อังเก้ ปอสเตโคกลู การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดของ สเปอร์ส จริงหรือ ? - OPINION
โดย Navapun Munarsa
อังเก้ ปอสเตโคกลู อาจไม่ใช่ผู้จัดการทีมระดับบิ๊กเนมที่แฟนบอล ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องการให้เข้ามาทำงาน แต่หลายคนที่รู้จักเชื่อมั่นว่า โค้ชวัย 57 ปี จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดของ “ไก่เดือยทอง” อย่างแน่นอน
ปอสเตโคกลู จะกลายเป็นเทรนเนอร์ชาวออสเตรเลียคนแรกที่ได้คุมทีมในศึก พรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้ เจ้าตัวก็มีเส้นทางอาชีพที่ไม่ธรรมดาหลังเคยคว้าแชมป์ลีกในบ้านเกิด ข้ามฟากไปคว้าแชมป์ลีกในญี่ปุ่น และคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยกับ กลาสโกว์ เซลติก ในสก็อตแลนด์
ปอสเตโคกลู เป็นกุนซือที่ชอบให้ลูกทีมเล่นเกมรุกที่เร้าใจ เล่นฟุตบอลด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยม และมีจุดมุ่งหมายในการประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิงที่ สเปอร์ส ขาดหายไปนานนับตั้งแต่ย้ายทางกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน
แมตต์ สมิธ อดีตนักเตะ บริสเบน รอร์ ในลีกออสเตรเลีย ซึงเคยคว้าแชมป์หลายรายการกับ ปอสเตโคกลู กล่าวว่า “จุดแข็งของ อังเก้ คือ ความสามารถของเขาในการพาผู้เล่นร่วมเดินทางไปด้วยกัน และทำให้เชื่อในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ”
“ไม่มีความผ่อนปรนสำหรับผู้เล่นที่ไม่ต้องการทำตามแนวทางของเขา เราไม่เคยถูกทำให้รู้สึกไร้จุดมหาย เรามักจะถูกผลักดันให้ดีขึ้น พัฒนาอยู่เสมอ ทำงานหนักกว่าที่ผมเคยสัมผัสมาก่อน มันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะเป็นผู้เล่นบิ๊กเนมที่สุดในห้องแต่งตัวหรืออายุน้อยที่สุด เพราะถ้าคุณไม่ยอมทำตามหลักการของเขา เขาก็จะตัดคุณออกทันที”
หลังจากประสบความสำเร็จมากมายในบ้านเกิด ปอสเตโคกลู ก็โยกไปทำงานกับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ในเจลีก เมื่อปี 2018 ซึ่งตอนนั้นทีมไม่มีรูปแบบการเล่นที่ดีนัก จากนั้น เขาก็ทำให้วงการฟุตบอลแดนปลาดิบต้องสั่นสะเทือน
แดน ออโลวิตซ์ จาก “เจแปน ไทม” เล่าว่า “อังเก้ ทำให้สโมสรมีจุดมุ่งหมายอย่างแท้จริง มันเป็นสไตล์ฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น ซึ่งในเจลีกไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่า โยโกฮามา จะมีปัญหากับผลการแข่งขันในบางเกม ปี แต่เขาก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่”
"แฟนๆ เชื่อมั่นในตัวเขา และในปีถัดไป เขาก็ปล่อยผู้เล่นที่ไม่เหมาะกับระบบออกไป และนำผู้เล่นที่เหมาะสมเข้ามา ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จในปี 2019”
“มันเป็นอย่างที่คุณเคยเห็นที่ เซลติก ไม่ใช่แค่ผู้เล่นสนสนาม 11 คน แต่พวกเขายังมีคนทำเกมรุกได้ 11 คน การสร้างระเบียบวินัย และความลื่นไหลของเกม ซึ่งเคลื่อนไหวเหมือนน้ำ และมันยากที่ใครจะมาหยุดได้”
"แฟน ๆ ของ โยโกฮามา ชอบมัน และแฟน ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็เคารพเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่แข่งกันก็ตาม เพราะมันน่าชื่นชมอย่างมากที่ได้เห็นทีมของ อังเก้ ลงสนาม”
ขณะเดียวกัน ดาเนียล เลวี ประธานสโมสร สเปอร์ส รับรู้ถึงแนวทางการทำงานของ ปอสเตโคกลู เป็นอย่างดี และมองว่า อดีตนายใหญ่ โยโกฮามา คือ คนที่ตามหามานานหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในยุคของ โจเซ่ มูรินโญ่, นูโน เอสพิริโต ซานโต้ และ อันโตนิโอ คอนเต้
สมิธ กล่าวต่อว่า “เขามีลักษณะการทำงานที่อาจจะแปลกประหลาดที่รู้วิธีที่จะกระตุ้นคุณ และพูดในสิ่งที่ถูกต้อง ข้อความของเขาชัดเจนเสมอ มันเป็นแนวทางของเขา เขาสนับสนุนคุณตลอดเวลา เขาทำให้คุณรู้สึกว่าไร้เทียมทาน”
ปอสเตโคกลู ต้องเผชิญความท้าทายในการทำให้ สเปอร์ส กลับมาเล่นฟุตบอลแบบมีทิศทางอีกครั้ง และ สมิธ ก็มองว่า อดีตเจ้านายเก่ามีความสามารถมากพอในการทำให้พลพรรค “ไก่เดือยทอง” กลับมาประสบความสำเร็จ
สมิธ ระบุว่า “เราฝึกซ้อมหนักกว่าที่เราเล่นเกมจริงๆเสียอีก เรามักจะขึ้นบอลจากแนวหลัง หามุม และช่องว่างเสมอ เราต้องจัดการไลน์การยืนตำแหน่งของตัวเอง และทำงานในสามหรือสี่ส่วนที่แตกต่างกันของการเล่น”
“เขาชอบที่ทีมของเขาที่จะได้ครองบอล ดังนั้น เขาจึงไม่ใช่โค้ชที่จะเน้นเกมโต้กลับ เขาจะโจมตีคู่แข่งทันที ซึ่งนั่นคือ ความต้องการที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับการการเล่นเกมรับ เมื่อใดก็ตามที่เราเสียบอลไป เราต้องการมาตั้งโซน และเอาบอลกลับให้เร็วที่สุด”
"มันมีความเสี่ยงสูงในเกม แต่นั่นคือหลักการของเขา เขาไม่เคยทำละเลยรายละเอียดต่างๆในสนาม ไม่เคยคิดว่า จะมีใครการันตีตำแหน่งตัวจริง และนั่นคือ การทำงานเป็นทีมอย่างแท้จริง”
สำหรับแฟนบอล สเปอร์ส ชื่อของ ปอสเตโคกลู อาจไม่ใช่คนที่พวกเขาต้องการนัก แต่หากปล่อยให้เขามีเวลาในการการทำงานของตัวเอง และได้สร้างทีมที่ต้องการ บางที “ไก่เดือยทอง” อาจได้ของขวัญชิ้นโตเข้ามาสโมสรในอนาคตก็เป็นได้