[OPINION] แข้งตกกระป๋อง ! วิเคราะห์สถานการณ์บรรดาแข้งส่วนเกินของทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียรลีก ฤดูกาลนี้

Arsenal FC v Olympiacos FC - UEFA Europa League Round of 32: Second Leg
Arsenal FC v Olympiacos FC - UEFA Europa League Round of 32: Second Leg / Chloe Knott - Danehouse/Getty Images
facebooktwitterreddit

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่สร้างความฮือฮาโดยเฉพาะจากการที่แต่ละทีมส่งรายชื่อนักเตะเพื่อลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มากพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกรณีก็มีที่มาที่ไปแตกต่างกัน วันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุ รวมถึงคาดการณ์อนาคตของนักเตะเหล่านี้ที่ว่ากันว่า "ตกกระป๋อง" ของบรรดาทีมใหญ่ในลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยจะมีใครกันบ้างนั้น ลองไปชมกัน...


เมซุด เออซิล - โซคราติส จาก อาร์เซนอล

Arsenal v Valencia - UEFA Europa League Semi Final : First Leg
Arsenal v Valencia - UEFA Europa League Semi Final : First Leg / James Williamson - AMA/Getty Images

จัดว่าเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียวสำหรับการถูกหั่นรายชื่อออกจากทีมชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ของ โซคราติส และสตาร์ดังค่าเหนื่อยแพงอย่าง เมซุต เออซิล ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาภายในอยู่กับสโมสรในประเด็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ของประเทศจีนลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อปลายปีก่อน จนทำให้หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ถูกตัดออกจากสารบบในทันที รวมถึงถูกบอยคอตอย่างรุ่นแรงในประเทษจีนทั้งสิ้นค้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การไม่มีชื่ออยู่ในเกม PES และ FIFA เวอร์ชั่นที่เปิดขายในแดนมังกรเลยทีเดียว

คาดว่าในส่วนของ โซคราติส ยังพอมีข่าวลือว่าทีมในกรีซบ้านเกิด รวมถึงใน บุนเดสลีก้าเยอรมัน กำลังให้ความสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึง แต่ในรายของ เออซิล เจ้าตัวเคยออกมาประกาศว่าจะอยู่กับทีมจนหมดสัญญากลางปีหน้านั่นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า อดีตจอมทัพอินทรีเหล็กรายนี้อาจต้องนั่งว่างงาน โดยไม่ได้ลงสนามไปอีกร่วมปีเลยทีเดียว

เคปา - อลอนโซ - รือดิเกอร์ จาก เชลซี

FBL-ENG-FACUP-CHELSEA-LIVERPOOL
FBL-ENG-FACUP-CHELSEA-LIVERPOOL / DANIEL LEAL-OLIVAS/Getty Images

ด้าน สิงโตน้ำเงินคราม ที่หลังจากเสริมทัพครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่อมมีนักเตะเก่าบางรายที่ต้องตกกระป๋องไปตามสภาพ รายแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือ เคปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารดีกรีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ที่ได้รับโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าในซีซั่นนี้แต่ก็ยังเล่นผิดพลาดชนิดไม่น่าให้อภัยในแทบทุกเกมที่ลงสนาม จึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะถูกดร็อปให้อยู่บนม้านั่งไปตามระเบียบ แถมยังมีข่าวลือหนาหูถืงการที่ทีมพยายามจะขายเขาออกไปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย

รายต่อมา มาร์กอส อลอนโซ ที่มีข่าวว่าผิดใจกลับ แฟรงค์ แลมพาร์ด อย่างรุนแรงตั้งแต่เกมลีกกับ เวสต์บรอมวิช ที่เจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่พักครึ่งเวลาและไม่อยู่ชมเกมต่อในสนาม ซึ่งตามรายงานระบุว่ากุนซือหนุ่มโกรธเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์นี้ และหลังจากนั้นแฟน ๆ สิงห์บลู ก็ไม่เห็นหน้าคาดตาแบ็คซ้ายรายนี้อีกเลย ดังนั้นคงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าอนาคตของเขากับทีมอาจจะสิ้นสุดลง ณ ตรงนี้ ทันที่ที่เปิดตลาดหน้าหนาวก็เตรียมเก็บสัมภาระและมองหาต้นสังกัดใหม่ได้เลย

สุดท้ายคงเป็นคนที่ถูกแฟน ๆ ตั้งคำถามถึงการหายหน้าไปมากที่สุดนั่นคือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังตัวเก่งชาวเยอรมันที่ยังไม่เคยได้ลงสัมผัสสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลนี้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงที่เจ้าตัวโดนดร็อปไป แต่ก็มีข่าวลือแว่ว ๆ ว่าอาจมีสาเหตุจากการที่ทีมต้องการจะขายเขาออกไป แต่ไม่สามารถหาผู้ซื้อในราคาที่ต้องการได้จนกระทั่งตลาดปิดตัวลง สำหรับรายนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าทั้งสองฝ่ายจะเคลียใจกันได้หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะยังพอมีโอกาสเพราะแผงหลังที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้ รือดิเกอร์ จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีหากทีมต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนในช่วงที่ยังซื้อใครมาเพิ่มไม่ได้ในตอนนี้

โรเมโร - โจนส์ - โรโฮ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

FBL-EUR-C3-MAN UTD-ROSTOV
FBL-EUR-C3-MAN UTD-ROSTOV / OLI SCARFF/Getty Images

และก็มาถึงคิวของนายทวารที่ว่ากันว่าน่าสงสารสุด ๆ คนหนึ่งในตอนนี้อย่าง เซร์คิโอ โรเมโร นายทวารฝีมือดีชาวอาร์เจนไตน์ ที่ไม่รู้ว่าไปทำกรรมอะไรกับ โอเล กุนนาร์ โซลชา เอาไว้ ถึงถูกมองข้ามมาโดยตลอด โดยเฉพาะในฤดูกาลก่อนที่แม้จะได้ลงเล่นเฉพาะในบอลถ้วย แต่ก็สามารถพาทีมเข้าไปถึงรอบลึก ๆ ได้ แต่สุดท้ายกลับถูกดร็อปในเกมสำคัญจนทีมตกรอบไปทุกรายการ ไม่เพียงแค่นั้นการมาของ ดีน เฮนเดอร์สัน ในปีนี้เป็นการปิดฉากอนาคตของเขากับทีมอย่างสมบูรณ์ และแทนที่ทีมจะขายเขาออกไป กลับเลือกจะเก็บนายทวารผู้อาภัพรายนี้ออกไปในช่วงตลาดซื้อขายรอบที่ผ่านมา ที่สำคัญคือยังโดนตัดชื่อออกจากทีมชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่รู้ทำไมทีมถึงใจร้ายกับเขาได้ขนาดนี้ คาดว่า โรเมโร คงจะอยู่กับทีมเป็นปีสุดท้ายและคงตัดสินใจย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลางปีหน้าอย่างแน่นอน

ด้าน ฟิล โจนส์ และ มาร์กอส โรโฮ สองรายนี้ค่อนข้างแน่นอนมาพักใหญ่แล้วว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โซลชา สำหรับ โรโฮ ที่สัญญาจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์หน้า คาดว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในลีกบ้านเกิดหลังจากหน้าร้อนที่ผ่านมามีหลายทีมในอาร์เจนตินาสนใจจะดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว แต่ต้นสังกัดต้องการจะปล่อยออกแบบถาวร การย้ายทีมจึงไม่เกิดขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือ โจนส์ ที่ยังเหลือสัญญาอีกร่วม 3 ปี แต่กลับถูกตัดชื่อออกจากทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดูทรงคงน่าจะต้องติดอยู่ในสภาพนี้อีกพักใหญ่ เพราะด้วยค่าตัวที่ตั้งไว้สูงถึง 20 ล้านปอนด์ คงยากที่ทีมใดจะเสี่ยงทุ่มเงินก้อนโตวัดดวงกับกองหลังที่ท่าทางไม่น่าลงทุนแบบนี้ไปร่วมทีมเป็นแน่

แดนนี โรส - เดเล อัลลี จาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

Tottenham Hotspur v Liverpool - UEFA Champions League Final
Tottenham Hotspur v Liverpool - UEFA Champions League Final / Chris Brunskill/Fantasista/Getty Images

แดนนี โรส แบ็คซ้ายวัย 30 ปีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ กลับถูกเมินที่จะใช้งานโดย โชเซ มูรินโญ ทำให้เจ้าตัวต้องยอมย้ายไปเล่นให้กับ นิวคาสเซิล เมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา แต่แล้วในปีนี้เขาก็ยังคงหาสังกัดใหม่ไม่ได้จนตลาดปิดทำให้ต้องอยู่ในฐานะส่วนเกินของทีมต่อไป แต่ยังดีที่สัญญาของแบ็คจอมบุกรายนี้กำลังจะหมดลงกลางปีหน้า แถมมีข่าวแว่ว ๆ ว่าที้งสองฝ่ายกำลังเจรจายกเลิกสัญญากันอยู่ ซึ่งหากสำเร็จลุล่วง โรส จะสามารถย้ายทีมได้ทันทีที่มีสถานะเป็นนักเตะฟรีเอเจนต์นั่นเอง

ปิดท้ายกันที่กองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษอีกรายที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นแข้งที่จะแบกทีม ไก่เดือยทอง ไปถึงฝั่งฝันได้ในอนาคตอย่าง เดเล อัลลี ซึ่งก็เป็นอีกรายที่ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่ค่อยเข้าตานายใหญ่อย่าง "เฮียมู" จนทำให้ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง และบ่อยครั้งที่ไม่มีชื่อติดมากับทีม จนมีข่าวว่าหลายทีมยักษ์ใหญ่อยากได้ตัวไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่เมื่อสุดท้ายไม่ได้ย้าย คงต้องบอกว่างานหยาบเลยทีเดียวสำหรับอนาคตของอดีตวันเดอร์คิดรายนี้ที่คาดว่าจะต้องนั่งตบยุงว่างงานต่อไปยาว ๆ ในซีซั่นนี้ อย่างมากก็คงได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในฟุตบอลถ้วยอีกสัก 2-3 นัดหากทีมยังไม่รีบตกรอบไป ส่วนเกมสำคัญ ๆ รวมถึง พรีเมียร์ลีก คงเป็นได้แค่กองเชียร์ให้เพื่อนร่วมทีมข้างสนามต่อไปอย่างไม่มีกำหนด...


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด