5 ดีล "ยอดเยี่ยม" และ "ยอดแย่" ของ ลิเวอร์พูล ภายใต้ยุค ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ - OPINION

  • ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ มีอิมแพ็คอย่างมากต่อการสรรหานักเตะของ ลิเวอร์พูล ในช่วงแรกที่เขาทำงานให้สโมสร
  • ล่าสุด เอ็ดเวิร์ดส์ ได้รับการยืนยันกลับมาร่วมงานกับสโมสร ดำรงตำแหน่ง CEO ฝ่ายปฎิบัติการฟุตบอล

UEFA Champions League final: Tottenham vs Liverpool
UEFA Champions League final: Tottenham vs Liverpool / Anadolu/GettyImages
facebooktwitterreddit

ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ มีอิมแพ็คอย่างมากต่อการสรรหานักเตะของ ลิเวอร์พูล ในช่วงแรกที่เขาทำงานให้สโมสร และล่าสุดเขาได้รับการยืนยันกลับมาร่วมงานกับสโมสร หลังจาก เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป แถลงการณ์แต่งตั้งมาทำหน้าที่ใหม่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการฟุตบอล

เอ็ดเวิร์ดส์ มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของสโมสร ซึ่งในยุคของเขา "หงส์แดง" คว้าแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก, ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ

อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าการได้นักเตะที่ดีก็ต้องมีที่พลาดอยู่เหมือนกัน และต่อไปนี้คือลิสต์ 5 ดีลยอดเยี่ยมและ 5 ดีลยอดแย่ของผู้บริหารวัย 44 ปีในรั้วแอนฟิลด์


5 ดีลยอดแย่

5. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

Alex Oxlade-Chamberlain
Manchester City v Liverpool FC - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages

กองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษย้ายจาก อาร์เซนอล มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แบบเซอร์ไพรส์เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 35 ล้านปอนด์ โดยถูกคาดหวังว่าจะเข้ามาเติมเต็มทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กลับต้องดิ้นรนเจอปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งจนโชว์ผลงานต่อเนื่องไม่ได้ จนสุดท้ายถูกปล่อยให้ เบซิคตัส แบบไม่มีค่าตัว

4. ทาคุมิ มินามิโนะ

Takumi Minamino
Liverpool v Norwich City: The Emirates FA Cup Fifth Round / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages

แฟนบอลต่างตื่นเต้นตอนทราบข่าวว่า ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับ ทาคุมิ มินามิโนะ หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก โดยเฉพาะในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ทั้งสองทีมเจอกัน

อย่างไรก็ดีการเข้ามาเพิ่มการแข่งขันให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้ และ มินามิโนะ ตกอันดับตัวเลือกไปอีกเมื่อ ดิโอโก้ โจต้า ย้ายมา จนถูกปล่อยยืมตัวไป เซาแธมป์ตัน และซบ อาแอส โมนาโก ถาวรในปี 2022

3. นาบี้ เกอิต้า

Naby Keita
Manchester City v Liverpool - The FA Community Shield / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ถูกคาดหวังไว้ไม่น้อยเช่นกันจากการเข้ามาสวมเบอร์ 8 ของตำนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่สิ่งที่น่าจดจำที่สุดสำหรับ นาบี้ เกอิต้า กลับกลายเป็นอาการเจ็บ และใช้เวลาอยู่ในโรงหมอมากกว่าสนามเสียอีก

สุดท้าย เกอิต้า ย้ายไปร่วมทีม แวร์เดอร์ เบรเมน แบบไร้ค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถกลับไปเค้นฟอร์มเก่งเหมือนตอนอยู่ แอร์เบ ไลป์ซิก ได้

2. ติอาโก้ อัลคันทาร่า

Thiago Alcantara
Leeds United v Liverpool FC - Premier League / Stu Forster/GettyImages

ถือเป็นบิ๊กดีลสำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจบฤดูกาลที่เขาพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และคาดว่า ติอาโก้ อัลคันทาร่า จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จนั้น

กระนั้นมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาได้ทีมต้องการตัวเขาที่สุด แถมเจออาการบาดเจ็บลักพาตัวไม่ต่างจาก เกอิต้า เลย และส่อแววไม่ได้ไปต่อเมื่อสัญญาจะหมดลงในซัมเมอร์นี้

1. ลอริส คาริอุส

Loris Karius
Liverpool v Osasuna - Pre-Season Friendly / Lewis Storey/GettyImages

เป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าสงสาร เพราะสิ่งที่น่าจดจำสำหรับ ลอริส คาริอุส มากที่สุด คือความผิดพลาดจนทำให้ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ เรอัลมาดริด 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2018

เขาเขี้ยงบอลไปโดนขาของ คาริม เบนเซม่า จนเป็นประตูแรกของ มาดริด จากนั้นปัดลูกยิงของ แกเร็ธ เบล เข้าประตูที่สาม ผลงานในเกมนี้เองที่ทำให้เส้นทางอาชีพของ คาริอุส ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


5 ดีลยอดเยี่ยม

5. โจเอล มาติป

Joel Matip
Liverpool FC v Toulouse FC: Group E - UEFA Europa League 2023/24 / James Gill - Danehouse/GettyImages

โจเอล มาติป อาจไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังตอนย้ายมา ลิเวอร์พูล แต่เขาสร้างประโยชน์ให้กับสโมสรอย่างมหาศาล หลังย้ายมาจาก ชาลเก้ 04 แบบไร้ค่าตัวในปี 2016

แม้ว่าสื่อชื่นชม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่เข้ามาสร้างอิมแพ็คอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ชัดเจนว่าทีมที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีกองหลังคู่หูที่แข็งแกร่ง ซึ่ง มาติป พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ดีกองหลังชาวแคเมอรูนกำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ และคาดว่าจะต้องปิดเทอมฤดูกาลนี้ รวมถึงเตรียมอำลาสโมสรเช่นกันเมื่อหมดสัญญา

4. แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

Andrew Robertson
Liverpool FC v Luton Town - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages

ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน มาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ที่เพิ่งตกชั้นไป โดยที่แฟนบอลหลายคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่เขาใช้เวลาไม่นานก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม

นอกจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แล้ว โรเบิร์ตสัน คือหนึ่งในอาวุธสำคัญที่ช่วยให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และเมื่อดูว่า ลิเวอร์พูล จ่ายเพียง 8 ล้านปอนด์ ถือเป็นดีลที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง

3. อลิสซอน เบ็คเกอร์

Alisson Becker
Arsenal FC v Liverpool FC - Premier League / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages

บทบาทของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ต่อความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล นั้นสูงมาก แม้ว่าสโมสรทุ่มเงินมหาศาลถึง 66 ล้านปอนด์ดึงเขามาจาก อาแอส โรม่า ในปี 2018 แต่เงินที่จ่ายไปคุ้มค่าทุกปอนด์

อลิสซอน ก้าวมาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก การเข้ามาของเขายกระดับเกมรับ และทำให้ คล็อปป์ สามารถบิลด์อัพเกมจากแดนหลังได้

2. โมฮาเหม็ด ซาลาห์

Mohamed Salah
Liverpool FC v AC Sparta Praha: Round of 16 Second Leg - UEFA Europa League 2023/24 / Alex Livesey/GettyImages

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะฟอร์มดีตอนย้ายมาจาก อาแอส โรม่า ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ แต่เขายกระดับจนเป็นแข้งระดับโลกเมื่อมาอยู่ที่แอนฟิลด์

ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ทำลายสถิติมากมาย และล่าสุดเพิ่งทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ 131 ปีของสโมสรที่ทำได้ถึงหลัก 20 ประตู 7 ฤดูกาลติดต่อกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ซาลาห์ จะถูกยกย่องเป็นหนึ่งในตำนานของ ลิเวอร์พูล เมื่อเขาอำลาทีมไป

1. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

Virgil van Dijk
Liverpool FC v Manchester City - Premier League / Michael Regan/GettyImages

ความสำคัญของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นั้นพอ ๆ กันเลย หาก ซาลาห์ ช่วยยกระดับเกมรุก ฟาน ไดจ์ค ก็ช่วยให้เกมรับของ ลิเวอร์พูล ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาเช่นกัน

"หงส์แดง" ทำเอาหลายคนต้องแปลกใจเมื่อพวกเขายอมทุ่ม 75 ล้านปอนด์คว้า ฟาน ไดจ์ค มาจาก เซาแธมป์ตัน ในเดือนมกราคม 2018 แต่ด้วยคาแร็กเตอร์และคุณภาพทำให้กองหลังชาวดัตช์มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จ จนเคยคว้าอันดับสองในการประกาศรางวัลบัลลงดอร์ 2019 ด้วยซ้ำ และปัจจุบัน ฟาน ไดจ์ค ดำรงตำแหน่งกัปตันทีมอีกด้วย