เออเดการ์ด เชื่อมั่น อาร์เซนอล รักษาฟอร์มแกร่งได้แน่
- อาร์เซนอล จบฤดูกาลที่แล้วด้วยการเป็นเพียงรองแชมป์แม้จะเป็นจ่าฝูงนานถึง 284 วัน
- พวกเขาจบด้วยการตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมลีกด้วยระยะห่าง 5 คะแนน
มาร์ติน เออเดการ์ด กัปตันทีมอาร์เซนอล กล่าวเกี่ยวกับเป้าหมายของพวกเขาในฤดูกาลใหม่ในพรีเมียร์ ลีก ที่จะมาถึงนี้ พร้อมกับเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะมาพร้อมกับการสร้างแนวคิดของการเป็นผู้ชนะได้ดีขึ้นจากความผิดหวังในฤดูกาลที่แล้ว
อาร์เซนอล เซ็นสัญญานักเตะใหม่เข้ามาถึงสามคน มูลค่ารวมมากกว่า 200 ล้านปอนด์ ขณะที่พวกเขามีฤดูกาลที่แล้วที่ยอดเยี่ยม แม้จะผิดหวังด้วยการไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก แต่ก็สามารถพาทีมกลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้งในรอบ 7 ปี และ เออเดการ์ด เชื่อว่าทีมกำลังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง
“จบฤดูกาลก่อนมันน่าผิดหวัง มันเจ็บปวดมาก หลังการนำจ่าฝูงมายาวนาน มันเป็นความเจ็บปวดที่เราต้องนำมาใช้ในทางที่ดี เราต้องแกร่งขึ้นกว่านี้ กระหายความสำเร็จมากกว่านี้ นำมันมาสร้างแรงกรระตุ้นในการอยากลงเล่น อยากคว้าชัยชนะ”
“เราเคยทำมันมาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากเราพลาดการเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ปีต่อมาเราก็ทำได้ ครั้งนี้เราก็จะกลับมาให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เราใช้ความผิดหวัง ความโกรธ ความรู้สึกที่เลวร้ายทั้งหมดไปในทางที่ดี อย่างน้อยเราก็มีฤดูกาลที่ดี และเป็นก้าวสำคัญสำหรับเรา”
“ฤดูกาลที่แล้วไม่มีใครเชื่อเรานักหรอกว่าเราจะเป็นทีมลุ้นแชมป์ สุดท้ายเราทำได้ใกล้เคียงมาก แน่นอนเรายังไม่ลืมมันหรอก มันยังเจ็บปวดอยู่ แต่เราก็ต้องผ่านมันไปอย่างได้รับการเรียนรู้และต้องไปพัฒนาตนเอง เราต้องการสร้างทีมที่เต็มไปด้วยเกมรุกตลอดเกม เราต้องการลงเล่นเพื่อชัยชนะ สร้างวัฒนธรรมของการเป็นผู้ชนะภายในสโมสร เราต้องชนะทุกเกม มุ่งมั่นทุกเกมไม่ใช่เพียงการเจอกับสโมสรใหญ่เท่านั้น”
“การเซ็นสัญญานักเตะใหม่เข้ามา และจากผลงานเดิมที่เราทำได้ในฤดูกาลที่แล้ว ผมคิดว่าเราไม่รอดพ้นการถูกคาดหวังมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องเจอและยอมรับมันไว้ มีสมาธิกับงาน ทำงานหนักต่อไปทุกวัน”
นอกจากนี้ เออเดการ์ด ยังมีการกล่าวถึงการเข้ามาของ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งจะมาเติมเต็มในพื้นที่กองกลางของทีม
“ทุกครั้งที่ผมลงเล่นกับเขา ผมเห็นคุณภาพในการเล่นร่วมกัน เขาเป็นผู้นำทีมที่ดีมาก หวังว่าเราจะได้ช่วยเหลือกันและกัน เขาเป็นคู่แข่งที่รับมือยาก ปะทะกันหนักในเกม ดังนั้นผมดีใจที่ทีมได้ตัวเขา และหวังว่าเราจะปรับตัวเข้าหาได้ได้เร็วที่สุด”