อาร์เซนอล กับปัญหาที่ยังรุมเร้าของ มิเกล อาร์เตต้า - OPINION

ความพ่ายแพ้ของ อาร์เซนอล ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 5-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก เกมล่าสุดนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ก็คงเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ไม่ยากหลังจากได้เห็นฟอร์ม 2 นัดแรกที่ผ่านมา

เดอะกันเนอร์ส ต้องลงเล่นนัดนี้ด้วยการปราศจากกองกลางตัวหลักอย่าง โธมัส ปาเตย์ รวมทั้งกองหลังที่ซื้อมาด้วยราคา 50 ล้านปอนด์อย่าง เบน ไวท์ แต่ก็คงไม่มีอะไรการันตีได้ว่าว่าหากมีสตาร์เหล่านี้ลงสนามแล้วสกอร์ที่ออกมาจะไม่เป็นอย่างที่เห็น

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมในทำนองเห็นใจอดีตผู้ช่วยของเขาว่า ด้วยการขาดนักเตะตัวหลักไปเกือบค่อนทีมอาจทำให้สภาพของ อาร์เซนอล ยังไม่สมบูรณ์พร้อม และอดีตกุนซือ บาร์เซโลนา ยังยืนยันด้วยว่า มิเกล อาร์เตต้า จะนำพาทีมกลับมาสร้างผลงานที่ดีได้

การออกสตาร์ทอันเลวร้ายด้วยการพ่าย 3 นัดติดต่อกันเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1954-1955 นอกจากนี้ทีมจากลอนดอนยังทำสถิติครองบอลต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก คือทำได้เพียง 19 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีสถิติการพยายามยิงประตูไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ถือได้ว่า อาร์เซนอล เป็นทีมหนึ่งที่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อต้องการกลับมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจลูกหนังบนเกาะอังกฤษอีกครั้งด้วยการทุ่มซื้อนักเตะเกือบทุกตำแหน่งทั้ง ผู้รักษาประตู, แบ็คซ้าย, เซ็นเตอร์แบ็ค, มิตฟิลด์ตัวกลาง และมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม โดยทั้งหมดมีราคารวมกันกว่า 130 ล้านปอนด์

แต่หลังจากออกสตาร์ทได้อย่างเลวร้ายนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วปัญหาของ อาร์เซนอล ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด

แม้จะเสริมเกือบทุกตำแหน่งแต่ มิเกล อาร์เตต้า มองข้ามการหาผู้เล่นใหม่ในตำแหน่งแบ็คขวา ในขณะที่ เอคตอร์ เบเยริน ประกาศต้องการย้ายทีมตั้งแต่ช่วงต้นซัมเมอร์ นายใหญ่ชาวสแปนิชก็พยายามแก้ปัญหาด้วยการใช้งาน เซดริก โซอาเรส และ คัลลัม แชมเบอร์ ซึ่งเราก็ได้เห็นแล้วว่าทั้งคู่ไม่สามารถรับมือกับเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ได้เลย

เช่นเดียวกันกับอนาคตของ อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ ที่เหลือสัญญากับทีมอีกเพียงปีเดียว รวมทั้งนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง วิลเลียน, รีส เนลสัน และ เซอัด โคลาเซนัค ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงมีข่าวย้ายทีมก่อนปิดตลาดในวันที่ 31 สิงหาคม

ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้เชื่อกันว่าส่งผลต่อบรรยากาศภายในสโมสรอย่างชัดเจน ด้วยการมีผู้เล่นที่หวังจะย้ายทีมเพื่อหาความท้าทายใหม่ ๆ และกับนักเตะอีกกลุ่มหนึ่ที่ยังดีไม่พอที่จะลงสนามให้กับสโมสรอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้หลายคนยังสงสัยว่าเพราะเหตุใด อาร์เตต้า จึงปล่อย วิลเลียม ซาลิบา และ ไดนอส มาฟโรปานอส ออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวโดยลงเล่นในระดับ ลีกเอิง และ บุนเดสลีกา แทนที่จะให้ทั้งคู่กลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่และเปิดโอกาสให้ต่อสู้เพื่อการลงเล่นเป็นตัวจริง

และสิ่งที่เห็นชัดเจนในตอนนี้คือ นักเตะใหม่ที่ซื้อเข้ามาทั้งหมดยังไม่สามารถโชว์ศักยภาพหรือทำให้แฟนบอลเชื่อใจได้ว่าพวกเขาคืออนาคตของทีมจริง ๆ

ในขณะเดียวกันปัญหาหนึ่งที่ถูกพูดถึงคือเรื่องของเทคนิคการเล่น โดยทาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีมได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้หลังจบเกมที่พ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ ว่าทีมของเขาต้องกล้าเล่นกล้าลุยมากกว่านี้แม้ว่าตัวผู้เล่นจะเหลือเพียง 10 คน ซึ่งเขาก็ยังมองว่าลูกทีมยังไม่มีความกล้าพอที่จะทวงประตูคืน รวมทั้งยังออกมาเรียกร้องให้นักเตะต้องยกระดับการเล่นของตัวเองเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้นในเกมหน้าด้วย

สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของ อาร์เซนอล ที่ถูกสะท้อนออกมาหลังจากออกสตาร์ท 3 นัดเก็บได้ 0 คะแนน เสีย 10 ประตู และทำประตูคู่แข่งไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ซึ่ง มิเกล อาร์เตต้า ยังมีเวลาที่จะทบทวนข้อผิดพลาดและแผนงานต่าง ๆ ในช่วงพักเบรคทีมชาติก่อนจะกลับมาเปิดบ้านต้อรับ นอริช ซิตี้ ในัวนที่ 11 กันยายน

แต่ก็ไม่แน่ว่าช่วงเวลาแบบนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราอาจจะได้เห็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดของบอร์ดบริหาร อาร์เซนอล ก็เป็นไปได้ 

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด