แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง พร้อมแนวทางการเล่น ในเกมพรีเมียร์ลีก พบ เซาแธมป์ตัน วันเสาร์นี้

Manchester United v Liverpool FC - Premier League
Manchester United v Liverpool FC - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages
facebooktwitterreddit

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ท พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้อย่างย่ำแย่ด้วยการแพ้แบบหมดรูปในสองเกมแรกที่พบกับ ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด แต่ก็สามารถกลับมาคืนฟอร์มเก่งในเกม "แดงเดือด" ด้วยการเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย เอริค เทน ฮาก กล่าวหลังคว้า 3 คะแนนแรกในฤดูกาลว่า "ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของทัศนคติ เมื่อเราจูนตัวเองให้มีทัศนคติที่ดีเมื่ออยู่ในสนามได้ อีกทั้งเรามีการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม เล่นด้วยจิตวิญญาณนักสู้ ที่สำคัญคือเรามีทีมเวิร์คที่ดี แล้วดูผลที่ออกมาสิ นั่นเป็นเพราะเราทำหน้าที่ของตัวเองได้ไรที่ติไงล่ะ"

"แน่นอนว่าพวกเขาต้องเล่นด้วยทัศนคติแบบนี้ในเกมกับ เซาแธมป์ตัน และทุก ๆ เกมนับจากนี้ ตอนนี้เรารู้สึกยินดีกับชัยชนะต่อ ลิเวอร์พูล แต่สิ่งที่เราจะทำไม่ใช่เฉพาะกับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น ขึ้นชื่อว่า พรีเมียร์ลีก ไม่มีเกมไหนง่ายแน่นอนคุณต้องเล่นแบบนี้ให้ได้ทุก ๆ เกม หากต้องการอยู่รอดในที่ที่มีการแข่งขันสูงและเข้มข้นแบบนี้"

รายงานนักเตะที่ไม่พร้อมลงสนามก่อนเกมประกอบด้วย ฟาคุนโด้ เปลลิสทรี วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ และ แบรนดอน วิลเลียมส์


แผนการเล่น แมนฯ ยูไนเต็ด เกมพบ เซาแธมป์ตัน (4-3-3)

4-3-3 ดูจะเป็นการจัดตำแหน่งที่ลงตัวกว่าการเล่น 4-2-3-1 ในสองเกมแรก ใช้กลางรับตัวเดียวขณะที่มิดฟิลด์ตัวทำเกม 2 คนขนาบข้างผลัดกันขึ้นลง โดยมี 3 ประสานในแดนหน้าคอยประสานงานกันจากริมเส้น แต่น่าสนใจว่าหาก เซาแธมป์ตัน มาเน้นตั้งรับแนวทางการเล่นแบบนี้จะยังคงใช้ได้ผลเหมือนในเกมกับ ลิเวอร์พูล หรือไม่


คาดการณ์ไลน์อัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมพบ เซาแธมป์ตัน

Anthony Martial
Liverpool v Manchester United - Preseason Friendly / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ผู้รักษาประตู: ดาบิด เด เคอา - ผลงานการเจอ เซาแธมป์ตัน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเจ้าตัวเก็บไปได้เพียง 4 คลีนชีทเท่านั้น แถมในช่วงหลังผลงานก็เริ่มถูกตั้งคำถามจนมีข่าวว่าสโมสรกำลังมองหานายทวารหน้าใหม่เข้ามาท้าชิงตำแหน่งมือหนึ่งแล้ว

เซ็นเตอร์แบ็ค: ราฟาเอล วาราน - แค่ส่งเขาลงสนามชีวิตก็เปลี่ยนทันทีหลังจากดึงดันใช้งาน แฮร์รี แมคไกวร์ มาตลอดช่วง 2 เกมแรก แน่นอนว่าอดีตปราการหลังจาก เรอัล มาดริด จะยังคงได้ลงทำหน้าที่ต่อเนื่องแน่นอนด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมเช่นนี้

เซ็นเตอร์แบ็ค: ลิซานโดร มาร์ติเนซ - ใครว่าตัวเล็กแล้วเล่นไม่ได้ ปราการหลังรายนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าทำได้ดีเพียงใดเคียงข้าง ราฟาเอล วาราน ในเกมก่อน แต่ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เล่นบอลเท้าสู่เท้าเป็นส่วนใหญ่ หากว่าเจอบอลโยนยาวเปิดโหม่งเจ้าตัวจะยังทำได้ดีหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน

แบ็คขวา: ดิโอโก้ ดาโลต์ - กลับมาทำผลงานได้ดีแบบดื้อ ๆ ในเกมก่อนด้วยการหยุด หลุยส์ ดิอาซ ได้อย่างอยู่หมัด แต่ก็มาลุ้นกันว่าในการเติมเกมรุกในนัดนี้จะสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมได้บ้างหรือไม่

แบ็คซ้าย: ไทเรลล์ มาลาเซีย - เป็นอีกคนที่ได้รับโอกาสแล้วทำได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะความเร็วที่สามารถจัดการกับเกมรุกฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล ได้ดี แถมดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมีทีเด็ดในเกมรุกอยู่บ้าง ซึ่งเกมกับ นักบุญ น่าจะได้เห็นเขาเติมเกมรุกมากขึ้น

กองกลางตัวรับ: สกอตต์ แมคโทมิเนย์ - หลายคนคงหวังว่าทีมจะส่ง กาเซมิโร นักเตะใหม่ป้ายแดงลงสนาม แต่การที่เพิ่งจะบินมาซ้อมกับทีมได้ไม่ถึงสัปดาห์ คาดว่า เทา ฮาก จะยังไม่เสี่ยงส่งลงสนามและใช้งาน สกอตตี้ ที่ไล่ตัดเกมได้ดีในเกมก่อนลงประจำการเป็นตัวจริงไปก่อน

กองกลาง: คริสเตียน เอริคเซน - รับหน้าที่เป็นเพลย์เมคเกอร์ที่คอยวิ่งขึ้นวิ่งลงเพื่อมาลำเลียงบอลจากหน้าปากประตูตัวเองขึ้นไปข้างหน้า รวมถึงคอยช่วยประคองแดนกลางและตัดเกมกลางสนามในยามต้องเล่นเกมรับ

กองกลาง: บรูโน เฟร์นันเดส - จะทำหน้าที่ใกล้เคียงกับ เอริคเซน แต่อาจจะยืนสูงกว่าเล็กน้อย คอยต่อบอลประสานงานร่วมกับแดนกลางและแผงเกมรุก แต่ยังคงต้องถอยมาเล่นเกมรับและช่วยไล่บอลกลางสนามอีกแรง

ปีกขวา: เจดอน ซานโช - ทำประตูได้อย่างเยือกเย็นในเกมนัดก่อน พร้อมกับผลงานที่จัดว่าค่อนข้างโดดเด่น ซึ่งแน่นอนเจ้าตัวคาดว่าจะยังได้รับโอกาสต่อเนื่องในเกมนี้ในการสร้างสรรค์เกมรุกทางกราบขวาร่วมกับ ดาโลต์

ปีกซ้าย: มาร์คัส แรชฟอร์ด - เรียกได้ว่าลากเลื้อยกระจายในการฝ่าเกมรับของ หงส์แดง นัดก่อน แถมยังทำประตูได้อีกด้วย โดยเจ้าตัวมักจะสร้างความอันตรายได้เสมอหากมีพื้นที่ แต่.. กับ เซาแธมป์ตัน ที่น่าจะต่างออกไป ต้องมาลุ้นว่าเขาจะยังคงฟอร์มเก่งเอาไว้ได้เหมือนเกมที่ผ่านมาหรือไม่

กองหน้า: อ็องโตนี มาร์กซิยาล - หลายคนอาจจะเชียร์ให้ส่ง คริสเตียโน โรนัลโด้ ลงสนาม แต่บอกเลยว่าชั่วโมงนี้ต่อให้เพิ่งหายเจ็บ ดูเหมือนว่า มาร์ซิยาล จะมีความกระหายและทุ่มเทมากกว่าชัดเจน ดูได้จากเกมนัดก่อนที่ลงมาเป้นตัวสำรองแต่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่นและทำได้ 1 แอสซิสต์อีกด้วย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด