[OPINION] เปิด 3 สถิติที่ทำให้ ติโม แวร์เนอร์ คู่ควรกับการเป็นกองหน้าคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
แม้มีข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่า ลิเวอร์พูล กำลังให้ความสนใจและต้องการตัว ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาเติมพลังในเกมรุกของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์ แต่ยังไม่ค่อยมีใครตั้งคำถามว่าถ้าซื้อมาแล้วจะเอาไปวางไว้ตรงไหนในแผงกองหน้า
เป็นที่ทราบกันดีว่า 3 ประสานของ หงส์แดง นั้นถือเป็นแผงกองหน้าที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ในช่วง 2 ปีหลังมานี้ ทั้ง ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่างได้รับการยอมรับว่านี่คือความลงตัวในแดนหน้ารอบหลาย 10 ปีของทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์
ในเมื่อมันลงตัวขนาดนี้ก็เลยมีคำถามย้อนกลับมาว่าแล้วจะเอา แวร์เนอร์ มาทำไม
ว่าแล้วเราเลยลองเอาสถิติเฉพาะในฤดูกาลที่ผ่านมากางดูกันว่า กองหน้าทีมชาติเยอรมนีรายนี้มีดีอะไร เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงต้องกระชากตัวมาเสริมเกมรุกให้ ลิเวอร์พูล
วิญญาณเพชฌฆาต
ในซีซันนี้ แวร์เนอร์ ยิงประตูใน บุนเดสลีกา ไปทั้งหมด 21 ลูกจากการลงสนาม 25 เกมโดยมีจุดโทษ 3 ประตู พาทีมรั้งอันดับ 3 ของตารางอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่าเจ้าตัวถือเป็น ‘เดอะแบก’ ของ ไลป์ซิก เลยก็ว่าได้
หันมาดูสถิติการยิงประตูของ 3 กองหน้า ลิเวอร์พูล ผ่านมา 29 เกม ไม่มีใครยิงได้มากกว่ากองหน้าทีมอินทรีเหล็กแม้แต่คนเดียว โดยเมื่อเรียงจากมากไปน้อยจะพบว่า โม ซาลาห์ คือคนที่ยิงได้เยอะที่สุด 16 ประตู รองลงมาเป็น ซาดิโอ มาเน 14 ประตู และปิดท้ายด้วย บ็อบบี้ ที่ยิงแบบจุ๋มจิ๋มเพียง 8 ประตูเท่านั้น ซึ่งรวมกันแล้ว 3 คนยิงได้ 38 ประตูให้กับทีม
เมื่อคิดเป็นประตูต่อนาทีแล้ว แวร์เนอร์ ก็ยังเหนือกว่าโดยเขายิงประตูได้ทุก ๆ 97.6 นาที มากกว่า ซาลาห์ คนที่ยิงได้มากที่สุดของ หงส์แดง ซึ่งทำได้ 140.4 นาทีต่อ 1 ประตู และเมื่อดูสถิติใน แชมเปี้ยนส์ลีก ดาวยิง ไลป์ซิก ก็ทำได้ดีกว่าโดยยิงหนึ่งประตูต่อ 144.8 นาที
การสร้างสรรค์โอกาสที่ยอดเยี่ยม
เมื่อเทียบกับ 3 กองหน้าแล้ว แวร์เนอร์ กลายเป็นนักเตะที่มีโอกาสในการยิงประตูมากถึง 29 ครั้งและเขาสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เปลี่ยนโอกาสสำคัญให้เป็นประตูได้ถึง 48.3 เปอร์เซ็น มีเพียง โม ซาลาห์ เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าที่ 61.9 เปอร์เซ็น ส่วน มาเน และ ฟีร์มีโน นั้นทำได้น้อยกว่าที่ 34.8 และ 20.8 ตามลำดับ
กองหน้าทีมชาติอียิปต์ถือเป็นคนที่สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้มากที่สุดได้ถึง 12 ครั้ง ซึ่ง แวร์เนอร์ ก็ทำได้ใกล้เคียงกันที่ 10 ครั้ง บ็อบบี้ ตามมาติด ๆ ด้วยการทำได้ 9 ครั้ง ส่วนดาวยิงเซเนกัลนั้นทำได้เพียง 7 ครั้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อดูที่สถิติแอสซิสต์ กลายเป็น ซาลาห์ ที่ทำได้น้อยที่สุดที่ 6 ครั้งส่วนทั้ง 3 คนที่เหลือนั้นทำได้เท่ากันที่ 7 ครั้ง
สถิติที่เหนือกว่า ฟีร์มีโน ใน บุนเดสลีกา
สาเหตุที่ต้องจับทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันนัั่นก็เพราะว่าพวกเขานั้นแจ้งเกิดใน บุนเดสลีกา เหมือนกัน ซึ่งเราจะมาดูว่าในซีซันสุดท้ายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน กับ ฮอฟเฟนไฮม์ ก่อนย้ายมายังถิ่น แอนฟิลด์ กับซีซันล่าสุดของ แวร์เนอร์ นั้นใครจะเหนือกว่ากัน
บ็อบบี้ ลงเล่นในซีซัน 2014-2015 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาใน บุนเดสลีกา โดยลงเล่นในลีกทั้งหมด 33 เกมยิงได้ 7 ประตูและทำได้ 10 แอสซิสต์ ในขณะที่กองหน้าจาก ไลป์ซิก นั้นยิงไปแล้ว 21 ประตูและทำอีก 7 แอสซิสต์จากการลงสนาม 25 นัด
แวร์เนอร์ สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้ถึง 40.8 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า ฟีร์มีโน ที่ทำได้ 30.8 เปอร์เซ็น ซึ่งแม้ว่าตัวเลขในด้านนี้จะห่างกันพอสมควร แต่เมื่อพูดถึงการสร้างสรรค์โอกาสจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์แล้ว ดาวยิงบราซิลเลียนทำได้มากถึง 67 ครั้งในขณะที่กองหน้าทีมชาติเยอรมนีทำได้เพียง 35 ครั้งเท่านั้น
เมื่อมาดูสถิติในการครองบอลในพื้นที่สุดท้าย บ็อบบี้ ทำได้ดีกว่ากับต้นสังกัดเดิมใน บุนเดสลีกา ที่ 28 ครั้งซึ่งมากกว่าดาวเตะวัย 24 ปีที่ทำได้ 18 ครั้ง และในขณะที่ แวร์เนอร์ นั้นมีสถิติในการเลี้ยงบอลประสบความสำเร็จมากกว่า 54.1 ต่อ 53.6 ครั้ง แต่ความพยายามในการเลี้ยงบอลของ ฟีร์มีโน นั้นมากกว่าอย่างเหลือเชื่อโดยเขาทำได้ 261 ครั้งส่วนนักเตะอินทรีเหล็กทำได้เพียง 85 หนเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากสถิติของทั้งคู่นั้นดูเหมือนว่าทาง ติโม แวร์เนอร์ นั้นจะเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติของการเป็นกองหน้าตัวเป้าหมากกว่าสตาร์ ลิเวอร์พูล ซึ่งสามารถรับบทบาทหมายเลข 10 หากว่า คล็อปป์ ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับกองหน้าจาก ไลป์ซิก ในช่วงซัมเมอร์
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด