อาร์เซนอล กับการลุ้นแชมป์ที่เข้มข้นขึ้นหลังเกมสุดระทึกที่ แอนฟิลด์ - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ก่อนเกมที่ อาร์เซนอล จะบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในศึก พรีเมียร์ลีก เกมบิ๊กแม็ตช์เมื่อคืนนี้ บรรดากูรูทั้งหลายต่างเชื่อกันว่าด้วยฟอร์ม ณ ปัจจุบันของลูกทีม มิเกล อาร์เตต้า จะทำให้พวกเขาสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ไม่ยากและจะทำให้เข้าใกล้การเป็นแชมป์มากขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป
พอล เมอร์สัน และ คริส ซัตตัน 2 กูรูชื่อดังต่างออกมาฟันธงตรงกันว่า เกมนัดนี้เจ้าบ้านไม่น่าจะมีแต้ม เพราะผลการแข่งขันที่ผ่านมาใน 4 เกมหลังสุดหลังศึกแดงเดือดที่พวกเขาถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 7-0 นั้นมันช่างเลวร้ายสิ้นดี
ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เก็บได้เพียง 1 คะแนนจาก 3 นัดล่าสุดในเกมลีกและแพ้ต่อ เรอัล มาดริด จนตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก นี่คือผลงานก่อนที่จะมาเจอกับ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงที่ชนะรวด 7 เกมติดต่อกัน ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรสู้กันได้
แต่ มิเกล อาร์เตต้า ก็ออกมาเตือนลูกทีมว่าอย่าประมาทในการเจอ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ เพราะพวกเขามีประสบการณ์ที่เลวร้ายมาแล้วเมื่อซีซันที่ผ่านมาจากการโดนถลกหนังไป 4 เม็ด
แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แม้ผลที่ออกมาจะเสมอกัน 2-2 โดย อาร์เซนอล ขึ้นนำก่อน 2-0 แต่หลังจากนั้นเกมก็ตกเป็นของเจ้าบ้านซึ่งเกือบจะพลิกเอาชนะได้ในช่วงท้ายถ้าไม่ได้ อารอน แรมส์เดล ช่วยเซฟสำคัญเอาไว้ถึง 2 ครั้ง
แกรี เนวิลล์ กูรูของทาง สกายสปอร์ต กล่าวหลังจบเกมว่า เดอะกันเนอร์ส นั้นโชคดีมาก ๆ ที่พวกเขาไม่พ่ายแพ้กลับออกมาเมื่อมองจากโอกาสยิงที่ ลิเวอร์พูล มีมากกว่าและทำได้จะแจ้งกว่า
“เรายังมีเวลาอีก 6 สัปดาห์ที่จะเกิดเหตุการณ์พลิกไปพลิกมาได้อีก และผมต้องบอกเลยว่า อาร์เซนอล นั้นเล่นได้ดีมาก ๆ ในครึ่งแรก แต่ ลิเวอร์พูล ก็สามารถกลับมาตั้งลำได้ในครึ่งหลังเหมือนกัน”
“นายทวารของพวกเขาต้องเซฟประตูสำคัญระดับเวิลด์คลาสถึง 2 ครั้งเพื่อทำให้อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ต่อไป อาร์เซนอล ควรคิดว่ามันเป็น 1 แต้มที่โชคดีเหลือเกิน ดีกว่าจะไปคิดว่าพวกเขาทำคะแนนหล่นหายไปถึง 2 คะแนน” อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าว
อย่างไรก็ตามความเห็นนี้ตรงกันข้ามกับ มิเกล อาร์เตต้า ที่ออกลูกเสียดายหลังจากที่ทีมไม่สามารถปิดเกมได้ทั้ง ๆ ที่ขึ้นนำถึง 2-0 และเขาก็มองว่าการเสมอนั้นหมายความว่าพวกเขาทำแต้มหล่นไปถึง 2 แต้ม
“เมื่อคุณเสียประตูในช่วงท้ายเกมมันคือการเสีย 2 คะแนนเสมอเพราะคุณมี 3 แต้มในมือแล้วแต่ก็ต้องเสียแต้มไปจนได้”
“ความรู้สึกก็คือ เราควรจะเอาชนะได้ แต่มันก็ยุติธรรมสำหรับพวกเราแล้ว พวกเขามีโอกาสสำคัญถึง 4 ครั้งที่ควรจะเปลี่ยนเป็นประตูและยังได้ลูกโทษอีกด้วย”
“เราต้องทบทวนตัวเองและควรจะทำได้ดีกว่านี้ในครึ่งหลัง” อาร์เตต้า กล่าว
เมื่อพิจารณาจากตารางคะแนนแล้วดูเหมือนว่า อาร์เตต้า อาจจะคิดถูกเมื่อ 1 คะแนนของ อาร์เซนอล ในเกมนี้ทำให้ระยะห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือเพียง 6 คะแนน ในขณะที่ทีมของ เป๊ป ยังมีเกมในมือเหลืออีก 1 นัด ซึ่งหมายความว่าถ้าพวกเขาเอาชนะคู่แข่งได้ ช่องว่างจะเหลือเพียง 3 แต้มทันที
ซึ่งตามโปรแกรมแล้วเกมต่อไปวันที่ 12 เมษายน ซิตี้ จะเปิดบ้านเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และจากนั้นวันที่ 15 เมษายนพวกเขาจะต้อนรับการมาเยือนของทีมในโซนตกชั้นอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และถ้าสามารถเก็บชัยชนะในนัดนี้ได้ก็จะแข่งเท่ากับ อาร์เซนอล ที่ 30 นัดพร้อมกับไล่จี้เข้ามาเหลือ 3 แต้ม
ส่วนทีมของ อาร์เตต้า จะลงเล่นในวันถัดมาคือวันที่ 16 เมษายนโดยจะออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในศึก ลอนดอน ดาร์บี้ ซึ่งจะปล่อยให้พลาดอีกไม่ได้ เพราะทั้ง ซิตี้ และ กันเนอร์ส มีคิวจะลงเล่นเกมวัดแชมป์กันในวันที่ 27 เมษายนที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
ซึ่งเมื่อพูดถึงประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์แบบเบียดกันเกมต่อเกม ลูกทีมของ เป๊ป นั้นช่ำชองกว่ามากเพราะพวกเขาเคยรอดพ้นจากการโดน ลิเวอร์พูล ไล่จี้มาแล้วถึง 2 ซีซัน โดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ไปเฉือนกันในเกมนัดสุดท้าย ก่อนที่จะคว้าแชมป์ไปครองอย่างสุดระทึก
ในขณะที่ทีมคนหนุ่มของ อาร์เตต้า ที่เพิ่งจะลุ้นแชมป์จริงจังปีแรก ก็ไม่รู้ว่าจะรับมือกับแรงเสียดทานได้ดีขนาดไหน
ดังนั้นเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล พวกเขาอาจจะโชคดีที่ไม่แพ้ก็จริง แต่ 2 คะแนนที่เสียไปนั้นถือว่าทำให้ช่วงที่เหลือของ อาร์เซนอล ต้องลุ้นกันพอสมควร