ลินคอล์น ซิตี้ 2-7 ลิเวอร์พูล : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม คาราบาว คัพ หงส์แดง บุกถล่มทะลุเข้าสู่รอบที่สี่ต่อไป
การแข่งขัน : ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบที่ 3
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2020
เวลาแข่งขัน : 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ลินคอล์น ซิตี้ 2-7 ลิเวอร์พูล
สนาม : ไฮบิวรี
ลิเวอร์พูล ยิงไม่เลี้ยง บุกอัด ลินคอล์น ซิตี้ ทีมจาก ลีกวัน ขาดลอย 2-7 โดยได้ประตูจาก เซอร์ดาน ชากิรี นาทีที่ 9 ทาคุมิ มินามิโนะ นาทีที่ 18, 46 เคอร์ติส โจนส์ นาทีที่ 32, 36 มาร์โก กรูยิช นาทีที่ 65 และ ดิว็อค โอริกี นาทีที่ 89 ส่วนเจ้าบ้านยิงได้ 2 ประตูจาก ทาโย เอดัน นาทีที่ 60 และ เลวิส มานต์สมา นาทีที่ 67 จบเกม หงส์แดง เอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็นผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ต่อไป
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เป็นทีมเยือนที่ครองบอลบุกได้มากกว่าชัดเจนและมาได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 จากลูกฟรีคิกของ ชากิรี ที่ปั่นเสียบคานเข้าไปอย่างสุดสวย
จากนั้นยังคงเป็น หงส์แดง ที่บุกเข้าใส่อย่างหนักและมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะความผิดพลาดของกองหลังเจ้าถิ่นที่จ่ายบอลพลาดไปเข้าทางผู้เล่น ลิเวอร์พูล และเป็น มินามิโนะ ปั่นโค้งหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปอย่างดงามในนาทีที่ 18
นาทีที่ 27 เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นบ้างจากจังหวะหลุดมาทางกราบซ้ายก่อนตบกลับเข้ากลางและเป็น ซิมิคาส ที่ตามมาสกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง
แต่แล้วนาทีที่ 32 ผู้มาเยือนนำห่าง 0-3 จากจังหวะวางยาวมาให้ โอริกี้ โหม่งตั้งกลับมาให้ โจนส์ ปั่นโค้งผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป
นาทีที่ 36 หงส์แดง ออกนำ 0-4 จากจังหวะยิงไกลนอกกรอบของ เคอร์ติส โจนส์ บอลแฉลบผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้าไปเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในวันนี้
ช่วงทดเวลาเจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะหลุดมาสุดเส้นหลังก่อนจะยิงมุมแคบ แต่ อาเดรียน ยังปัดออกไปได้
กระทั่งจบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ 0-4
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 1 นาที ทีมเยือนมาได้ประตูที่ 5 จากจังหวะตัดบอลได้ในแดนกลางก่อนจะจ่ายทะลุให้ เอลเลียต หลุดเดียวแต่ยิงไปติดผู้รักษาประตูและเป็น มินามิโนะ ตามมาซ้ำเข้าไป
จากนั้นไม่กี่นาทีเจ้าถิ่นทำเกมขึ้นมาได้ลุ้นถึง 3 จังหวะติดต่อกัน แต่แนวรับ หงส์แดง ยังช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด
หลังผ่านช่วง 5 นาทีแรกเจา้บ้าน ลินคอล์น มีโอกาสลุ้นประตูมากขึ้น และมาตีไข่แตก 1-5 ได้สำเร็จจากจังหวะแย่งบอลในแดน ลิเวอร์พูล ได้และตบเข้ากลางให้ เอดัน ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลบ 2 กองหลังก่อนยิงผ่านมา อาเดรียน เข้าไป
นาทีที่ 65 ทีมเยือนได้ประตูออกนำ 1-6 จากจังหวะยิงนอกกรอบของ มาร์โก กรูยิช บอลไปแฉลบผู้เล่นเจ้าบ้านเข้าประตูไป
1 นาทีต่อจากนั้น เจ้าถิ่นไล่มา 2-6 จากลูกเตะมุม และเป็น มอนต์สมา โฉบมาโหม่งโล่ง ๆ บอลเช็ดคานเข้าไปอย่างสุดสวย
ช่วงท้ายเกม ผู้มาเยือนบวกประตูที่ 7 ได้จากจังหวะสวนกลับ มินามิโนะ จ่ายทะลุมาให้กับ โอริกี้ หลุดเข้าไปยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาถล่ม ลินคอล์น ซิตี้ ได้ถึงถิ่น 2-7 ผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ต่อไป
จบเกมที่ ไฮบิวรี ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบที่ 3 ลินคอล์น ซิตี้ 2-7 ลิเวอร์พูล ⚽ ชากิรี 9 ⚽ มินามิโนะ 18 ⚽ โจนส์ 32 ⚽ โจนส์ 36 ⚽ มินามิโนะ 46 ⚽ เอดัน 60 ⚽ กรูยิช 65 ⚽ มอนต์สมา 67 ⚽ โอริกี 89
Posted by 90min on Thursday, September 24, 2020
คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล: อาเดรียน(7), เนโก้(6), ฟาน ไดค์(7), วิลเลียมส์(6), ซิมิคาส(6.5), กรูยิช(7), โจนส์(8), เอลเลียต(6.5), ชากิรี(7), มินามิโนะ(8), โอริกี้(7)
ตัวสำรอง: เกอิต้า(6), โจต้า(6), ฟาบินโญ(6)
คีย์แมน : ทาคุมิ มินามิโนะ / เคอร์ติส โจนส์
เกมนี้สองเพลยเมกเกอร์ของ หงส์แดง ดูจะเป็นคนที่เล่นได้โดดเด่นมากที่สุดในสนามทั้ง มินามิโนะ และ โจนส์ ที่สลับผลัดกันสร้างสรรค์เกมบุกจนทีมเอาชนะไปได้ในวันนี้ แถมทั้งสองคนยังทำไปคนละ 2 ประตู อีกทั้งยังสร้างโอกาสเข้าทำสวย ๆ ที่มาจากทั้งคู่หลายต่อหลายครั้ง เสียดายที่ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสทำแฮททริกได้ในค่ำคืนนี้แต่ก็พลาดไป อย่างไรก็ตามผลงานของเขาทั้งสองก็จัดว่าเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบที่สี่ต่อไปได้ในศึก คาราบาว คัพ ปีนี้
ประเด็นร้อนหลังเกม
เกมรุก "เวิลด์คลาส" แนวหลัง "เวิลด์แก๊ส"
ประโยคนี้ดูจะเหมาะกับสภาพทีม ลิเวอร์พูล ในเกมวันนี้มากที่สุด เพราะหากดูเฉพาะเกมรุก พวกเขาถือว่ามีความเฉียบขาดเอามาก ๆ อีกทั้งการเข้าทำที่สร้างโอกาสลุ้นประตูได้หลายต่อหลายครั้งจนเป็นที่มาของทั้ง 7 ประตูในเกมวันนี้ แต่หากมองในเกมรับ การส่งดาวรุ่งลงสนามพร้อมกัน 2 คนทั้ง เนโก้ วิลเลียมส์ และ รีส วิลเลียมส์ รวมถึงการให้โอกาสแบ็คจอมบุกอย่าง ซิมิคาส ลงประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้าย ทำให้เกมรับของ หงส์แดง ในวันนี้ถูกเจ้าบ้าน ลินคอล์น บุกเจาะได้ค่อนข้างง่าย ช่วงครึ่งแรกยังดีที่มี ฟาน ไดค์จ ยืนคุมอยู่ในสนามจึงทำให้ยังพอต้านทานเอาไว้ได้ แต่หลังจากพักครั้ง คล็อปป์ เปลี่ยนเอา ฟาบินโญ ลงมาแทนที่ ฟาน ไดค์จ เท่านั้นแหละ งานของ อาเดรียน ก็ชุกชุมขึ้นมาในทันที โชคดีที่นายทวารมือสองรายนี้ช่วยเซฟป้องกันเอาไว้ได้หลายต่อหลายครั้งในครึ่งเวลาหลัง มิฉนั้นทีมอาจโดนยิงไปแล้ว 4 หรือ 5 ประตูก็เป็นได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด