[MATCH REPORT] สิงห์ ฟอร์มแจ่ม ! เชลซี เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ 10 คน 2-1

Chelsea FC v Manchester City - Premier League
Chelsea FC v Manchester City - Premier League / Pool/Getty Images
facebooktwitterreddit



ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : เชลซี 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 2-1 โดยได้ประตูจาก คริสเตียน พูลิซิช นาทีที่ 36 และจุดโทษของ วิลเลียน นาทีที่ 78 ส่วนทีมเยือนได้ประตูจากลูกฟรีคิกของ เควิน เดอ บรอยน์ นาทีที่ 55 ก่อน แฟร์นันดินโญ จะมาโดนใบแดงในนาทีที่ 77 ทำให้จบเกม สิงโตน้ำเงินคราม คว้า 3 คะแนนได้สำเร็จ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล การันตีแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ทันที

Chelsea FC v Manchester City - Premier League
Chelsea FC v Manchester City - Premier League / Pool/Getty Images

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ ดูจะครองบอลได้มากกว่า แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ตลอด 10 นาทีแรก ส่วน สิงห์บลู ก็พยายามตั้งเกมบุกของตัวเอง แต่ยังแทบไม่สามารถเอาบอลกลับมาครอบครองได้

นาทีที่ 17 ทีมเยือนได้โอกาสเป็นครั้งแรกจากลูกโหม่งของ แฟร์นันดินโญ แต่ เกปา ยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้

เจ้าถิ่นเองมีโอกาสได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 26 จากจังหวะเก็บตกในเขตโทษของ รอสส์ บาร์คลีย์ แต่ยังยิงไปติดบล็อกของ แฟร์นันดินโญ

หลังจากนั้นเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่มีลุ้น 2 จังหวะติดกันจากจังหวะโหม่งลูกเตะมุมของ คริสเตนเซน แต่ เอแดร์ซอน ยังคงเซฟเอาไว้ได้ ก่อน อัซปิลิกวยต้า จะซ้ำออกไปอย่างน่าเสียดาย

แต่แล้วนาทีที่ 35 เจ้าถิ่นมาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะความผิดพลาดของผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ ทำให้ พูลิซิช ได้ใช้ความเร็วกระชากหนีหลุดไปดวลเดี่ยวกับ เอแดร์ซอน ก่อนจะยิงเสียบเสานิ่ม ๆ เข้าไป

ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นทีมเยือนที่พยายามบุกหนักเพื่อหวังเอาประตูคืน แต่ก็ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้ ทำให้จบครึ่งเวลาแรก เชลซี ออกนำอยู่ 1-0

จบ 45 นาทีแรกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี 1-0 แมนฯ ซิตี้ ⚽ พูลิซิช 35

Posted by 90min on Thursday, June 25, 2020

เริ่มเกมใน 45 นาทีหลัง ยังคงเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองบอลบุกเข้าใส่ แต่ยังแทบไม่มีจังหวะได้จบแบบเน้น ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว

กระทั่งนาทีที่ 55 ทีมเยือนตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะปั่นฟรีคิกสุดสวยของ เควิน เดอ บรอยน์ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุดสวย

ไม่กี่นาทีต่อมาผู้มาเยือนเกือบพลิกขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับ มาห์เรซ แทงให้ สเตอร์ลิง หลุดเดียว แต่กลับยิงไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ฝั่งเจ้าบ้านเองก็มีโอกาสจากความผิดพลาด เอแดร์ซอน ออกบอลไปเข้าทาง เมสัน เมานท์ แต่เจ้าตัวยิงหลุดออกนอกกรอบไป

นาทีที่ 70 สิงห์บลู มีโอกาสใกล้เคียงสุด ๆ อีกครั้งจากการหลุดเดียวของ พูลิซิช ที่หลบผู้รักษาประตูไปแล้วแต่ ไคล์ วอร์คเกอร์ ยังตามมาสไลด์บอลเคลียออกจากเส้นประตูได้ทัน

จุดเปลี่ยนของเกมอยู่ในช่วงนาทีที่ 77 แฟร์นันดินโญ โดนใบแดงจากการเอามือไปปัดบอลบนเส้นประตู แถมยังโดนลูกจุดโทษ และเป็น วิลเลียน ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมขึ้นนำ 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่ครอบบอลได้ชัดเจนกว่าเนื่องจากตัวผู้เล่นที่มากกว่า 1 คน และเกือบได้ประตูนำห่างจาก เปโดร แต่ เอแดร์ซอน ยังบินปัดปลายมือป้องกันเอาไว้ได้

กระทั่งจบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 คว้า 3 คะแนนอันล้ำค่าได้สำเร็จ แถมยังส่งผลให้ ลิเวอร์พูล การันตีการเป็นแชชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อีกด้วย

จบเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี 2-1 แมนฯ ซิตี้ ⚽ พูลิซิช 35 ⚽ เดอ บรอยน์ 55 ❌ แฟร์นันดินโญ (ใบแดง) 77 ⚽ วิลเลียน (PK) 78

Posted by 90min on Thursday, June 25, 2020

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

เชลซี: เกปา, อัซปิลิกวยต้า, รือดิเกอร์, คริสเตนเซน, อลอนโซ, ก็องเต้, บาร์คลีย์, เมานท์, พูลิซิช, ชิรูด์, วิลเลียน

ตัวสำรอง: คาบาเยโร, เจมส์, จอร์จินโญ, ซูมา, กิลกัวร์, โควาชิช, เปโดร, ล็อฟตัส-ชีค, อับราฮัม

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, วอล์เกอร์, ลาปอร์ต, แฟร์นันดินโญ, เมนดี้, โรดรี้, กุนโดกัน, เดอ บรอยน์, แบร์นาโด้, มาห์เรซ, สเตอร์ลิง

ตัวสำรอง : คาร์สัน, ซินเชนโก้, ซาเน, โอตาเมนดี้, เชซุส, ซิลบา, ดอย์ล, เบลลิส, พาล์เมอร์


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด