นิวคาสเซิ่ล ขึ้นแทนอันดับ 2 ยิงทีมที่ถล่มคู่แข่งขาดลอยสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

เผยสถิติ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด บุกยิง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 8-0 นอกจากเป็นสถิติชนะขาดสุดของตัวเองในยุค พรีเมียร์ลีก แล้ว ก็ยังติดอันดับ 2 แมตช์ที่ชนะกันขาดลอยสุดด้วย
Sheffield United v Newcastle United - Premier League
Sheffield United v Newcastle United - Premier League / Michael Regan/GettyImages
facebooktwitterreddit

เผยสถิติ การที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด บุกไปกราดยิง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถึง บรามอลล์ เลน 8-0 เมื่อวันอาทิตย์ 24 ก.ย. นอกจากจะเป็นสถิติชนะขาดลอยสุดของตัวเองในการเล่น พรีเมียร์ลีก แล้ว ก็ยังติดชาร์ตอันดับ 2 แมตช์ที่ชนะกันขาดลอยสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ด้วย

ทีมของ เอ๊ดดี้ ฮาว ไม่แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าจากการเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน แม้แต่น้อย โดยบุกไปถลุงทีมดาบคู่ 8-0 ด้วยประตูของ ชอน ลองสตาฟฟ์, แดน เบิร์น, สเวน บ็อตมัน, คัลลั่ม วิลสัน, แอนโธนี่ กอร์ดอน, เซร์คิโอ อัลมิรอน, บรูโน่ กิมาไรส์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ซึ่งนัดนี้ คีแรน ทริปเปียร์ ทำถึง 3 แอสซิสต์ทีเดียว

ผลสกอร์เกมนี้ ถือเป็นชัยชนะขาดลอยสุดของ นิวคาสเซิ่ล ในตลอดการเล่น พรีเมียร์ลีก กว่า 30 ปี และยังทำให้พวกเขาติดอันดับ 2 แมตช์ที่ชนะกันด้วยสกอร์สูงสุด เป็นรองแค่สกอร์ชนะ 9-0 ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม สถิติสูงสุดตลอดกาลของ นิวคาสเซิ่ล ในการกำราบคู่แข่ง ยังเป็นในเกมยุคโบราณ ดิวิชั่น 2 ปี 1946 ที่ถล่ม นิวพอร์ท เคาน์ตี้ 13-0

ทั้งนี้ หากนับเป็นสถิติ "ยิงประตูมากที่สุด" ใน 1 เกม เบอร์ 1 ตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก เป็นเกมที่ถล่มตาข่ายกันมากถึง 11 ลูก คือแมตช์ที่ พอร์ทสมัธ เปิดบ้านชนะ เร้ดดิ้ง 7-4 ในปี 2007 และยังมีอีกถึง 5 แมตช์ที่ยิงรวมกันนัดละ 10 ประตูด้วย

  • อันดับชัยชนะขาดลอยสุด พรีเมียร์ลีก

    • 9 ประตู

    แมนฯ ยูไนเต็ด 9-0 อิปสวิช ทาวน์ (1995)

    เซาแธมป์ตัน 0-9 เลสเตอร์ (2019)

    แมนฯ ยูไนเต็ด 9-0 เซาแธมป์ตัน (2021)

    ลิเวอร์พูล 9-0 บอร์นมัธ (2022)

    • 8 ประตู

    นิวคาสเซิ่ล 8-0 เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (1999)

    สเปอร์ส 9-1 วีแกน (2009)

    เชลซี 8-0 วีแกน (2010)

    เชลซี 8-0 แอสตัน วิลล่า (2012)

    เซาแธมป์ตัน 8-0 ซันเดอร์แลนด์ (2014)

    แมนฯ ซิตี้ 8-0 วัตฟอร์ด (2019)

    เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-8 นิวคาสเซิ่ล (2023)