1 แต้มจากแอนฟิลด์ ที่นำมาซึ่ง "5 เรื่องเสียว" กับโอกาสพลาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซนอล - OPINION

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ARSENAL
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ARSENAL / PAUL ELLIS/GettyImages
facebooktwitterreddit

8 เกมสุดท้ายของ อาร์เซน่อล กับ 9 นัดที่ยังเหลือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงตรงนี้ ชัดเจนว่ามันคือเรื่องของ "ม้าสองตัว" ว่าใครจะเร่งสปีดตีนปลายได้ดีกว่ากัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากผลเสมอแบบน่าแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ ก็ทำให้ อาร์เซน่อล เกิดอาการเสียวไส้ขึ้นมาไม่น้อยว่าจะไปถึงฝั่งฝันที่รอคอยมาเกือบ 2 ทศวรรษ ได้รึเปล่า โอกาสนี้ ไปดูกันว่าความน่าหวาดหวั่นเหล่านั้นประกอบด้วยเรื่องอะไรและแบบไหนกันบ้าง...

เสียวจะสะดุดยาว

แม้อาจดูเป็นการ "ตีตนไปก่อนไข้" อยู่สักหน่อย เมื่อใช่ว่าผลเสมอ 2-2 ที่แอนฟิลด์ จะเป็นตัวฉุดรั้งทุกอย่างเอาไว้ เพราะอย่างเกมที่หลุดเสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 ที่เซนต์ แมรี่ส์ ช่วงเดือน ต.ค. ปีก่อน ให้หลังมาแค่สัปดาห์เดียว อาร์เซน่อล ก็ระเบิดฟอร์มจัดจ้านได้อีกครั้งด้วยการเปิดบ้านกราดยิง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึง 5-0 รวมเป็นระยะยิงยาวเข้าวิน 5 เกมซ้อน

อย่างไรก็ตาม ภาพของเมื่อเดือน ก.พ. ก็ไม่ได้หนีไปไหน กับตอนที่สะดุดล้มแล้วก็ลุกขึ้นได้ลำบากอยู่สักหน่อย

แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1

เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1

แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3

ผลฟุบๆ 3 เกมติดครั้งนั้นทำให้ตอนกลางเดือน ก.พ. เด็กๆ ของ มิเกล อาร์เตต้า ถูกทาง แมนฯ ซิตี้ บีบแต้มเข้าใกล้ชนิดหายใจรดต้นคอ เหลือช่องห่างแค่ 2 คะแนนเท่านั้น

ยังดีที่ว่าต่อมา แมนฯ ซิตี้ ก็ดันทำได้แค่ออกไปเสมอ ฟอเรสต์ 1-1 (18 ก.พ.) และ อาร์เซน่อล ไม่พลาดเพิ่มอีก ทำให้ช่องห่างขยับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จนมาเป็น 6 แต้มในปัจจุบัน

ดังนั้นหมายความว่า เกมถัดไปที่ อาร์เซน่อล จะบุกเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อาทิตย์ 16 เม.ย. สำคัญมากถึงมากที่สุด

เพราะเกิดถ้าพลาดพลั้งเสียท่าขึ้นมา (แค่ไม่ชนะก็นับว่าพลาดแล้ว) อาร์เซน่อล อาจออกอาการ "ขาสั่น" เสียวสันหลังเอาได้ง่ายๆ

FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEEDS
FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEEDS / GLYN KIRK/GettyImages

เสียวกับปัญหาหลังบ้าน

ในภาพรวม อาร์เซน่อล ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่ "หลังเหนียว" ที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ จากการเสียไป 29 ประตู ที่น้อยกว่านี้มีแค่ นิวคาสเซิ่ล (21) กับ แมนฯ ซิตี้ (27)

แต่หากจะเจาะภาพแคบลงแล้ว จะเห็นว่า หลังบ้านปืนโตกำลังแกว่งไกวอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อ 5 นัดหลังสุด อาร์เซน่อล ทำคลีนชีตได้แค่ 1 เกมถ้วน

ชนะ บอร์นมัธ 3-2

ชนะ ฟูแล่ม 3-0

ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1

ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1

เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

5 นัดหลังเหล่านี้ ปืนใหญ่เสียไปรวม 6 ประตู ที่แม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็พูดได้ว่าพวกเขา "โดนยิงแทบทุกนัด" โดยเฉพาะล่าสุดที่แอนฟิลด์ ที่ถ้าไม่ได้ อารอน แรมส์เดล ช่วยไว้ ใครจะกล้ารับประกันว่า อาร์เซน่อล จะไม่แพ้กลับออกมา

ที่จริง อาการช้ำรั่วเริ่มแสดงให้เห็นตั้งแต่เกมกับ บอร์นมัธ แล้ว ที่เสียประตูเร็วตั้งแต่ไม่กี่สิบวินาทีแรก (ฟิลิป บิลลิ่ง) ก่อนโดนเม็ดสองกลางครึ่งหลัง และเกมนั้นก็ถือว่า อาร์เซน่อล มีโชคให้มาได้เฮเต็มเสียงจาก รีสส์ เนลสัน ตอนที่ปาเข้าไป 90+7 แล้ว

ส่วนหลังจากทำคลีนชีตได้ที่ คราเวน ค็อตเทจ แล้ว อาร์เซน่อล ลงเตะ ยูโรป้า ลีก เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (และตกรอบ) โดยต้องสังเวยไปด้วยอาการบาดเจ็บของเซนเตอร์แบ็กคีย์แมน วิลเลี่ยม ซาลิบา

ปราการหลังฝรั่งเศส เจ็บแผ่นหลังในเกมนั้น และจนวันนี้ยังคงไม่ได้กลับมาเล่น ซึ่งในจำนวน 3 นัดที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสนาม คู่เซนเตอร์อย่าง กาเบรียล มากัลเญส - ร็อบ โฮลดิ้ง ก็ทำให้ทีมเสียประตูมาทุกนัด โดยเฉพาะเกมวานนี้ที่เจียนอยู่เจียนไปจะโดนเม็ด 3 เสียให้ได้

เวลานี้ ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า ซาลิบา จะฟิตพร้อมลงเล่นได้เมื่อไหร่

แต่ชัดเจนว่ายิ่งพักนานก็ยิ่งเป็นเรื่องน่าเสียวไส้ของ อาร์เซน่อล กับแผงหลังที่ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนตอนมี ซาลิบา อยู่เป็นแกน

William Saliba
Arsenal FC v Sporting CP: Round of 16 Leg Two - UEFA Europa League / Shaun Botterill/GettyImages

เสียวกับโปรแกรมโหด

คงต้องถือเป็นโชคดีในความโชคร้าย ว่าการไม่ได้ไปต่อใน ยูโรป้า ลีก (แพ้จุดโทษ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 3-5) และร่วง เอฟเอ คัพ ตั้งแต่รอบ 4 (แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1) ทำให้โปรแกรมช่วงโค้งสุดท้าย มีช่องให้ได้พักหายใจหายคออยู่พอสมควร ไม่ต้องลงเล่น อาทิตย์-พฤหัสฯ-อาทิตย์-พฤหัสฯ รัวๆ

แต่นั่นก็คือการพยายามมองใน "แง่ดี" เอาไว้ก่อน

เพราะจากข้อเท็จจริงที่เป็นสำหรับ 8 นัดสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล เหลือใน พรีเมียร์ลีก ปีนี้ คงบอกได้ว่า "ไม่ง่ายเลย" นะครับนะ

16/04 เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

21/04 เหย้า เซาแธมป์ตัน

26/04 เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้

29/04 เหย้า เชลซี

07/05 เยือน นิวคาสเซิ่ล

13/05 เหย้า ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบี้ยน

20/05 เยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

28/05 เหย้า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

มองจากตรงนี้ เกมที่พอมีการันตี 3 แต้มเต็มสำหรับ เดอะ กันเนอร์ส อาจแค่ 2-3 นัดเท่านั้น เช่นกับ เซาแธมป์ตัน, ฟอเรสต์ หรือ วูล์ฟส์

นอกนั้นจัดว่ามี "ความเสี่ยง" ทั้งหมด

โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนนี้ต่อต้นเดือนหน้า ที่ดาหน้ากันมาทั้ง แมนฯ ซิตี้, เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งล้วนแต่เป็น "คิวเสียว" เสี่ยงจะเสียแต้มให้เพียบ

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นัดชิงแชมป์" ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าทัพเรือซึ่ง แมนฯ ซิตี้ ผูกปีชนะปืนมา 6-7 ซีซั่นติดต่อกันเข้าไปแล้ว (ซีซั่นนี้ เรือก็ชนะ 1-0 ในเอฟเอ คัพ, หนสุดท้ายที่ปืนบุกชนะ โน่น ม.ค. 2015) หากว่ายังนำ 3 แต้มไปมอบให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และชาวคณะเรือใบ ซ้ำเก่าอยู่อีกล่ะก็......

Aymeric Laporte, Edward Nketiah
Manchester City v Arsenal: Emirates FA Cup Fourth Round / Visionhaus/GettyImages

เสียวกับความแรงของเรือ

นี่คือปัจจัยที่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถควบคุมได้อย่างแท้จริง -- ยกเว้นแค่ทริปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปฟาดฟันกันโดยตรง 26 เม.ย. นี้

ใช่ที่ซีซั่นนี้ แมนฯ ซิตี้ หลุดแพ้และเสมอเยอะอยู่สักหน่อย (อย่างละ 4) แต่ก็อย่างที่เราเห็นกันมากี่ปีต่อกี่ปีแล้วว่าเมื่อถึงเวลาที่ "ต้องเอา" เรือใบสีฟ้าก็ดู "พร้อมเสมอ" ที่จะเอาชนะแบบถึงไหนถึงกัน

และซีซั่นนี้ มันก็ดูจะเข้าข่ายนั้นแล้วด้วย

เพราะหลังจากเกมที่พลาดท่าแพ้ สเปอร์ส 0-1 ที่ลอนดอน เมื่อ 5 ก.พ. แล้ว ถึงตรงนี้ แมนฯ ซิตี้ เตะเกมลีก 8 นัดผ่านไป... ชนะ 7 เสมอ 1

อีกทั้งถ้าเทียบโปรแกรม 9 นัดสุดท้าย ก็น่าหวาดเสียวหัวใจแทน อาร์เซน่อล ไม่น้อยว่า แมนฯ ซิตี้ ดูจะมีคิวง่ายกว่ากันพอสมควรเลย

15/04 เหย้า เลสเตอร์ ซิตี้

26/04 เหย้า อาร์เซน่อล

30/04 เยือน ฟูแล่ม

03/05 เหย้า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

07/05 เหย้า ลีดส์ ยูไนเต็ด

13/05 เยือน เอฟเวอร์ตัน

20/05 เหย้า เชลซี

28/05 เยือน เบรนท์ฟอร์ด

(ยังหาคิวลงไม่ได้) เยือน ไบรท์ตัน

ชนะมาแล้ว 5 เกมซ้อน และใครจะรู้ ระยะเข้าเบรคครั้งนี้ของ แมนฯ ซิตี้ จะไปสะดุดลงที่ตรงไหน

Erling Haaland, Josep 'Pep' Guardiola
Manchester City v Fulham FC - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages

เสียวกับตัวเอง...ที่ไม่มีแชมป์มา 19 ปี

สุดท้ายท้ายสุด ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล เองในตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ว่าหลังจากการขึ้นบัลลังก์ไร้พ่าย 2003/04 แล้ว มันก็มีอีกหลายซีซั่นเลยที่ อาร์เซน่อล ได้ลุ้นแชมป์เต็มตัว

ลุ้นแชมป์เต็มตัว...แต่ก็ "แผ่วปลาย" จนไม่มีแชมป์ในท้ายที่สุด

ใกล้สุดคือ 2015/16 ซีซั่นประวัติศาสตร์ร้อยปีมีหนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ครั้งนั้น อาร์เซน่อล ก็เข้าข่ายลุ้นแชมป์ (โดยเฉพาะหลังจากสยบ เลสเตอร์ 2-1 กลางเดือน ก.พ.) แต่กลับหลุดเสมอถึง 5 จาก 10 เกมสุดท้าย จนจิ้งจอกสยามผงาดฟาดแชมป์แบบที่ไม่ต้องรอถึงเกมสุดท้ายด้วยซ้ำไป

หรือแม้แต่ซีซั่นก่อน ที่ทีมของ อาร์เตต้า ไม่ถึงกับลุ้นแชมป์แต่คั่วท็อปโฟร์ ปรากฏว่าหลุดพ่ายถึง 6 จาก 12 นัดสุดท้าย จนเข้าป้ายแค่ที่ 5 เท่านั้น

แน่นอนว่าปีนี้คือเรื่องต่างกรรมต่างวาระ และ อาร์เซน่อล ยกระดับตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นคนละทีมกับปีก่อนไปแล้ว

แต่ใครจะกล้าการันตีได้ว่า อาร์เซน่อล จะไม่ออกทรง "อีหรอบเดิม" อย่างที่เคยเป็น

เพราะไหนจะเสียวสะดุดยาว, เสียวกับปัญหาหลังบ้าน, เสียวกับโปรแกรมโหด, เสียวกับความแรงของเรือ และเสียวกับตัวเองที่ร้างแชมป์มานานแสนนาน

โค้งสุดท้ายเดือนเศษๆ ที่เหลือ ระหว่าง "แชมป์" กับ "ช้ำ" มันช่างน่าหวาดเสียวจนมวนท้องมวนไส้ไปหมดแล้ววววว

FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEEDS
FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEEDS / GLYN KIRK/GettyImages