[OPINION] อเล็กซ์ เตลเลส แบ็คซ้ายผู้ตอบโจทย์เกมรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด?
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก จัดการรวบนักเตะใหม่ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายรวดเดียว 4 รายประกอบไปด้วย อเล็กซ์ เตลเลส, เอดิสัน คาวานี, ฟาคุนโด เปเยสตรี้ และ อาหมัด ตราโอเร มูลค่ารวมกันประมาณ 60 ล้านปอนด์
หากนับที่ปริมาณและมูลค่าที่จ่ายไปดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเฉลี่ยแล้วพวกเขาจ่ายเงินค่าตัวไปรายละ 15 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดจะพบว่าแข้งใหม่ที่พร้อมใช้งานจริง ๆ 2 รายคือ เตลเลส และ คาวานี
และยิ่งเมื่อเจาะลึกลงไปอีกก็จะพบว่ามีเพียงรายเดียวที่น่าจะเข้ามาแก้ปัญหาของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ได้ในตอนนี้นั่นคือ แบ็คซ้ายชาวบราซิลเลียนอดีตนักเตะของ ปอร์โต้
นั่นเป็นเพราะว่าสิ่งที่กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนต้องรีบสะสางอย่างรวดเร็วนั่นคือ เกมรับที่เปื่อยยุ่ยเหมือนทิชชู่เปียกน้ำและพร้อมจะเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ทำประตูได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างไม่ต้องไปดูไหนไกล เกมล่าสุดที่พ่ายคาบ้านให้กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญของ โซลชา
แผงแบ็คโฟร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของผู้จัดการทีมหน้าทารกนั้นถือว่าไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้เลย แม้แต่กองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ ที่เกมเจอกับ สเปอร์ส ก็ออกลูกเหวอแถมยังโดนวิจารณ์เรื่องการเป็นผู้นำทีมอีกต่างหาก
จากที่พึ่งพาได้เพียงหนึ่งเดียวก็ไม่สามารถจะแบกรับความย่ำแย่ของเพื่อน ๆ ที่เหลือได้ ว่าแล้วก็เลยพลาดมันด้วยกันเพื่อจะได้ชื่อว่ายังไซะเพื่อนก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว
โซลชา ตั้งเป้าในการเสริมทัพซัมเมอร์เอาไว้ที่การเซ็นเตอร์แบ็คดี ๆ อีกซักตัวเพื่อเอามายืนจับคู่กับกองหลังทีมชาติอังกฤษ รวมทั้งขอแบ็คซ้ายอีกซักคนเพื่อมาแย่งตำแหน่งกับ ลุค ชอว์ แต่ทว่าด้วยการทำงานอันล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพของทีมงานซื้อขายและบอร์ดบริหาร ทำให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทำได้เพียงกระชากแบ็คซ้ายรายใหม่อย่าง อเล็กซ์ เตลเลส เท่านั้น
ดังนั้นเรื่องเซ็นเตอร์แบ็คตัวใหม่คงไม่ต้องพูดถึงแล้วในตอนนี้เพราะอย่างเร็วสุดคงต้อรอช่วงตลาดปีใหม่เปิดอีกรอบ แต่สิ่งที่น่าพิจารณาคือนักเตะใหม่จาก ปอร์โต้ จะเข้ามาแก้ปัญหาเกมรับฝั่งซ้ายได้อย่างไร
เร้ดเดวิลส์ ตกเป็นข่าวกับ เตลเลส เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนปิดตลาดหลังจากที่พวกเขาโดน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ตัดหน้าคว้าตัว เซร์คิโอ เรกีลอน ไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากนั้นพวกเขาหันมาก็เดินเรื่องเจรจาอย่างจริงจังกับ ปอร์โต้ และเกือบจะพลาดคว้าตัวมาร่วมทีมในตลาดซัมเมอร์เนื่องจากมีการโก่งราคากันไปมา แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
ทำให้การคว้าตัวฟูลแบ็คแซมบ้ามาร่วมทัพประจวบเหมาะกับฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ยับเยินของ ลุค ชอว์ ในเกมที่โดน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ สอนบอลไป 6-1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนแบบพอดิบพอดี
อดีตแบ็คซ้ายของ เซาแธมป์ตัน ได้ลงสนามอย่างเต็มที่ในช่วง 2 ปีหลังสุดหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บเรื้อรัง แต่ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นของเขาไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคาดไว้เหมือนตอนที่ย้ายมาร่วมทีมใหม่ ๆ
ชอว์ โดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องคุณสมบัติของการเป็นฟูลแบ็คที่ดีเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับบรรดาตำนานรุ่นพี่และรุ่นพ่ออย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ปาทริซ เอวรา, แกรี เนวิลล์ และ เดนิส เออร์วิน ซึ่งแต่ละคนนั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำหน้าที่ได้ดีก็คือการเล่นได้ทั้งเกมรุกและรับ
แต่กองหลังชาวอังกฤษกลับไปไม่สุดทางซักเรื่อง
บวกกับเมื่อหันกลับมามองฟูลแบ็คที่เหลืออย่าง แบรนดอน วิลเลียมส์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า ก็ยิ่งตอกย้ำลงไปอีกว่าทั้งหมดที่เอ่ยชื่อมานั้นยังไม่ได้ครึ่งของตำนานเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ
การดึง อเล็กซ์ เตลเลส ซึ่งมีประสบการณ์ในการเล่นระดับ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นแชมป์กับ ปอร์โต้ มาแล้วมากมายหลายรายการจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า โซลชา ต้องการใครซักคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเกมรับด้านข้างแบบปัจจุบันทันด่วน
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนการเปรียบเทียบสถิติต่าง ๆ เมื่อฤดูกาลที่แล้วจึงน่าจะช่วยทำให้กระจ่างได้
เริ่มจากการมีส่วนร่วมกับประตู เตลเลส ทำผลงานกับยักษ์ใหญ่ของลีกโปรตุเกสได้อย่างโดดเด่นด้วยการยิงไป 13 ประตูและทำอีก 10 แอสซิสต์หรือมีส่วนร่วมถึง 23 ประตู กลับกันเมื่อเหลือบมามองที่ ลุค ชอว์ และ แบรนดอน วิลเลียมส์ 2 แบ็คซ้ายที่มีอยู่ในทีมจะพบว่า ทั้งคู่มีสถิติที่เลวร้ายสุด ๆ เพราะไม่มีใครสามารถทำแอสซิสต์ได้เลยทั้งฤดูกาลและมีเพียง วิลเลียมส์ เท่านั้นที่ยิงได้เพียงประตูเดียว!
อย่างไรก็ตาม 10 ประตูของแบ็คซ้ายคนใหม่นั้นมาจากลูกจุดโทษและแอสซิสต์ 7 จาก 10 ครั้งนั้นมาจากลูกตั้งเตะ ซึ่งก็สมกับที่เจ้าตัวให้นิยามตัวเองไว้ตอนที่ให้สัมภาษณ์ว่า เขาคือหนึ่งในเทพด้านเซ็ตพีซ
ในขณะที่การสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมฟูลแบ็คแซมบ้าทำได้ถึง 63 ครั้ง มากกว่ากองหลังวัย 25 ปีถึง 3 เท่า ในขณะที่ดาวรุ่ง ปีศาจแดง ทำได้เพียง 13 ครั้งจาก 17 นัดที่ได้รับโอกาสในการลงสนาม
ส่วนเรื่องการครอสบอลจากข้างสนามซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นในฟุตบอลยุคใหม่ สตาร์จาก ปอร์โต้ ทำได้ 125 ครั้งในขณะที่ ชอว์ และ วิลเลียมส์ ทำได้เพียง 39 และ 12 ครั้งตามลำดับ
ในส่วนของเกมรับ เตลเลส มีค่าเฉลี่ยในการการเข้าแท็คเกิ้ลสำเร็จอยู่ที่ 65.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 41 ครั้ง มากกว่า ชอว์ ที่แท็คเกิ้ล 36 ครั้งสำเร็จ 55.6 เปอร์เซ็นต์ แต่น้อยกว่า วิลเลียมส์ ที่ทำได้ถึง 71 เปอร์เซ็นต์ซึ่งมาจากการแท็คเกิ้ลเพียง 21 ครั้ง
นอกจากนั้นในการเข้าแย่งบอล ฟูลแบ็คคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังทำได้ดีกว่าโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.87 ครั้งต่อ 1 เกม ทางด้าน 2 แบ็คซ้ายทั้ง ชอว์ และ วิลเลียมส์ ทำได้ 1.21 ครั้งและ 1.43 ครั้ง ต่อเกมเท่านั้น
เมื่อมองภาพรวมจะเห็นว่า อเล็กซ์ เตลเลส เป็นฟูลแบ็คเล่นได้ดีทั้งเกมรุกและรับ และตอบโจทย์ของ โอเล กุนนาร์ ดซลชา ได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการย้ายจากโปรตุเกสมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จากนี้ไปจึงเป็นเรื่องของเวลาและการโชว์ฟอร์มของเจ้าตัวเองที่จะทำให้เห็นว่าการซื้อครั้งนี้คือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดจริง ๆ
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด