[OPINION] บทสรุปที่ยังไม่มีบทสรุปของ 5 บิ๊กลีกยุโรปท่ามกลางวิกฤติไวรัสโควิด-19
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ต้องยอมรับกันว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสโควิด-19 นี้ส่งผลเสียหายอย่างหนักหน่วงต่อวงการฟุตบอลเกือบทั้งโลก โดยเฉพาะใน 5 ลีกใหญ่ในยุโรปที่ถือได้ว่าเป็นลีกยอดนิยมและทำรายได้มหาศาล
5 ลีกใหญ่ที่เรามักพูดถึงกันนั้นก็คือ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีก้า สเปน, กัลโช เซเรีย อา อิตาลี, บุนเดสลีกา เยอรมนี และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส
4 ลีกแรกกำหลังหาหนทางที่ดีที่สุดเพื่อกลับมาแข่งต่อให้จบ โดยมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าจะกลับมาได้ภายในเดือนนั้น เดือนนี้ ซึ่งทายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังไม่สามารถกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนได้ซักที
คงมีแต่ ลีกเอิง ที่ต้องทำตามนโยบายของรัฐบาลฝรั่งเศสที่สั่งห้ามมีการแข่งขันกีฬาใด ๆ จนถึงเดือนกันยายน ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจยกเลิกโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือทั้งหมด และในเวลาต่อมาก็ตัดสินใจมอบแชมป์ให้กับ ปารีส แซง-แชร์กแมง พร้อมกับจัดสรรโควต้ายุโรป และมีทีมตกชั้นเลื่อนชั้นเป็นที่เรียบร้อย
แม้ว่าจะมีเสียงไม่พอใจจากทีมที่เสียประโยชน์บ้าง แต่นั่นก็เป็นปัญหาที่บรรดาบิ๊ก ๆ ในลีกต้องไปแก้ไขกันต่อไป
ส่วนที่ลีกที่เหลือนั้นจะดำเนินการอย่างไร และพวกเขามีแผนอะไร อยากจะเตะต่อหรือตัดจบหรือไม่ เราจะมาสำรวจกันต่อจากนี้
พรีเมียร์ลีก
การแข่งขันฟุตบอลอาชีพทุกลีกภายในอังกฤษนั้นถูกประกาศพักการแข่งขันอย่างไม่มีกำหนดเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าทำให้การคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีของ ลิเวอร์พูล ต้องหยุดชะงักไปด้วย
หงส์แดง ยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 25 คะแนนจากการลงเล่น 29 นัด ทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 ที่ลงเล่นไป 28 นัดอยู่ถึง 25 คะแนน
มีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันของ 20 ทีมใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 2 หน และครั้งที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยทุกทีมยังยืนกรานว่าจะต้องแข่งให้จบให้ได้
อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัดว่าจะกลับมาลงเล่นกันได้เมื่อใด แต่จากข่าวจากหลายสำนักนั้นได้คาดการณ์คร่าว ๆ ว่าจะมีการเริ่มกลับมาซ้อมกันในวันที่ 18 พฤษภาคม เพื่อลงเล่นในช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยจะลงเล่นในสนามปิด 10 สนามและมีการกำหนดมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการติดเชื้อสำหรับนักเตะและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทุกคน
ลาลีก้า
ทาง ลาลีก้า นั้นสั่งให้หยุดทำการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังใกล้จะกลับมาลงซ้อมกันอีกครั้ง
ในสเปนนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเลยจุดวิกฤติไปแล้ว โดย เปโดร ซานเซส นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า นักเตะอาจจะสามารถกลับมาเริ่มซ้อมเดี่ยวได้ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีการกำหนดว่าจะกลับมาเริ่มการแข่งขันได้อีกเมื่อไหร่ โดยตอนนี้สถานการณ์บนตารางนั้น บาร์เซโลนา ยังนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมีคะแนนห่างจาก เรอัล มาดริด 2 คะแนน ในขณะที่ โค้ชของ เซบียา อย่าง ฆูเลน โลเปเตกี ได้ออกมากล่าวว่าผู้เล่นของเขานั้นจำเป็นจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนจะกลับมาลงเล่นอีกครั้งอย่างน้อย 5 สัปดาห์
บุนเดสลีกา
ทางเยอรมนีนั้นทีแรกดูเหมือนจะพร้อมกลับมาลงเตะก่อนเพื่อนหลังจากที่ประกาศพักการแข่งไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคมวันเดียวกับ พรีเมียร์ลีก
มีข่าวออกมาว่าพวกเขาเตรียมกลับลงเตะกันอีกครั้งในวันที่ 9 พฤษภาคม เพราะสโมสรต่าง ๆ ได้มีการเรียกนักเตะกลับมาซ้อมภายใต้มาตรการที่เคร่งครัดกันตั้งเดือนเมษายนแล้ว
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลของเยอรมนี ซึ่งเลือกที่จะเลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 6 พฤษภาคม จึงเท่ากับว่าความหวังที่จะได้กลับมาลงเล่นในวันที่ 9 นั้นอาจจะไม่สามารถทำได้
สำหรับสถานการณ์ในตารางนั้น บาเยิร์น มิวนิค ยังนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมีแต้มห่างจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ 4 คะแนน
กัลโช เซเรีย อา
ลีกอิตาลีนั้นพักการแข่งขันก่อนใครเพื่อนตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม โดยพวกเขามีการประชุมกันทั้ง 20 ทีมเมื่อวันพฤหัสบดีทีผ่านมาและเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องกลับมาลงเล่นให้ครบตามโปรแกรม
ทุกสโมสรนั้นเตรียมที่จะกลับมาลงซ้อมกันอีกครั้งในวันที่ 18 พฤษภาคม 1 หลังสิ้นสุดระยะเวลาที่รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์ แต่ยังไม่มีการกหนดแนชัดว่าจะทำการแข่งขันเมื่อใด
สำหรับทีมนำเป็นจ่าฝูงในตอนนี้ได้แก่ ยูเวนตุส ซึ่งมีแต้มมากว่า ลาซิโอ เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
ลีกเอิง
อย่างที่ทราบกันดีว่า ลีกเอิง นั้นได้ยกเลิกการแข่งขันในเกมที่เหลือทั้งหมดไปแล้วตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหมายความว่าพวกเขาตัดจบเพียงแค่ที่ทำการแข่งขันไปก่อนก่อนหน้านี้เท่านั้น
LFP หรือสมาคมลีกอาชีพของฝรั่งเศสได้มีการประชุมกันเมื่อวันพฤหัสบดีและประกาศให้ ปารีส แซง-แชร์กแมง ครองแชมป์ในฤดูกาลนี้ด้วยการใช้วิธีหาค่าเฉลี่ยเฉพาะเกมที่มีการแข่งขันกันไปแล้ว
สำหรับทีมที่ได้ไปโควต้า ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก คือ โอลิมปิค มาร์กเซย และ แรนส์ ส่วนทีมที่ตกชั้นได้แก่ ตูลูส และ อาเมียง โดยมีทีมที่ขึ้นชั้นมาแทนคือ ลอริยองต์ และ ล็องส์ ส่วน นีมส์ นั้นรอเล่นเพลย์ออฟเพื่อหาทีมตกชั้นต่อไป
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด