[MATCH REPORT] แชมป์เก่าสอนเชิง ! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม ทีมแชมป์ฤดูกาลนี้อย่าง ลิเวอร์พูล ขาดลอย 4-0

Manchester City v Liverpool FC - Premier League
Manchester City v Liverpool FC - Premier League / Robbie Jay Barratt - AMA/Getty Images
facebooktwitterreddit



ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มดุ เปิดบ้านอัด ลิเวอร์พูล ไม่เลี้ยง 4-0 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ เควิน เดอ บรอยน์ ในนาทีที่ 25 ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 35 ฟิล โฟเด้น นาทีที่ 45 และปิดท้ายด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน นาทีที่ 66 จบเกม เรือใบสีฟ้า ยิงไว้ลาย ถล่ม หงส์แดง ยับเยิน แม้จะไม่มีลุ้นอะไรในรายการนี้แล้วก็ตาม

Manchester City v Liverpool FC - Premier League
Manchester City v Liverpool FC - Premier League / Laurence Griffiths/Getty Images

เริ่มครึ่งเวลาแรก เกมค่อนข้างจะเปิดแลกกันอย่างสนุก โดยเป็นทีมเยือนที่มีโอกาสได้ลุ้นก่อนตั้งแต่นาทีที่ 3 จากจังหวะวางยาวของ ฟาน ไดจ์ค ไปให้กับ ซาลาห์ ยิงไปติดเซฟ เอแดร์ซอน บอลกระเฉาะมาที่ เมนดี้ แต่ทำบอลหลุดไปเข้าทาง ฟิร์มิโน ได้ยิงซ้ำ แต่ เอแดร์ซอน ยังตามมาป้องกันเอาไว้ได้

ด้านเจ้าบ้านก็มีจังหวะได้ทำเกมบุกและมีลุ้นจบสกอร์อยู่หลายครั้ง แต่แผงหลังของผู้มาเยือนยังคงเช็คไลน์ล้ำหน้ากันได้เป็นอย่างดี

นาทีที่ 19 หงส์แดง ได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะหลุดมาทางขวาของ โม ซาลาห์ ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในและยิงหักข้อด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งไปชนเสาเต็ม ๆ พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

กระทั่งนาทีที่ 25 เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง ถูก โกเมซ เหนี่ยวล้มลงไปในกรอบเขตโทษ และเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0

จากนั้นอีกเพียง 10 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูออกนำ 2-0 จากการโต้กลับ ฟิล โฟเด้น จ่ายทะลุช่องเข้ากรอบเขตโทษให้ สเตอร์ลิง ล็อกหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงสวนตัว อลิสซอน เข้าประตูไป

แถมในนาทีที่ 45 เจ้าถิ่นมาได้ประตูนำห่าง 3-0 จากจังหวะต่อบอลเข้ากรอบเขตโทษ โฟเด้น ทำชิ่งหนึ่งสองกับ เดอ บรอยน์ ก่อนจะหลุดเดี่ยวและยิงผ่านตัว อลิสซอน เข้าไป

จบครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า ขึ้นนำ 3-0

จบ 45 นาทีแรกที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แมนฯ ซิตี้ 3-0 ลิเวอร์พูล ⚽ เดอ บรอยน์ (จุดโทษ) 25 ⚽ สเตอร์ลิง 35 ⚽ โฟเด้น 45

Posted by 90min on Thursday, July 2, 2020

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง เป็นเจ้าถิ่นที่ยังคงหาจังหวะเข้าทำได้ชัดเจนกว่าในช่วง 5 นาทีแรก ทั้งจากลูกยิงของ เชซุส สเตอร์ลิง และ โฟเด้น แต่แนวรับของทีมเยือนยังช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้

ฝั่ง ลิเวอร์พูล ก็พอจะมีโอกาสได้ลุ้นอยู่บ้างจากจังหวะแทงเข้าเขตโทษของ เฮนเดอร์สัน แต่ มาเน กลับจับบอลพลาดไปอย่างน่าเหลือเชื่อ

แต่แล้วนาทีที่ 66 ซิตี้ มาได้ประตูที่ 4 จากจังหวะสวนกลับ เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ สเตอร์ลิง ล็อกตัดเข้ากลางก่อนจะยิงด้วยซ้าย แต่จังหวะสุดท้ายยบอลไปโดน อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน ที่ตามมาสะกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วงเวลาที่เหลือ หงส์แดง พยายามเร่งเกมเพื่อเอาประตูตีไข่แตก แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ แถมกลายเป็น เรือใบสีฟ้า ที่ดูจะโต้กลับได้ถึงน้ำถึงเนื้อมากกว่า

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านส่งบอลไปตุงตาข่ายได้อีกครั้งจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ริยาด มาห์เรซ แต่สุดท้าย VAR จับได้ว่ามีการแฮนด์บอลไปก่อนหน้านั้น

ทำให้จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้อย่างท่วมท้น 4-0

จบเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แมนฯ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล ⚽ เดอ บรอยน์ (จุดโทษ) 25 ⚽ สเตอร์ลิง 35 ⚽ โฟเด้น 45 ⚽ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (OG) 66

Posted by 90min on Thursday, July 2, 2020

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, วอล์คเกอร์, การ์เซีย, ลาปอร์ต, เมนดี้, โรดริโก้, เดอ บรอยน์, กุนโดกัน, โฟเด้น, เชซุส, สเตอร์ลิง

ตัวสำรอง : บราโบ, สโตนส์, ซินเชนโก้,​ ซิลบา, มาห์เรซ, คันเซโล, แบร์นาโด้, โอตาเมนดี้, ดอยล์

ลิเวอร์พูล: อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ,​ ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, ไวนัลดุม, มาเน, ซาลาห์, ฟิร์มิโน

ตัวสำรอง: อาเดรียน, มิลเนอร์, เกอิต้า, อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน, มินามิโนะ, โอริกี, โจนส์,​ เอลเลียต, วิลเลียมส์


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด