วิกฤตทั้งใน และนอกสนามของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ - OPINION
โดย Navapun Munarsa
การพ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบขาดลอย 6-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นความปราชัยครั้งใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ นับตั้งแต่พวกเขาบุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มถึง 6-0 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปี 2013
แดเนียล เลวี ประธานสโมสร สเปอร์ส กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจาก พลพรรค “ไก่เดือยทอง” โชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง โดน นิวคาสเซิล ยิงไป 5 ประตู ในเวลาเพียง 21 นาที ซึ่งหลายคนมองว่า หายนะของทีมดังแห่งกรุงลอนดอนเกิดขึ้นตั้งแต่ตัดสินใจปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ออกจากตำแหน่งกุนซือเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019
ในเวลานี้ แฟนบอล สเปอร์ส กำลังโมโหอย่างหนักกับสถานการณ์ทั้งใน และนอกสนามของทีม โดยมีบางส่วนเรียกร้องให้ปลด คริสเตียน สเตลลินี เทรนเนอร์ขัดตาทัพออกจากตำแหน่ง และให้แต่งตั้ง ไรอัน เมสัน อดีตนักเตะของทีม และเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชทำหน้าที่ไปจนจบฤดูกาล ซึ่งล่าสุด เมสัน ก็เข้าขยับมาคุมทีมแทน สเตลลินี เรียบร้อยแล้ว
ตามทฤษฎี สเปอร์ส ยังมีโอกาสคว้าท็อปโฟร์ได้ แต่เมื่อมองถึงการที่พวกเขาแข่งมากกว่า นิวคาสเซิล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมในอันดับ 3 และ 4 แถมยังมีแต้มน้อยกว่า 6 คะแนน กับอีกแค่ 8 เกมสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องยากอย่างมาก
สเปอร์ส กำลังเป็นทีมที่มีปัญหามากมายทั้งใน และนอกสนาม โดยประเด็นสำคัญคือ เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เลวี ขาดคนปรึกษาสำคัญไป เนื่องจาก ฟาบิโอ ปาราติชี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล
ปาราติชี ถูกตรวจพบว่า มีส่วนร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎการเงินที่สโมสรเก่าอย่าง ยูเวนตุส ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) สั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลในแดนมะกะโรนีเป็นเวลา 30 เดือน นอกจากนี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ก็ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่ ปาราติชี จะลาออกเพียงไม่กี่วัน อันโตนิโอ คอนเต้ ก็โดนปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ส่งผลให้ สเปอร์ส ขาดหัวเรือใหญ่ในการทำงานไปถึง 2 คน และ เลวี ก็ไม่มีคนที่รู้เรื่องฟุตบอลอย่างแท้จริงคอยให้คำแนะนำ
ในอดีตที่ผ่านมา เลวี เคยแต่งตั้งกุนซือหลายรายที่ทำให้ สเปอร์ส กลายเป็นทีมที่น่าตื่นเต้น อาทิ มาร์ติน โยล, แฮร์รี เรดแนปป์ และ โปเช็ตติโน แต่ในยุคต่อมาที่เป็น โชเซ่ มูรินโญ่, นูโน เอสพิริโต ซานโต และล่าสุด คอนเต้ นั้น หลายคนตั้งคำถามว่า เขาคิดอะไรอยู่กันแน่
จากทีมที่เคยเล่นฟุตบอลด้วยความสนุกเร้าใจ สเปอร์ส ต้องกลายมาเป็นทีมที่เน้นตั้งรับ และโต้กลับ ซึ่งปัจจุบัน “ไก่เดือยทอง” ก็กลายเป็นทีมที่ไม่มีเอกลักษณ์ในการเล่นเหมือนที่แฟนบอลเมืองผู้ดีคุ้นเคยกันอีกแล้ว
เลวี ต้องการให้ สเปอร์ส กลับมาเล่นเกมรุกอีกครั้ง โดยบรรดากุนซืออย่าง ยูเลียน นาเกลส์มันน์, โปเช็ตติโน่, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส, หลุยส์ เอ็นริเก้, ปาโบล อโมริม และ โรแบร์โต เดอ แซร์บี้ ต่างก็ตกเป็นข่าวพัวพันแทบทั้งหมด
ขณะเดียวกัน เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ทุ่มเงินไปกว่า 150 ล้านปอนด์ คว้านักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม แต่ก็ยังไม่มีใครโชว์ฟอร์มได้อย่าสม่ำเสมอเลยแม้แต่รายเดียวไม่ว่าจะเป็น ริชาร์ลิสัน, คริสเตียน โรเมโร และ อีฟ บิสซูม่า
นอกจากนี้ ประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ อนาตตของ แฮร์รี เคน หัวหอกกัปตันทีม ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในปี 2024 และตอนนี้ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรอาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา เยอรมัน
เมื่อมองไปแล้วเห็นได้ชัดว่า สเปอร์ส กำลังเผชิญวิกฤตทั้งใน และนอกสนามอย่างแท้จริง โดยซัมเมอร์นี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญของ เลวี ว่า จะทำให้สโมสรของตัวเองกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้หรือไม่