[OPINION] 2 แนวรุกแห่ง นอริช ซิตี้ ผู้ควรค่ากับความยิ่งใหญ่มากกว่าที่ เดอะ แคร์โรว์โรด
จนถึงตอนนี้เราทุกคนคงทราบกันดีแล้วว่า นอริช ซิตี้ ทีมน้องใหม่ที่พึ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ในฐานะทีมอันดับหนึ่งของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นก่อน จะต้องกลับลงไปวาดลวดลายในลีกรองเป็นทีมแรกหลังจากทำผลงานย่ำแย่จมอยู่อันดับบ๊วยของตารางตั้งแต่สัปดาห์ที่ 19 ของการแข่งขัน ยาวมาจนถึงปัจจุบัน
จากฟอร์มของ ทัพนกขมิ้น ที่ทำสถิติเป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ (26 ประตู) แถมยังเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดในลีกควบคู่กันไปอีกด้วย (67 ประตู) ซึ่งจากความล้มเหลวไม่เป็นท่านี้เองที่เป็นสาเหตุสำคัญให้ทีมของ ดาเนียล ฟาร์เก้ ต้องจำใจกลับไปเริ่มต้นใหม่ในลีกรองอีกครั้งในซีซั่นหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม นอริช ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ พวกเขาได้ให้กำเนิดดาวรุ่งที่มีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชื่อดังของวงการฟุตบอลได้หลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น...
แม็กซ์ อารอนส์ แบ็คขวาดาวรุ่งวัย 20 ปีที่ได้รับคำชมค่อนข้างเยอะในปีนี้ แถม แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังเคยเรียกไปซ้อมร่วมกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่มาแล้ว
จามอล เลวิส แบ็คซ้ายวัย 22 ปี ที่ทำผลงานได้ค่อนข้างโดดเด่นในเกมริมเส้นฝั่งซ้าย
เบน ก็อดฟรีย์ เซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักวัยเพียง 22 ปี ที่มีข่าวว่า แอร์เบ ไลป์ซิก และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังให้ความสนใจจะคว้าตัวไปร่วมทีม ณ ปัจจุบัน
รายชื่อเหล่านี้คือส่วนหนึ่งในบรรดาดาวรุ่งที่สร้างชื่อขึ้นมาแม้ฟอร์มโดยรวมของทีมจะดูไม่ดีนัก แต่ผลงานส่วนตัวของพวกเขานั้นจัดว่าค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว และไม่เพียงแค่นั้น ในฤดูกาลนี้ ดาเนียล ฟาร์เก้ ยังมอบโอกาสแจ้งเกิดให้อีก 2 วันเดอร์คิดส์ที่ยืนเป็นตัวหลักของทีมในเกมรุกฤดูกาลนี้ จนสร้างชื่อขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักได้สำเร็จ นั่นคือ...
ท็อดด์ คานท์เวลล์ และ เอมิเลียโน บูเอนเดีย สองตัวรุกดาวรุ่งที่ยืนหยัดเป็นตัวความหวังในแดนกลางให้กับ ทัพนกขมิ้น ซีซั่นนี้นั่นเอง !
คานท์เวลล์ ตัวรุกชาวอังกฤษวัย 22 ปี เป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ นอริช ซิตี้ และพึ่งจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาลก่อนขณะที่ทีมยังเล่นอยู่ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งผลงานของเขาในปีแรกนั้นก็ถือว่ายังไม่ได้โดดเด่นสะดุดตามากนัก กระทั่งทีมขยับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด ฟาร์เก้ ตัดสินใจเพิ่มบทบาทให้กับดาวรุ่งรายนี้ โดยให้ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักและเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีม และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ตั้งแต่เกมนัดที่สองของฤดูกาลที่เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิล ไปได่ 3-1 โดยฟอร์มการเล่นในนัดนั้นของเขาจัดว่าโดดเด่นไม่แพ้ ติมู ปุ๊กกี้ ที่ทำแฮททริกได้ในเกมดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย จนทำให้บรรดาแฟนบอลเริ่มรู้จักและคุ้นชื่อของเขานับจากวันนั้น กระทั่งในที่สุดแม้ทีมจะต้องตกชั้นไปในฤดูกาลหน้า แต่ ณ ตอนนี้ คานท์เวลล์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีดีพอมากกว่าที่จะต้องลงไปเล่นในลีกแชมเปียนชิพ เพราะด้วยทักษะที่มี ความคล่องตัว ไปกับบอลได้ดี และอ่านเกมที่ค่อนข้างเฉียบขาด อีกทั้งผลงานการเป็นรองดาวซัลโวของทีมในปีนี้ที่ทำไปแล้ว 7 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ ทำให้เจ้าตัวสามารถเล่นใน พรีเมียร์ลีก ต่อไปได้อย่างสบาย ๆ
ส่วนอีกหนึ่งรายที่กล่าวไปข้างต้น เอมี บูเอนเดีย ปีกลูกครึ่ง สเปน-อาร์เจนตินา วัย 23 ปีที่ นอริช ซิตี้ ดึงตัวมาจาก เกตาเฟ ทีมดังใน ลาลีกา เมื่อฤดูกาลก่อน และสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทันทีนับตั้งแต่ย้ายมา โดยทำไปถึง 8 ประตูในฤดูกาลก่อน ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกรองและเลื่อนชั่นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก แบบอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าซีซั่นนี้เจ้าตัวจะไม่ได้ยิงประตูได้ถล่มทลายเหมือนตอนเล่นในแชมเปี้ยนชิพ แต่ก็ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีม ด้วยการทำไปถึง 8 แอสซิสต์ให้กับทัพนกขมิ้น แถมเจ้าตัวดูจะมีทีเด็ดจากความแม่นยำในการเล่นลูกเซ็ตเพลย์เป็นออปชั่นเสริมอีกด้วย
ด้วยเหตุนั้นเอง จึงไม่แปลกที่ดาวรุ่งทั้งสองจะตัดสินใจย้ายออกจากถิ่น แคร์โรว์โรด หลังจบฤดูกาลนี้ และหาทีมที่จะสามารถเจียระไนให้พวกเขากลายเป็นเพชรน้ำงามในวงการฟุตบอลต่อไปได้ ทางด้าน คานท์เวลล์ เองก็มีข่าวพัวพันกับทีมใน พรีเมียร์ลีก ทั้ง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เอฟเวอร์ตัน รวมถึง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แถม นอริช เองก็ดูจะตั้งราคาไว้ที่ราว 15-20 ล้านปอนด์เท่านั้นซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับเพลย์เมกเกอร์ดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดเล็กรายนี้ เช่นเดียวกับ บูเอนเดีย ที่มีทีมจาก ลาลีกา อย่าง แอตเลติโก มาดริด และ เรอัล เบติส รวมถึง ทีมใน กัลโช เซเรีย อา อย่าง เอซี มิลาน ก็กำลังติดตามสถานการณ์ของเขาอยู่อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
มันจึงน่าเสียดายไม่น้อยหากดาวรุ่งทั้งสองจะตัดสินใจลงไปเล่นในลีกรองร่วมกับทีมต่อในปีหน้า เพราะด้วยฝีเท้าระดับนี้ และค่าตัวที่ดูจะจับต้องได้ ทำให้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวที่เราอาจจะได้เห็นทั่งคู่ยังคงวาดลวดลายอยู่บนลีกสูงสุดต่อไป... คงต้องมาตามดูกันว่าสุดท้ายแล้ว ทีมใดจะโชคดีได้ตัวแข้งวันเดอร์คิดส์ที่ทั้งถูกและมีคุณภาพเหมาะสมกับสภาวการณ์ที่หลาย ๆ ทีมกำลังประสบปัญหาด้านการเงินเช่นนี้ไปร่วมทัพ แต่บอกได้เลยว่าจากฟอร์มการเล่นที่ขนาดอยู่กับทีมเล็ก ๆ ยังโดดเด่นขนาดนี้ และถ้าได้เล่นร่วมกับแข้งระดับท็อปหรือถูกขัดเกลาโดยกุนซือระดับโลกชื่อดัง รับรองได้เลยว่าเราจะได้เห็นชื่อของทั้งสองคนนี้ติดอยู่บนทำเนียบผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการค้าแข้งได้อย่างจริงแท้แน่นอนเลยทีเดียว !
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด