[NOSTALGIA] เซาต์แธมป์ตัน 6-3 แมนฯ ยูไนเต็ด : ย้อนรอยเกมคลาสสิค พรีเมียร์ลีก 1996/97
โดย โตมร นวลประเสริฐ
โหมโรงก่อนศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ สุดสัปดาห์นี้ระหว่าง เซาต์แธมป์ตัน พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ เซนต์ แมรีส์ ด้วยการย้อนดูแมตช์คลาสสิคระหว่างทั้ง 2 ทีมที่เกิดขึ้นในแมตช์เดย์ที่ 11 ของฤดูกาล 1996/97 ที่จบลงด้วยชัยชนะอย่างถล่มทลายของพลพรรค เดอะเซนต์ส
ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับสถานะแชมป์เก่าจากซีซัน 1995/96 หมายมั่นปั้นมือว่าจะรักษาแชมป์ลีกสูงสุดอีกสมัยไว้ให้ได้โดย เฟอร์กี้ เดินหน้าเสริมทัพในซัมเมอร์ 1996 ด้วยการเซ็นนักเตะอย่าง คาเรล โพบอร์สกี้ (สลาเวีย ปราก), โอเล กุนนาร์ โซลชา (โมลด์), จอร์ดี้ ครัฟฟ์ (บาร์เซโลนา), รอนนี ยอห์นเซน (เบซิคตัส) และ เรย์มอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว (วิเทสส์ อาร์เน็ม) รวมไปถึงการมี คลาส ออฟ '92 ที่กำลังร้อนแรงสุดๆ
ฝั่งทัพ นักบุญ เพิ่งจะรอดตกชั้นมาแบบเส้นยาแดงผ่าแปดจากประตูได้เสียที่ดีกว่า (-18) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (-25) เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ อีกทั้งพวกเขายังตะเพิด เดฟ เมอร์ริงตัน ในซัมเมอร์ปี 96 ก่อนจะดึง แกรม ซูเนสส์ ตำนานแข้ง ลิเวอร์พูล มากุมบังเหียนและมีการเซ็นสัญญานักเตะในตลาดซ้มเมอร์ที่น่าประทับใจอย่าง เอยอล เบอร์โกวิช กับ เอกิล ออสเตนสตัด เข้ามาสนับสนุน แม็ตต์ เลอ ทิสซิเอร์ ดาวเตะพ่อมดตัวชูโรงของทีมในเวลานั้น
ก่อนหน้าเกมดังกล่าว 1 สัปดาห์ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะพบกับความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาลเมื่อบุกไปถูก นิวคาสเซิล รองแชมป์จากซีซันก่อนถล่มยับเยิน 5-0 ขณะที่ นักบุญแดนใต้ เพิ่งจะชนะเป็นนัดที่ 2 ของฤดูกาลกับการอัด ซันเดอร์แลนด์ 3-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
เซาต์แธมป์ตัน : เดฟ บีแซนต์; ไซมอน ชาร์ลตัน (เกรแฮม พ็อตเตอร์ 70'), อุลริช ฟาน ก็อบเบล, อลัน นีลสัน (จิม มาจิลตัน 75'), ริชาร์ด ดรายเดน, เจสัน ด็อดด์, เคลาส์ ลุนเดความ; แม็ตต์ โอคเลย์, แม็ตธิว เลอ ทิสซิเอร์ (กอร์ดอน วัตสัน 88'), เอยอล เบอร์โกวิช; เอกิล ออสเตนสตัด
แมนฯ ยูไนเต็ด : ปีเตอร์ ชไมเคิล; ฟิล เนวิลล์, เดวิด เมย์, แกรี พัลลิสเตอร์ (เดนิส เออร์วิน 45'), แกรี เนวิลล์; เดวิด เบ็คแฮม, นิคกี้ บัตต์ (ไบรอัน แม็คแคลร์ 17'), จอร์ดี้ ครัฟฟ์ (โอเล กุนนาร์ โซลชา 83'), รอย คีน, พอล สโคลส์; เอริค คันโตนา
45 นาทีแรก เซาต์แธมป์ตัน 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
เกมออสตาร์ทด้วยประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วของเจ้าถิ่นตั้งแต่นาทีที่ 6 เมื่อ เบอร์โกวิช ตามซ้ำดาบสองลูกยิงของ ออสเตนตัด ในกรอบเขตโทษเหน่งๆ ด้วยการตะบันเต็มข้อชนิดที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล หมดสิทธิ์เซฟ นับเป็นประตูแรกของดาวเตะ อิสราเอล กับต้นสังกัดใหม่บนลึกสูงสุดอย่างเป็นทางการ
ให้หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ทีมเยือนเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่อ รอย คีน ได้รับใบแดงโดยตรงจากการย่ำใส่เท้าแข้ง เดอะเซนต์ส ก่อนที่ เลอ ทิสซิเอร์ จะทำหนึ่งในประตูคลาสสิคตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ด้วยการชิพบอลจากหน้ากรอบเขตโทษข้ามหัว ชไมเคิล อย่างเหนือชั้นเป็นประตู 2-0 ในนาทีที่ 35
ลูกทีมของ เฟอร์กี้ ตีตื้นมาเป็น 2-1 นาทีที่ 41 จากลูกฟรีคิกเครื่องหมายการค้าของ เดวิด เบ็คแฮม ทว่าก็ถูกเกมสวนกลับของ เซาต์แธมป์ตัน เล่นงานก่อนจบครึ่งแรกโดย ออสเตนสตัด กระชากเลาะขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษซัดมุมแคบผ่านมือ ยักษ์เดนส์
แมนฯ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องลุ้นตีเสมอก่อนถูกตอกหน้าหงายท้ายเกม
ครึ่งหลัง ปีศาจแดง มาได้ประตูไล่จี้ขึ้นมาอีกครั้งเป็น 3-2 ตั้งแต่นาทีที่ 51 เมื่อลูกฟรีคิกของ เบ็คแฮม โค้งไปเข้าหัว เดวิด เมย์ ที่เสาสองทะยานโขกลงพื้นบอลไปซุกที่ก้นตาข่าย ก่อนที่เกมจะมาแลกกันอย่างถึงพริกถึงขิงในช่วงไม่กี่อึดใจก่อนหมดเวลาการแข่งขัน
จังหวะเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาดของเหล่าแข้ง ผีแดง ในนาทีที่ 83 บอลเจ้ากรรมลอยไปเข้าทางปืนของ เบอร์โกวิช ที่แถวสองก่อนแข้งใหม่ถอดด้ามของเจ้าถิ่นจะวอลเลย์จังหวะเดียวบอลพุ่งเบียดเสาตุงตาข่ายกลายเป็นสกอร์ 4-2 ก่อนที่การหลุดเดี่ยวของ ออสเตนตัด จะบวกสกอร์เป็น 5-2 เพียง 2 นาทีหลังจากนั้น
ทีมเยือนยังไม่ยอมแพ้ไล่ขึ้นมาเป็น 5-3 จากจังหวะขลุกขลิกหน้ากรอบเขตโทษโดยเป็น พอล สโคลส์ เก็บจังหวะสุดท้ายเป็นประตูก่อน เซาต์แธมป์ตัน จะตอกฝาโลงด้วยประตู 6-3 ในนาทีเดียวกันจากการทำเข้าประตูของ เนวิลล์ ผู้น้อง
อย่างไรก็ตาม แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีผลการแข่งขันที่น่าอับอายที่ เดอะเดลล์ เมื่อฤดูกาล 1996/97 แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ทะยานคว้าตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง ขณะที่ เซาต์แธมป์ตัน จบซีซันด้วยอันดับที่ 16 มีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด