วิเคราะห์ ลิเวอร์พูล เกมพ่าย แมนยู 4-0 แดงเดือด ชำแหละทุกประเด็นสำคัญหลังเกมที่ ราชมังคลากีฬาสถาน - OPINION
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน: ฟุตบอลกระชับมิตร พรีซีซัน 2022/23
วันแข่งขัน: วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2022
เวลาแข่งขัน: 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ลิเวอร์พูล
สนาม: ราชมังคลากีฬาสถาน
1. คล็อปป์ ให้โอกาสทั่วถึง
32 นักเตะจากทั้งหมด 37 รายที่ ลิเวอร์พูล ขนมาโม่แข้งในช่วงพรีซีซัน เอเชีย ถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ หมุนเวียนใช้งานลงเล่นในเกมที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ทีมออกสตาร์ทด้วยเหล่าแข้งดาวรุ่งผสมกับกระดูกสันหลังอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์, โจ โกเมซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน และ หลุยส์ ดิอาซ ก่อนจะเปลี่ยนแข้งเอาท์ฟิลด์ยกชุดหลังเกมผ่านครึ่งชั่วโมง และ 1 ชั่วโมงตามลำดับ
แข้งชุดแรกที่ทำผลงานได้น่าพอใจที่สุดกลายเป็น หลุยส์ ดิอาซ ที่วูบวาบกราบซ้าย กระชากเลี้ยงจี้เล่นงาน อารอน-วาน บิสซาก้า ได้อย่างต่อเนื่องโดยมี ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไปกับบอลได้อย่างมั่นใจเกินอายุที่อีกฝั่ง
แข้งที่ทำผลงานได้เกินตัวอีกรายในชุดแรกเป็น ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ที่ทักษะการไปกับบอลของเจ้าตัวกลายเป็นอาวุธเด็ดของทีมที่แดนกลาง
แต่การที่ทีมชุดแรกเสีย 2 ประตูอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นจากความผิดพลาดและวินัยเกมรับก็ทำให้ทีมของ คล็อปป์ ต้องพบกับความยากลำบากในช่วงเวลาที่เหลือ
2. ทีมชุด 2 โดนอีกประตูอย่างรวดเร็ว
ให้หลังจากเปลี่ยนผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ 10 รายลงสู่สนามเมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมง หงส์แดง ก็เสียประตู 3-0 หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจจากการเสียบอลที่กลางสนามของ รีส วิลเลียมส์ ให้กับ อองโตนี มาร์กซิยาล ฉกไปล่อเป้า อลิสซอน เบ็คเกอร์ เหน่งๆ ก่อนเสียงนกหวีดจบครึ่งแรกของผู้ตัดสินจะกลายเป็นระฆังหมดยกต่อลมหายใจของ เร้ดแมชีน ในครึ่งหลัง
ทีมชุดดังกล่าวลงมาเล่นครึ่งหลังอีก 15 นาทีโดยมีเพียง อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ที่ดูพยายามไปกับบอล สร้างจังหวะให้เกิดขึ้นที่ริมเส้นฝั่งขวา แต่บอลสุดท้ายของเจ้าตัวไม่น่าพอใจเท่าใดนัก ขณะที่ บ็อบบี้ คลาร์ค เจ้าหนูวัย 17 ปีในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางกระตือรือล้นไล่บีบพื้นที่แนวรับ ปีศาจแดง ต่อเนื่อง แต่ความแข็งแกร่งของดาวรุ่งรายนี้ไม่อาจต่อกรกับคู่ปราการหลังที่แข็งแกร่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้
3. ดาร์วิน นูนเญซ เปิดตัวพร้อมกับอาวุธหนักทีมชุดที่ 3
เหล่าแข้งคีย์แมนถูก คล็อปป์ ส่งลงมาเมื่อเกมผ่าน 1 ชั่วโมง นำโดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้, นาบี เกอิต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ
เกมรุกของ หงส์แดง ดูดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเมื่อมี 2 ฟูลแบ็คอย่าง เทรนท์ และ ร็อบโบ้ ถูกส่งลงมาในสนาม ทั้งคู่เพิ่มศักยภาพในการขึ้นเกมที่ริมเส้นโดยมี เกอิต้า พลิกบอลสร้างจังหวะที่แดนกลางร่วมกับ ติอาโก้ อัลคันทารา
แม้จะเป็นเกมที่ โม ซาลาห์ ไม่ได้มีบทบาทกับเกมมากนักเมื่อเจ้าตัวเพิ่งกลับมาลงซ้อมกับทีมได้ไม่กี่วันแต่สตาร์ทีมชาติ อียิปต์ ก็ยังสามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ใกล้เคียงที่จะเป็นประตูให้เห็น
ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ แข้งใหม่ของทีมดูจะยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่บ้าง แต่ก็ได้แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีกับความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่ว โดดเด่นกับการสัมผัสบอลแรก เอาชนะในการเข้าปะทะให้เห็นต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าลูกครอสจากริมเส้นโดยมี นูนเญซ เป็นเป้าหมายจะกลายเป็นอาวุธใหม่ของ หงส์แดง ในซีซันนี้เมื่อเราได้เห็นความพยายามดังกล่าวในการประสานงานระหว่าง เทรนท์ กับเจ้าตัวต่อเนื่อง