7 ตัวเต็งดาวซัลโว “รองเท้าทองคำ” ศึก ยูโร 2020 - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโร 2020 เริ่มเปิดฉากไปแล้ว และเราก็ได้เริ่มเห็นฟอร์มของทีมเต็งแชมป์ต่าง ๆ กันไปพอสมควร แต่อีกหนึ่งรางวัลที่แฟนบอลให้ความสนใจคือรางวัล “รองเท้าทองคำ”หรือดาวซัลโวสูงสุดของรายการ
ยูโร 2016 ที่ ฝรั่งเศส เป็น อ็องตวน กรีซมันน์ ที่คว้ารางวัลนี้ไปครองด้วยการยิง 6 ประตู ในขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ยิงได้ 3 ประตูติดต่อกัน ใน 3 ครั้งหลังสุด ส่วนสถิติคงกระพันของ มิเชล พลาตินี ที่ทำไว้ 9 ประตู ยังไม่มีใครทำลายลงได้ ซึ่งน่าสนใจว่าปีนี้จะมีดาวเตะคนใดที่จะก้าวขึ้นมาคว้ารางวัลนี้ไปครอง
และนี่คือ 7 ตัวเต็งที่จะคว้ารางวัล “รองเท้าทองคำ” ในศึก ยูโร 2020
1. คริสเตียโน โรนัลโด้ - โปรตุเกส - สถิติทีมชาติ 173 นัด 103 ประตู
ในวัย 36 ปีนอกจากจะครองสถิติยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาตร์ทีมชาติโปรตุเกสแล้ว โรนัลโด้ ยังเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูในทีมชาติได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกเป็นรองเพียง อาลี เดอี ดาวยิงทีมชาติอิหร่านที่ยิงไป 109 ประตูเท่านั้น
นั่นหมายความว่าเหลืออีกเพียง 6 ประตูก็จะทำให้ดาวยิง ยูเวนตุส ก้าวขึ้นไปทาบสถิติโลกและเชื่อได้เลยว่าแรงจูงใจเช่นนี้จะทำให้เขามุ่งมั่นที่จะระเบิดตาข่ายคู่ต่อสู้และพา โปรตุเกส เป็นแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกันให้ได้
2. แฮร์รี เคน - อังกฤษ - สถิติทีมชาติ 54 นัด 34 ประตู
แม้ว่าจะมีข่าวย้ายทีมเป็นระยะ แต่กับรายการระดับเมเจอร์อย่าง ยูโร 2020 นี้ เคน น่าจะมุ่งมั่นทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อพาทีมชาติอังกฤษของเขาไปให้ไกลที่สุดให้ได้
การลงสนามในเกมแรกที่เอาชนะ โครเอเชีย ไปได้ 1-0 แม้ว่า เคน จะยังยิงประตูไม่ได้ก็ตาม แต่ด้วยความมั่นใจจากการเพิ่งคว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก มาหมาด ๆ และการพิสูจน์ตัวเองด้วยการเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018 มาแล้ว รวมทั้งการมีเพื่อนร่วมทีมอย่าง เจดอน ซานโช, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเด้น ที่คอยสนับสนุนในแดนหน้า การจะขึ้นแท่นดาวซัลโวฟุตบอลยุโรปก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม
3. คิลิยัน เอ็มบัปเป้ - ฝรั่งเศส - สถิติทีมชาติ 47 นัด 17 ประตู
อดีตกองหน้าดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อาจจะไม่ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อซีซันที่แล้ว ทั้งใน ลีกเอิง และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก แต่พัฒนาการในการยิงประตูของเขาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งด้วยการทำ 42 ประตูจากการลงสนาม 47 นัด
ด้วยการที่ ฝรั่งเศส เป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ในครั้งนี้ เมื่อมองจากประสบการณ์และองค์ประกอบภายในทีม ทำให้ เอ็มบัปเป้ จะได้รับโอกาสในการลงสนามมากขึ้น และนั่นหมายความว่าโอกาสในการทำประตูของเขาจะมากขึ้นด้วย และคงไม่ต้องแปลกใจหากว่าเราจะเห็นกองหน้าวัย 22 ปีคว้ารางวัลดาวซัลโวในรายการนี้
4. โรเมลู ลูกากู - เบลเยียม - สถิติทีมชาติ 92 นัด 61 ประตู
เป็นดาวยิงอีกหนึ่งรายที่มีดีกรียิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติ เช่นเดียวกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ เพียงแต่ว่า ลูกากู นั้นประสบความสำเร็จกับการช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา พร้อมทั้งยิงไป 24 ประตูเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
“ลูลู่” ประเดิมในรายการนี้ไปแล้ว 2 ประตูจากเกมที่เอาชนะ รัสเซีย 3-0 โดยเจ้าตัวถือเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดของทีม ปีศาจแดงแห่งยุโรป ในยุค “โกลเด้นเจเนอเรชัน” ซึ่งมีความใกล้เคียงที่สุดที่จะประสบความสำเร็จในรายการระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ และการได้ลงเล่นเคียงข้าง เควิน เดอ บรอยน์ และ เอเด็น อาซาร์ จะทำให้เขาระเบิดตาข่ายได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน
5. อัลบาโร โมราต้า - สเปน - สถิติทีมชาติ 39 นัด 19 ประตู
เมื่อดูจากดีกรีและสถิติการทำประตูในทีมชาติแล้ว โมราต้า อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดูด้อยที่สุดในบรรดากองหน้าของทีมเต็งแชมป์ แต่ก็จะไปดูแคลนไม่ได้เพราะนี่คือ “สเปน” ทีมที่พร้อมจะเป็นแชมป์โดยไม่ต้องสนใจการมีกองหน้าระดับพระกาฬ
อย่างไรก็ตามด้วยองค์ประกอบที่ครบครัน เพื่อนร่วมทีมที่คอยสร้างสรรค์เกมอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้มองข้ามดาวยิง ยูเวนตุส ไปไม่ได้ เผลอ ๆ การไม่ได้รับความคาดหวังอาจทำให้เจ้าตัวยิงประตูเป็นกอบเป็นกำก็เป็นได้
6. เมมฟิส เดปาย - เนเธอร์แลนด์ - สถิติทีมชาติ 64 นัด 25 ประตู
เดปาย ผันตัวจากการเป็นตัวริมเส้นมาเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าเมื่อย้ายไปอยู่กับ ลียง และนั่นทำให้เขากลับมาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลได้อีกครั้งหลังจากที่ล้มเหลวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อหลายปีก่อน
ด้วยสถิติการยิงประตูในลีกที่ 22 ลูกและยิง 4 ประตูกับการลงเล่นทีมชาติ 4 นัด ทำให้ดาวยิงวัย 28 ปีกลายเป็นความหวังของทีม อัศวินสีส้ม ในรายการนี้ และมีสิทธิที่จะทำผลงานส่วนตัวได้ดีเช่นกัน
7. ชิโร อิมโมบิเล - อิตาลี - สถิติทีมชาติ 46 นัด 13 ประตู
อิมโมบิเล กลับมาแจ้งเกิดในทีมชาติได้อีกครั้งในวัย 31 ปีจากสถิติการยิงประตูให้ ลาซิโอ ใน 2 ซีซันหลังสุด โดยทำได้ 64 ประตูจากการลงสนาม 81 นัดในทุกรายการ และประเดิมประตูแรกให้ทีม อัซซูรี ในศึก ยูโร ไปแล้ว 1 เม็ดจากเกมที่ถล่ม ตุรกี ไป 3-0 ในนัดเปิดสนาม
ด้วยความที่กำลังพีคและอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการลงเล่นทีมชาติ น่าจะเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ดาวยิง อินทรีฟ้าขาว พยายามเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา อีกทั้งฟอร์มโดยรวมของ อิตาลี ภายใต้การนำของ โรแบร์โต้ มันชินี ก็ถือว่าอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม ทำให้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในรายการนี้ได้เหมือนกัน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด