[OPINION] ของดีบนม้านั่ง ! 5 นักเตะตัวสำรองที่ มีดีพอจะเป็นตัวจริงให้อีกหลาย ๆ ทีม
โดย กนกเทพ คำปลิว
ด้วยความที่เกมฟุตบอลในยุคปัจจุบัน มีโปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างเยอะมากในแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ ๆ ที่ต้องลงสนามทำศึกต่อเนื่องติดต่อกันหลายรายการ ทำให้คำว่า "ขุมกำลังสำรอง" เป็นเรื่องสำคัญที่กุนซือทุกคนอยากมีพร้อมมากที่สุด
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำกันได้ง่าย ๆ เพราะคงไม่มีนักเตะเก่ง ๆ คนไหนอยากนั่งรอโอกาสอยู่ข้างสนามมากกว่าออกสตาร์ททุกสัปดาห์ ฉะนั้นจึงมีแค่ไม่กี่ทีมบนโลกที่ผู้เล่นสำรองเก่งเทียบเท่า 11 ตัวจริง (หรือบางครั้งก็เก่งกว่าด้วยซ้ำ)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเรากำลังจะพูดถึง 5 สุดยอดนักเตะระดับท็อปของโลกที่ทนค้าแข้งอยู่กับต้นสังกัดของตัวเองในฐานะแข้งสำรองแบบจริงจัง ส่วนจะมีใครบ้างนั้น เลื่อนลงไปชมกันได้เลย
1. ฆวน มาต้า : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กลางรุกอัจฉริยะชาวสเปนคนนี้ ถูกลดบทบาทลงไปเป็นตัวสำรองระดับคุณภาพของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาพักใหญ่แล้ว ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเขาอายุเยอะ แต่หากว่ากันด้วยเรื่องความสามารถก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครในทัพปีศาจแดงเลย
ช่วงปีแรก ๆ ที่ มาต้า ทำงานร่วมกับ เดวิด มอยส์ และ หลุยส์ ฟาน กัล เขาคือหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่มักจะช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะได้บ่อยครั้ง แต่น่าเสียดายที่ความสำคัญกลับน้อยลงไปเรื่อย ๆ แบบสวนทางกับฟอร์มการเล่นจนกลายเป็นตัวสำรองถาวรในยุค โฆเซ มูรินโญ
อย่างไรก็ตาม มาต้า ที่ปัจจุบันอายุ 32 ปี ยอมรับสถานการณ์ของตัวเองและพร้อมใช้ทักษะ+ประสบการณ์ช่วยสนับสนุนนักเตะรุ่นน้องในทีมด้วยความเต็มใจ แต่เราก็พอได้เห็นเขาถูก โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ส่งลงสนามบ้าง แม้จะไม่มาก แต่ก็พอให้หายคิดถึงบ้างเหมือนกัน
2. เมซุต โอซิล : อาร์เซนอล
เมซุต โอซิล คือนักฟุตบอลที่ถูกยอมรับว่าเป็น "ระดับโลก" มานานมากแล้ว เพราะเคยสร้างผลงานอันลือลั่นพาทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เมื่อปี 2014 ก่อนจะยกระดับเป็นเทพใน เรอัล มาดริด จนกระทั่งลงเอยกับ อาร์เซนอล จนถึงปัจจุบัน
ด้วยความที่เจ้าตัวได้รับค่าเหนื่อยสูงราว 350,000 ปอนด์/สัปดาห์ ทำให้คอลูกหนังทั้งโลกอยากเห็นเขาถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่มันแทบไม่เกิดขึ้นเลยตลอด 2-3 ปีหลังสุด
ตอนที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามารับงานกุนซือใหม่ ๆ ทุกคนลงความเห็นว่าสถานการณ์ของ "เทพปรือ" น่าจะดีขึ้น แต่สุดท้ายก็จบลงเหมือนตอนปลายยุค อาร์เซน เวนเกอร์ และยุค อูไน เอเมรี นั่นแสดงว่าเขาต้องมีปัญหาอะไรบ้างอย่างจริง แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าขออยู่ใช้ชีวิตในถิ่นเอมิเรตส์จนหมดสัญญาก็ตาม
3. ฮาเมส โรดริเกวซ : เรอัล มาดริด
ฮาเมส โรดริเกวซ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่แจ้งเกิดได้แบบเขย่าวงการลูกหนังจากศึกฟุตบอลโลกปี 2014 เพราะถึงแม้ทีมชาติโคลอมเบียจะตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแต่ฟอร์มของเจ้าตัวโดดเด่นจนคว้ารางวัลจากทัวร์นาเมนท์ไปครองมากมาย จน เรอัล มาดริด ต้องรีบซื้อตัวไปอยู่ด้วยทันที
เช่นเดียวกับนักเตะดังคนอื่น ๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะปีแรกในฐานะแข้งราชันชุดขาว เจ้าหนูมหัศจรรย์แสดงให้โลกเห็นถึงฟอร์มอันน่าทึ่งอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลงจนกลายเป็นตัวสำรองที่โค้ชไม่ต้องการ และทางรอดสุดท้ายของเขาก็คือย้ายออกไปเล่นให้ทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัว
ฤดูกาลล่าสุด ฮาเมส ดูมีความหวังมากเพราะปีก่อนเล่นดีสุด ๆ กับ บาเยิร์น มิวนิค แถมกุนซือ ซีเนอดีน ซีดาน ก็พูดตลอดว่ายอมรับในฝีเท้าและชื่นชอบเด็กคนนี้จริง แต่สุดท้ายก็ส่งลงเล่นเพียงแค่ 8 นัดในลีก ซึ่งถือเป็นซีซั่นแห่งฝันร้ายอย่างแท้จริง
4. คริสเตียน อีริคเซน : อินเตอร์ มิลาน
หลังจากที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 2019 อีริคเซน ก็เริ่มแสดงอาการอยากย้ายเพื่อไปไล่ล่าความสำเร็จกับทีมที่ใหญ่กว่า โดยมี เรอัล มาดริด ที่ถูกลือร่วมด้วยอย่างจริงจัง
สุดท้ายความฝันของ อีริคเซน ก็ถูกดับลงดังฟู่จนต้องฝืนลงเล่นให้ทัพไก่เดือยทองต่อไปอีกราวครึ่งปี แม้จะผิดแผนนิดหน่อยที่ได้ย้ายไปอยู่ อินเตอร์ มิลาน ในลีกอิตาลีแทน แต่ตอนนั้นเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่ามีความสุขกับการตัดสินใจครั้งนี้เหลือเกิน
ช่วงแรก ๆ ในถิ่นงูใหญ่ สตาร์ชาวเดนมาร์ก ก็ดูเหมือนว่าจะทำผลงานได้ดี แต่ไป ๆ มา ๆ ฟอร์มเริ่มแผ่วจนโดนกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ จับดองอยู่ข้างสนามบ่อยขึ้น ล่าสุด อีริคเซน เริ่มไม่แฮปปี้กับชีวิตอีกแล้วและอาจย้ายทีมอีกครั้งก่อนตลาดปิดช่วงต้นเดือนตุลาคม
5. แกเร็ธ เบล : เรอัล มาดริด
สำหรับปีกมาดเห้งเจียของ เรอัล มาดริด คนนี้ความจริงไม่ค่อยอยากพูดถึง เพราะทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์ของเขาเป็นอย่างไร แต่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้เพราะมันดันตรงกับหัวข้อของเรามากกว่าใครเพื่อน
เบล ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เบอร์นาบิว ตั้งแต่ปี 2013 ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลก ณ ตอนนั้น (91 ล้านยูโร) ซึงเจ้าตัวก็ไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังเลย เพราะสามารถโชว์ฟอร์มโดดเด่นออกมาได้ต่อเนื่อง แถมยังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ ได้หลายครั้งอีกด้วย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ กลับมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าอดีตแบ็คซ้ายไก่เดือยทองไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตใน มาดริด เพราะพูดภาษาสเปนไม่ได้ อาหารการกินก็ไม่ชอบ ไม่เข้าสังคม ไม่เอาเพื่อน-เอาฝูง ฯลฯ จนทำให้โดนดร็อปเป็นตัวสำรองถาวร
โดยเฉพาะในยุคกุนซือ ซีเนอดีน ซีดาน เขาแทบไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเลย แถมยังเอาใจออกห่างจากการเล่นฟุตบอลไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ฆ่าเวลาอยู่บ่อย ๆ จนตำนาน สเปอร์ส หลายคนเรียกร้องให้กลับมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้งโดยด่วน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด