี 2005 ปีศาจแดง ควักเงินเพียง 3.6 ล้านปอนด์ คว้าตัว "น้าซาร์" มาจาก ฟูแลม และหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยึดมือหนึ่งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาได้อย่างยาวนาน คว้าแชมป์แทบที่รุกรายกับทีมจนแขวนถุงมือไปในปี 2011
2. เซ็นเตอร์แบ็ค - ยาป สตัม
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 79 นัด
ทำได้ 1 ประตู 2 แอสซิสต์
กองหลังจอมโหดของ ปีศาจแดง ที่ทีมดึงตัวมาเสริมทัพในปี 1998 ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ก่อนจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญชุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 3 แชมป์ในปี 1999 แต่หลังจากนั้นลือกันว่าเจ้าตัวมีปัญหาไม่ลงรอยกับผู้บริหารสโมสร จนถูกปล่อยตัวไปให้กับ ลาซิโอ ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ด้วยกัน
3. เซ็นเตอร์แบ็ค - เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
สโมสร : เซาต์แธมป์ตัน ลิเวอร์พูล
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 157 นัด
ทำได้ 13 ประตู 3 แอสซิสต์
คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากมายสำหรับกองหลังดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปยุโรปเมื่อฤดูกาลก่อน ที่ว่ากันว่าเจ้าตัวคือคนที่เข้ามายกระดับ หงส์แดง จนสามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ในปัจจุบัน จนถูกขนานนามว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
4. แบ็คขวา - มาริโอ เมลช็อต
สโมสร : เบอร์มิงแฮม วีแกน เชลซี
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 283 นัด
ทำได้ 6 ประตู 8 แอสซิสต์
ต้องบอกเลยว่าในตำแหน่งนี้ค่อนข้างจะเลือกยากเพราะแทบไม่มีนักเตะในระดับเวิลด์คลาสจากทีมชาติฮอลแลนด์ย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก เลย ดังนั้นจึงขอยกให้ เมลซ็อต ฟูลแบ็คที่สร้างชื่อกับ เชลซี ตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง แต่น่าเสียดายที่หลังจาก โรมัน อับราโมวิช เข้ามา ทำให้ทีมเต็มไปด้วยเหล่าซุปเปอร์สตาร์จนไม่เหลือพื้นที่ให้กับเขาในการลงเล่น จนต้องย้ายไปเล่นให้กับ เบอร์มิงแฮม ในปี 2004 และ วีแกน ในปี 2007 จนถึงตอนนี้เจ้าตัวทำสถิติเป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ลงสนามในลีกสูงสุดของอังกฤษมากที่สุด
5. แบ็คซ้าย - แพทริก ฟาน อันโฮลท์
สโมสร : เชลซี วีแกน ซันเดอร์แลนด์ คริสตัลพาเลซ
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 191 นัด
ทำได้ 21 ประตู 14 แอสซิสต์
เช่นเดียวกับในตำแหน่งแบ็คขวา ที่แทบจะหานักเตะชื่อดังมาติดทีมในลิสนี้จัดว่าค่อนข้างยาก และถึงแม้ ฟาน อันโฮลท์ จะไม่ใช่นักเตะระดับโลก แต่ใน พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่ามีดีพอตัวเลยทีเดียว ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นบุกแหลก ทำให้อดีตเด็กปั้นของ สิงห์บลู รายนี้มีสถิติการทำประตูและการแอสซิสต์ค่อนข้างดี แม้ว่าจะเล่นให้กับทีมเล็ก ๆ อย่าง ซันเดอร์แลนด์ และ คริสตัล พาเลซ ก็ตาม
6. กองกลางตัวรับ - ไนเจล เดอ ยอง
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 104 นัด
ทำได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์
กองกลางสายดุที่ เรือใบสีฟ้า ในยุคเริ่มต้นสร้างความยิ่งใหญ่ ดึงตัวจาก ฮัมบูร์ก ทีมในบุนเดสลีก้า มาร่วมทีมเมื่อปี 2009 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ จนกระทั่งถูก เอซี มิลาน ซื้อตัวไปในปี 2012 โดยตลอด 3 ปีในถิ่น เอติฮัด เจ้าตัวจัดว่าทำผลงานได้ค่อนข้างโดดเด่นในเกมรับ และยังเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2011 อีกด้วย
7. กองกลาง - จินี ไวจ์นัลดุม
สโมสร : นิวคาสเซิล ลิเวอร์พูล
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 179 นัด
ทำได้ 25 ประตู 16 แอสซิสต์
กองกลางตัวหลังของ หงส์แดง ชุดปัจจุบันรายนี้ ถูก นิวคาสเซิล ดึงตัวมาสู่ พรีเมียร์ลีก ในปี 2015 และด้วยฟอร์มที่โดดเด่นจนเรียกว่าเป็น "เดอะแบก" ของทีม สาลิกาดง ทำให้ ลิเวอร์พูล ยอมควักเงินกว่า 25 ล้านปอนด์กระชากตัวมาร่วมทีมในปีต่อมา ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้บทบาทจะไม่โดดเด่นเหมือนสมัยเล่นให้ นิวคาสเซิล แต่ที่ แอนฟิลด์ เข้าคือฟันเฟืองชิ้นสำคัญของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในการพาทีมเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้
8. กองกลางตัวรุก - ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท
สโมสร : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 63 นัด
ทำได้ 24 ประตู 16 แอสซิสต์
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับ เรอัล มาดริด ก็เป็น ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2010 ด้วยค่าตัวเพียง 9.5 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่ง 2 ฤดูกาลกับทีม ไก่เดือยทอง เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เรียกได้ว่าเป็น เดอะแบก ของ สเปอร์ส ในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายที่เหมือนว่าเขาจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ อังเดร วิลลาส โบอาซ กุนซือคนใหม่ของทีมในตอนนั้น จนถูกขายออกไปให้กับ ฮัมบูร์ก ในปี 2012 ที่ผ่านมา
9. กองกลางตัวรุก - เดนิส เบิร์แคมป์
สโมสร : อาร์เซนอล
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 315 นัด
ทำได้ 87 ประตู 70 แอสซิสต์
สุดยอดตัวรุกที่ไม่ใช่แค่เพียงตำนานของ อาร์เซนอล และ พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวยังจัดว่าเป็นยอดนักเตะเบอร์ต้น ๆ ของทีมชาติฮอลแลนด์อีกด้วย ด้วยเทคนิคอันเหลือร้ายที่ไปเตะตา อาร์แซน เวงเกอร์ จนต้องรีบดึงตัวมาร่วมทีม ปืนใหญ่ ในปี 1995 และจากนั้น เขาก็ระเบิดฟอร์มเก่งจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานในแห่ง ไฮบิวรี กระทั่งแขวนสตั๊ดกับทีมในปี 2006 ที่ผ่านมา
10. กองหน้า - โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์
สโมสร : อาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 280 นัด
ทำได้ 144 ประตู 65 แอสซิสต์
อีกหนึ่งสุดยอดกองหน้าที่ อาร์แซน เวงเกอร์ กระชากตัวมาตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่งในปี 2004 ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์ ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าจนสามารถขึ้นมาแทนที่การจากไปของ เธียร์รี อองรี ได้สำเร็จ แต่แล้วในปี 2012 เจ้าตัวก็เลือกที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ ปีศาจแดง และคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกของตัวเองมาครองได้ในที่สุด กระทั่งการมาของ หลุยส์ ฟานกัล ในปี 2015 ทำให้เจ้าตัวต้องย้ายออกจากทีมไปเพราะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือเพื่อนร่วมชาติรายนี้นั่นเอง
11. กองหน้า - รุด ฟาน นิสเตอรอย
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จำนวนเกมที่ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก : 150 นัด
ทำได้ 95 ประตู 9 แอสซิสต์
กองหน้าตัวเป้าเจ้าของรางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย ย้ายมาร่วมทีม ปีศาจแดง เมื่อปี 2001 ก่อนจะระเบิดฟอร์มถล่มประตูได้เป็นกอบเป็นกำตลอด 5 ฤดูกาลในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนจะต้องแยกทางกันหลังจากไปมีปัญหาบาดหมางกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนถูกขายต่อให้กับ เรอัล มาดริด ในปี 2006
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด