[OPINION] รุ่ง หรือ ร่วง ! วิเคราะห์บรรดาแข้งหน้าใหม่ พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์นี้ : ลิเวอร์พูล
จบสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ตั้งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก ร่วมถึงลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรป ซึ่งมีทั้งดีลที่น่าสนใจรวมถึงดีลสุดช็อคเกิดขึ้นมากมาย ทำเอาแฟน ๆ หลายทีมรู้สึกสมหวัง หรืออาจมีผิดหวังกันไปบ้างแตกต่างกันไป
วันนี้เราจึงอยากจะหยิบยกดีลที่น่าสนใจของแต่ละสโมสรมาวิเคราะห์ถึงบทบาทในทีมของนักเตะเหล่านั้น รวมถึงคาดการณ์ถึงผลงานที่อาจเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ที่กำลังฟาดแข้งกันอยู่นี้ !
ติดตามบทความวิเคราะห์ทีมอื่น ๆ ได้ที่
รุ่ง หรือ ร่วง ! วิเคราะห์บรรดาแข้งหน้าใหม่ พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์นี้ : เชลซี
รุ่ง หรือ ร่วง ! วิเคราะห์บรรดาแข้งหน้าใหม่ พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์นี้ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล
มากันที่ หงส์แดง ทีมแชมป์แห่งลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาลก่อน ที่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเสริมทัพนักเตะใหม่เข้ามาเพิ่มไม่มากเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากเรื่องของปัญหาการเงินในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจนทำให้ทีมขาดรายได้ไปนั่นเอง
ดิโอโก้ โจต้า - 40.2 ล้านปอนด์ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน
หัวหอกชาวโปรตุเกสที่ หงส์แดง ยอมควักเงินกว่า 40 ล้านกระชากตัวมาร่วมทีมเป็นรายล่าสุด ซึ่งฟอร์มของเจ้าตัวตลอด 3 ปีกับ ทัพหมาป่า บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา แถมตำแหน่งการเล่นที่เป็นกองหน้ากึ่งปีกสไตล์ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ชอบใช้ จึงค่อนข้างตอบโจทย์และเหมาะกับแผนการเล่นของ ลิเวอร์พูล ในปัจจุบันเลยทีเดียว สมัยที่ค้าแข้งกับ วูล์ฟส์ โจต้า ประจำการในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้ายเป็นหลัก แต่การที่เจ้าตัวถนัดเท้าขวา จึงทำให้บ่อยครั้งเราจะเห็นการใช้ความคล่องตัวเลี้ยงจี้และลากตัดเข้าในก่อนจะจบด้วยเท้าขวาเป็นลูกทีเด็ดที่มักจะผลิตสกอร์ให้กับทีมได้อยู่บ่อย ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
คาดการณ์ผลงาน - ต้องบอกว่าเส้นทางในถิ่น แอนฟิลด์ ของ โจต้า นั้นจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน เพราะด่านแรกที่เขาต้องเอาชนะ คือการต้องโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้เร็วที่สุดจากโอกาสที่คาดว่าจะมีเพียงน้อยนิดในฟุตบอลถ้วย เพื่อที่จะให้ คล็อปป์ เห็นว่าเขามีดีพอและยอมส่งลงมาแทนที่ใครคนใดคนหนึ่งใน 3 ประสานเจ้าประจำที่ยึดสัมปทานเอาไว้ได้อย่างเหนี่นวแน่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลงานของเขาล้วน ๆ ว่าจะสามารถสร้างความประทับใจได้มากขนาดไหน แต่หากดูจาก 4 เกมแรกที่ลงเล่นไป จัดว่ามีแววดีเลยทีเดียวทั้งการหาพื้นที่ และการจบสกอร์ ต้องมาลุ้นกันว่าต่อจากนี้เจ้าตัวจะสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นตัวหลักของทีมได้หรือไม่ หรือจะเป็นได้เพียงอะใหล่ในทีมยามที่ตัวหลักไม่พร้อมลงสนามเหมือนกับกองหน้าตัวสำรองคนอื่น ๆ ที่นั่งกันอยู่เต็มซุ้มมานั่งสำรอง ณ เวลานี้
ติอาโก้ อัลคันทารา - 19.8 ล้านปอนด์ จาก บาเยิร์น มิวนิค
กองกลางดีกรีแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีล่าสุดกับ ทัพเสือใต้ ฤดูกาลก่อน ถ้าพูดในเรื่องความสามารถ ทุกคนคงไร้ข้อกังขาสำหรับฝีเท้าของอดีตดาวเตะ บาร์เซโลนา รายนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกจับไปเปรียบให้เป็นนิว ชาบี เฮอร์นันเดซ น่าเสียดายที่หลังจากเจ้าตัวย้ายมาสู่ พรีเมียร์ลีก และลงเล่นได้เพียง 45 นาทีในเกมที่พบกับ เชลซี ก็ถูกตรวจพบว่าติดเชื่อ โควิด-19 จนต้องอยู่พักรักษาตัวไปร่วม 2 สัปดาห์กระทั่งพึ่งจะหายดีในที่สุด อย่างไรก็ตามคาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักในการกลับมาลงซ้อมและเรียกความฟิตกลับมา เชื่อได้เลยว่าแฟน ๆ หงส์แดง หลายคนคงตั้งหน้าตั้งตารอดูผลงานแบบเต็มฝีเท้าของเขาคนนี้แบบใจจดใจจ่ออยู่อย่างแน่นอน
คาดการณ์ผลงาน - หากดูจากสไตล์การเล่นโดยรวมตั้งแต่ปีก่อน รวมถึง 45 นาทีกับต้นสังกัดใหม่ ต้องบอกเลยว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ของ ลิเวอร์พูล ที่อาจมีการเข้าทำจากตรงกลางมากขึ้น จากเดิมที่เน้นขึ้นเกมบริเวณริมเส้นเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามการที่การมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก จะไม่ใช่งานง่ายของเขาที่จะสามารถคุมเกมกลางสนามได้อย่างไหลลื่นและง่ายดายเหมือนที่ บาเยิร์น มิวนิค อย่างแน่นอน ดูได้จากเกมล่าสุดที่พวกเขาโดนถล่มยับโดย แอสตัน วิลลา ถึง 7-2 ชนิดที่แดนกลางของพวกเขาโดนผู้เล่น วิลลา ไล่บดอย่างหนักหน่วงจนพบวิ่งไม่เป็นทรงจนต้องพบกับความปราชัยชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด ต้องมาลุ้นกันว่า ติอาโก้ จะสามารถปรับตัวให้ทนต่อแรงกดดันร่วมถึงความเร็วและความหนักหน่วงของเกมในสไตล์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้หรือไม่นั้น แฟน ๆ หงส์แดง คงทำได้แค่ลุ้นและรอชมไปพร้อม ๆ กันต่อจากนี้เท่านั้น !
คอสตาส ซิมิคาส - 11.7 ล้านปอนด์ จาก โอลิมเปียกอส
แบ็คซ้ายจอมบุกชาวกรีซที่ปีก่อนทำผลงานได้โดนเด่นกับต้นสังกัดเดิม จน ลิเวอร์พูล ที่กำลังมองหาทางเลือดในตำแหน่งแบ็คซ้ายดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 11 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งสไตล์การเล่นของเขานั้นก็ไม่มีอะไรมากนอกจากการเติมเกมบุกแหลกและมีทีเด็ดจากการครอสบอลทางกราบซ้าย ซึ่งนับตั้งแต่ย้ายมา เราพึ่งจะได้เห็นฟอร์มของเขาแบบจะแจ้งไปเพียงนัดเดียวในเกม คาราบาว คัพ รอบที่ 3 ที่ทีมถล่ม ลินคอล์น ซิตี้ ยับเยิน 2-7 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
คาดการณ์ผลงาน - บอกตามตรงว่าเท่าที่ดูจากเกม คาราบาว คัพ ในวันนั้น รู้สึกเหมือนเห็นภาพของ อัลแบร์โต้ โมเรโน ลอยมาลาง ๆ ด้วยการเติมเกมบุกสูงชนิดที่แทบไม่เคยเห็นเขายืนต่ำกว่าครึ่งสนามเลยตลอดทั้งเกม ซึ่งแน่นอนมันทำให้เกมรับค่อนข้างเป็นบ่อให้คู่แข่งจากลีกวันเล่นงานอยู่บ่อย ๆ ดีที่สุดท้ายแนวรุกของ ลินคอล์น ไม่เฉียบขาดกันมากพอ มิฉนั้นพวกเขาอาจจะยิงได้ถึง 4 หรือ 5 ประตูไปแล้วก็เป็นได้ แถมแบ็คซ้ายอันดับหนึ่งของทีมอย่าง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ณ เวลานี้ก็จัดว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลกอยู่แล้ว หาก ซิมิคาส ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองภายใต้โอกาสที่มีอันน้อยนิดให้ผลงานเป็นที่ประจักษ์มากกว่านี้ บอกเลยว่ายากที่จะเบียด ร็อบโบ้ ลงได้ และเราคงได้เห็นเขานั่งตบยุงอยู่ข้างสนามกันแบบยาว ๆ ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด