เมษามหาโหดของ ลิเวอร์พูล - OPINION

Arsenal v Liverpool - Premier League
Arsenal v Liverpool - Premier League / Justin Setterfield/GettyImages
facebooktwitterreddit

แม้ว่าบรรดากองเชียร์ของ ลิเวอร์พูล จะกำลังอยู่ในช่วงของความฝันที่จะได้เห็นทีมของพวกเขามีลุ้นการคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ไล่ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 1 คะแนนในศึก พรีเมียร์ลีก และเข้ารอบลึกในบอลถ้วย แต่เมื่อหันกลับมามองความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่มันจะเกิดขึ้นได้

หลังจากที่ หงส์แดง สามารถบุกไปเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จอมล้มยักษ์ของศึก เอฟเอคัพ หนนี้ได้ด้วยสกอร์หืดจับ 1-0 พวกเขาก็ต้องโคจรไปพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รอท่าในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะเตะกันในเดือนเมษายน 

ซึ่งเมื่อไปดูตารางการแข่งขันในเดือนดังกล่าวจะพบว่า ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมมหาโหดรออยู่ และอาจเป็นช่วงเวลาที่จะตัดสินว่าพวกเขายังมีลุ้น 4 แชมป์อย่างที่ฝันไว้กันอยู่หรือไม่

Jurgen Klopp
Liverpool FC v FC Internazionale: Round Of Sixteen Leg Two - UEFA Champions League / Alex Livesey - Danehouse/GettyImages

เพราะหลังกลับมาจากการเบรคทีมชาติเรียกได้ว่านี่คือช่วง “โค้งสุดท้าย” ของฤดูกาลก็ว่าได้ เนื่องจากจะเหลือเกมลีกอีก 9 นัด, เกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย และ เอฟเอคัพ ก็จะลงเตะกันในรอบเซมิไฟนอล กันในเดือนนี้

และไอ้การที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายนี่แหละที่จะทำให้ทุกทีมต้อง “เน้น” ทุกเกมเพราะแต่ละทีมก็มีเป้าหมายเหมือนกันไม่ใช่เฉพาะ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

คู่ต่อกรของ เดอะเร้ดส์ ในเดือนเมษายนประกอบไปด้วย วัตฟอร์ด (พรีเมียร์ลีก), เบนฟิก้า (2 นัด ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2 นัด พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ) และเกมลีก 3 นัดในการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และปิดท้ายด้วย นิวคาสเซิล  

Raheem Sterling, Jack Grealish
Southampton v Manchester City: The Emirates FA Cup Quarter Final / Justin Setterfield/GettyImages

เกมหนักที่สุดก็คงเป็นการเจอกับ เรือใบสีฟ้า เพราะพวกเขาก็ยังอยู่บนเส้นทางการเป็นแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ เหมือนกับ ลิเวอร์พูล 

แม้ คล็อปป์ จะพาทีมไล่จาก 14 แต้มจนมาเหลือช่องว่างเพียงคะแนนเดียว แต่ก็อย่าลืมว่าพวกเขายังไม่ได้แซงหน้า ซิตี้ ไปนั่งแท่นจ่าฝูง และยังเหลือเกมในมืออีกคนละ 9 นัด ซึ่งหากทีมของ เป๊ป สามารถเก็บชัยชนะในเกมที่เหลือได้หมด พวกเขาก็เป็นแชมป์อยู่ดี

นายใหญ่ชาวคาตาลันออกมายืนยันแล้วว่า นับแต่นี้ต่อไปพวกเขาจะลงเล่นทุกนัดเหมือนนัดชิงชนะเลิศ แบบเดียวกับที่ คล็อปป์ เคยพูดไว้เป๊ะ แถม เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันทีมยังออกมาเตือน เดอะค็อป ด้วยว่าทีมของเขายังอยู่ในจุดที่ได้เปรียบและยังมีลุ้น 3 แชมป์ในซีซันนี้ 

Mohamed Salah
Manchester United v Liverpool - Premier League / Michael Regan/GettyImages

ในขณะที่เกมหนักอีกเกมอย่าง “แดงเดือด” กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์ นั้นก็คงไม่อาจเอาไปเทียบกับนัดแรกที่บุกไปถล่ม 5-0 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้ว เพราะ ยูไนเต็ด เองก็กำลังลุ้นอันดับ 4 โควต้า ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อาร์เซนอล, เวสต์แฮม และ ท็อตแนม ฮ้ฮทสเปอร์ อย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ยำเหมือนเกมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ด้านเกมยุโรปกับ เบนฟิก้า นั้นแม้ตอนรู้ผลการจับฉลากแฟนบอลหลายคนจะรู้สึกยินดีปรีดากันเป็นพิเศษ แต่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ออกมายอมรับว่าถ้าไม่ดีจริง เหยี่ยวลิสบอน คงไม่สามารถผ่าน อาแจ็กซ์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ หรือแม้กระทั่งการเขี่ย บาร์เซโลนา ตกรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาก็ทำสำเร็จมาแล้วด้วย

ปิดท้ายด้วยการเจอกับทีมลุ้นตกชั้นทั้ง 3 ทีมอย่าง วัตฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน และ นิวคาสเซิล ซึ่งถ้าย้อนไปเจอกันก่อนหน้านี้ซักเดือนหรือสองเดือนอาจจะพอคาดเดาผลการแข่งขันได้ แต่การที่ต้องมาเจอกับทีมอันดับ 18, 17 และ 14 ในช่วงเวลาแบบนี้ มันคงไม่ใช่ขนมกรุบที่จะเคี้ยวได้ง่าย ๆ เหมือนกัน

ทั้งหมดนี้ต้องรอดูกันหลังช่วงเบรคทีมชาติ ซึ่งเราจะได้รู้ว่าถึงตอนนั้น ลิเวอร์พูล ยังเหลือให้ลุ้นอีกกี่แชมป์


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด