สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องเรียนรู้จาก แกเร็ธ เบล และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ หากคิดจะดึงสตาร์หน้าเก่ากลับมาร่วมทัพ- OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ข่าวการหวนคืน พรีเมียร์ลีก โดยกลับมาร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล ของ ฟิลลิปเป้ คูตินโญ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ในขณะที่ บาร์เซโลนา กำลังเผชิญกับปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ถึงขนาดที่ทำให้พวกเขายังไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร, เมมฟิส เดปาย และ เอริค กาเซียร์ ได้
ค่าเหนื่อยจำนวน 156 ล้านปอนด์ที่เกินจากกำหนดที่ทาง ลาลีก้า ตั้งเอาไว้ ทำให้ บาร์ซา ต้องจัดการลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงให้ได้ โดยหนึ่งในนั้นคือการขายนักเตะชื่อดังออกจากทีม
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชื่อของ คูตินโญ ถูกจับมาเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล และ พรีเมียร์ลีก ซึ่งก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ต้องยอมรับกันก่อนว่า คูตี้ ภายใต้การกำกับดูแลของนายใหญ่ชาวเยอรมันนั้น เขาคือผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสคนหนึ่งซึ่งมีทั้งพรสวรรค์และเทคนิคที่ยอดเยี่ยม โดยตลอด 5 ปีที่อยู่กับ หงส์แดง เจ้าตัวทำได้ 54 ประตูกับ 43 แอสซิสต์ ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับนักเตะเพลย์เมคเกอร์อายุน้อยคนหนึ่ง
น่าเสียดายที่การแยกทางกับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ดูไม่ค่อยดีนัก แต่เงินจำนวน 142 ล้านปอนด์ที่ บาร์เซโลนา จ่ายมานั้นก็สามารถนำมาสร้างประโยชน์ได้มากมาย และเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญที่ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จในช่วงหลัง
สวนทางกับต้นสังกัดเดิม ความฝันของ คูตินโญ ในการได้ค้าแข้งกับสโมสรระดับโลกดูจะเป็นเพียงแค่ฝันกลางวัน เมื่อเจ้าตัวไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งให้กับต้นสังกัดใหม่ได้ ทำให้ข่าวการย้ายกลับมายังถิ่น แอนฟิลด์ ดังเป็นระยะ
บางคนมองว่าการดึง คูตี้ กลับมา คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้เกมรุกของ เยอร์เก้น คล็อปป์ สมบูรณ์แบบ และทำให้เขาไม่จำเป็นต้องมองหาเพลย์เมคเกอร์ในตลาดนักเตะ แต่หลายคนก็สาปส่งไม่เผาผีจากการดิ้นรนเพื่อขอย้ายทีมเมื่อ 3 ปีก่อน
และอีกหลายคนก็สงสัยว่าการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งมันจะเวิร์คอย่างที่คิดหรือไม่
เคสของ แกเร็ธ เบล และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ น่าจะเป็นคำตอบได้ดีในเรื่องนี้
ซีซันที่ผ่านมาปีก เรอัล มาดริด ถูก สเปอร์ส ต้นสังกัดเดิมยืมตัวกลับมาร่วมงานกันเป็นคำรบสอง หลังจากที่เจ้าตัวไม่มีที่ว่างในทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน
ในช่วงที่ เบล ค้าแข้งที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ก่อนจะย้ายไปยัง ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยค่าตัว 85 ล้านปอนด์เมื่อปี 2013 และคว้าแชมป์ได้อย่างมากมายทั้ง ลาลีก้า 2 สมัยและ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 3 ครั้ง
หากแต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่พรากเอาโอกาสในการลงสนามของเขาไป และเมื่อกลับมาพร้อมลงเล่นก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เป็นกุนซือ
แม้จะมีโมเม้นท์สุดประทับใจจากนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 ที่ยิงคนเดียว 2 ประตูเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-1 ที่เคียฟ แต่ เบล ก็กลายเป็นส่วนเกินของ เรอัล มาดริด ในช่วง 2 ปีหลังและไม่ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
ปีกทีมชาติเวลส์ตกอยู่ในสถานะเดียวกับ คูตินโญ เมื่อเขาไม่เป็นที่ต้องการของทีม ทำให้ต้องย้ายกลับมายัง พรีเมียร์ลีก แบบยืมตัวเมื่อซีซันก่อน
แฟนบอล ไก่เดือยทอง ต่างดีใจกันจนเนื้อเต้นที่จะได้เห็น แกเร็ธ เบล ประสานงานกับ แฮร์รี เคน และ ซน เฮือง มิน ในแนวรุกภายใต้การคุมทีมของ โชเซ มูรินโญ
อย่างไรก็ตามปัญหาเดิม ๆ ก็ตามมา แข้ง มาดริด ได้รับบาดเจ็บต้องร้างสนามไปหลายเดือน แต่เมื่อหายเจ็บกลับมาก็ยังโดนดองเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม แถมผลงานของทีมยังไม่เป็นอย่างที่หวัง จนทำมให้ เดอะสเปเชียลวัน ต้องโดนไล่ออกในช่วงท้ายซีซัน
ส่วนผลงานของ เบล กับ สเปอร์ส ก็ไม่เป็นดังที่คาดหวังไว้ โดยยิงไป 16 ประตูจาก 34 นัดและได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 10 นัดใน พรีเมียร์ลีก ภาพรวมถือว่าสอบตกโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถสร้างอิมแพ็คให้กับทีมได้
สตาร์วัย 31 ปีกลับ มาดริด แบบไม่มีเยื่อใย เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าไม่คิดจะกลับไปลอนดอนอีก และขออยู่จนหมดสัญญา แถมรายงานล่าสุดยังระบุว่าพร้อมจะแขวนสตั๊ดอีกต่างหาก
อันที่จริง ลิเวอร์พูล ได้เรียนรู้จาก สเปอร์ส มาแล้วครั้งหนึ่ง จากการที่ได้เห็น ไก่เดือยทอง ใช้เงินจำนวน 85 ล้านปอนด์ดึงนักเตะหลายคนเข้ามาสู่ทีมทั้ง เปาลินโญ, นาเซอร์ ชาดลี, เอเตียน กาปูเอ, คริสเตียน อีริคเซน และ เอริค ลาเมลา แต่สุดท้ายก็ได้แค่ปริมาณเพราะสุดท้ายคุณภาพที่ได้มีอยู่แค่ไม่กี่คน
หงส์แดง ใช้เงิน 142 ล้านปอนด์ซื้อนักเตะที่พวกเขาต้องการจริง ๆ อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาร่วมทีม จากนั้นก็คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก ได้ตามลำดับ
ดังนั้นบทเรียนจาก แกเร็ธ เบล กับการรีเทิร์นสู่ สเปอร์ส จึงน่าเป็นกรณีศึกษาให้กับ ลิเวอร์พูล อีกครั้งหากพวกเขาคิดจะดึง คูตินโญ คืนถิ่น
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด