จัดทีม 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดของ แมนแชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา - BEST XI

การันตีเป็นที่เรียบร้อยสำหรับแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ซึ่งก็ไม่มีการพลิกโผใด ๆ โดยเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ผงาดคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จหลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสองเปิดบ้านแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ทำให้จำนวนเกมที่เหลืออีก 3 นัด ไม่เพียงพอจะไล่ตามระยะห่างที่กว้างอยู่ถึง 10 คะแนน ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นแชมป์ลีกสูงสุดไปในทันทีหลังจากผ่านไป 35 นัด

ซึ่งนี่จะเป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์สโมสรของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเป็นสมัยที่ 3 ของ เป๊ป ถัดจากฤดูกาล 2018/19 และ 2017/18 วันนี้เราจึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านย้อนไปดูกันว่าตลอด 5 ปีที่นายใหญ่ชาวสเปนรายนี้เข้ามาทำหน้าที่กุนซือนั้น นักเตะที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่งที่เคยถูกเลือกใช้งานจะมีใครกันบ้าง และจะตรงใจแฟน ๆ เรือใบสีฟ้า แค่ไหน ลองไปชมกัน...

1. ผู้รักษาประตู - เอแดร์ซอน

นายทวารชาวบราซิลที่ย้ายจาก เบนฟิก้า เข้ามาร่วมทีมในปี 2017 หลังจากที่ปีแรก เป๊ป ประสบปัญหาไม่เจอนายทวารที่ถูกใจเพราะทั้ง โจ ฮาร์ท และ เคราดิโอ บราโบ ยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่หลังจากการมาของ เอแดร์ซอน ดูเหมือนว่า เรือใบสีฟ้า สามารถจบทุกปัญหาหลังบ้านมาได้จนถึงปัจจุบัน ด้วยสไตล์ที่ เป๊ป ชอบนั่นคือสามารถเล่นบอลกับเท้าได้ดี จ่ายบอลแม่นยำ ทำให้บ่อยครั้งเราจะเห็นเขาเป็นจุดเริ่มต้นมีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมทำได้อีกด้วย

2. เซ็นเตอร์แบ็ค - แว็งซองต์ กอมปานี

กองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยี่ยมค้าแข้งอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2008 แม้หลังจากการมาของ เป๊ป กอมปานี อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกอันดับหนึ่งในแผงหลัง แต่ต้องบอกว่าด้วยสปิริต ความดุดัน และความเป็นผู้นำ ทำให้เขาเป็นเซ็นเตอร์ที่ถูกมองว่าน่าเกรงขามเสมอ โดยโมเมนต์สำคัญของเจ้าตัวคือประตูชัยสั่งลาในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ส่งให้ เรือใบสีฟ้า เบียดเอาคว้าแชมป์เหนือ ลิเวอร์พูล ไปได้เพียง 1 คะแนนเท่านั้นในปี 2018/19

3. เซ็นเตอร์แบ็ค - รูเบน ดิอาส

ปราการหลังชาวโปรตุเกสวัย 23 เพิ่งจะย้ายมาร่วมทีม เรือใบสีฟ้า ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่ายุคของ เป๊ป มีกองหลังคุณภาพหลายคน ซึ่ง ดิอาส ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะจากผลงานของเขาในปีแรกจัดว่ายอดเยี่ยมจนสื่อหลายสำนักยกให้เป็นเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในอังกฤษ ณ เวลานี้เป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต้องมาลุ้นกันว่าที่สุดแล้วเจ้าตัวจะสามารถขึ้นมาผงาดพาทีมประสบความสำเร็จเหมือนที่ครั้งหนึ่ง ฟาน ไดจ์ค เคยทำกับ ลิเวอร์พูล มาแล้วได้หรือไม่

4. แบ็คขวา - ไคล์ วอล์คเกอร์

ปราการหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษ ย้ายมาร่วมทีมในปี 2017 ซึ่งในตอนนั้นเขาถูกหลายสื่อตั้งคำถามถึงฝีเท้าว่าดีพอจริงหรือ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา วอล์คเกอร์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะสมทั้งทักษะ ความเร็วความแข็งแกร่ง และการเข้าสะกัดอันดุดันแม่นยำ จนเคยถูกจับไปเป็นปราการหลังตัวกลางมาแล้ว ซึ่งเขาจัดว่าเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญในการพาทีมยกระดับขึ้นมาเป็นแถวหน้าของยุโรปได้ในปัจจุบัน

5. แบ็คซ้าย - โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้

ต้องบอกว่าตำแหน่งนี้เป็นอะไรที่เลือกยากสุด ๆ เพราะตลอดในยุคของ เป๊ป นั้น แบ็คซ้ายก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของทีมมาโดยตลอด แต่ถ้าต้องเลือกสักคนขอยกให้ ซินเชนโก้ กองกลางที่ผันตัวมาเป็นแบ็คสายเลือดยูเครนรายนี้ แม้ความสามารถโดยรวมจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนามเจ้าตัวดูจะมีความมุ่งมั่นและขยันวิ่งไล่บอลอย่างเอาเป็นเอาตายเสมอ ๆ ซึ่งนั่นพอจะทำประโยนช์ให้กับทีมได้นั่นเอง

6. กองกลาง - แฟร์นันดินโญ

ในด้านเกมรับต้องบอกเลยว่าจนถึงตอนนี้ ไม่มีกองกลางคนไหนในที่ทียอดเยี่ยมไปกว่าเขาคนนี้อีกแล้ว ถึงแม้ว่า โรดรี หรือ กุนโดกัน จะทำได้โดดเด่นกว่าในเกมรุก แต่สำหรับด้านการป้องกันนั้น แฟร์นันดินโญ จัดว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ถึงขนาดที่เคยถูก เป๊ป จับไปเป็นเซ็นเตอร์จำเป็นทั้งฤดูกาลมาแล้ว แม้ว่าอายุ่จะมากขึ้นแต่ผลงานของเขากลับไม่ตกต่ำลงเลย ยังคงเป็นเสาหลักที่ไว้ใจได้ในเกมรับให้กับทีมมาได้ดีมาจนถึงปัจจุบัน

7. กองกลาง - ดาวิด ซิลบา

ยอดมิดฟิลด์ตีนตะขอชาวสเปนรายนี้ ย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2010 และเพิ่งจะอำลาทีมไปเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา แน่นอนเขาคือหนึ่งในกำลังหลักของ เป๊ป ที่ได้รับความไว้วางใจให้คอยคุมจังหวะเกมแดนกลางมาโดยตลอด ด้วยทักษะการไปกับบอลอันยอดเยี่ยม แถมยังจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะยกให้เขาเป็นหนึ่งในตัวรุกที่ดีที่สุดตลอดกาลของ เรือใบสีฟ้า เลยก็ว่าได้

8. กองกลาง - เควิน เดอ บรอยน์

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของเพลย์เมคเกอร์หน้าเด็กชาวเบลเยี่ยมรายนี้ให้มากมาย เพราะปัจจุบันเขาก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยทักษะการจ่ายบอลอันมหัศจรรย์ชนิดที่แม่นยิ่งว่าหยิบไปวาง ทำให้เขาเป็นตัวหลักที่ เป๊ป มอบหมายให้ทำหน้าที่ใจกลางในเกมรุกของทีมนับตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่กุนซือเลยทีเดียว

9. กองหน้า - ลีรอย ซาเน

อันที่จริงแล้วตำแหน่งหองหน้าในยุคของ เป๊ป นั้น ฟอร์มโดดเด่นหลายต่อหลายคน แต่ถ้าให้เลือกคนที่ชอบ หนึ่งในนั้นคือ ซาเน ปีกชาวเยอรมันที่ย้ายจาก ชาลเก้ มาร่วมทีมในปี 2016 ซึ่งเขาโดดเด่นทั้งในด้านความเร็วไปกับบอลได้ดีแถมยังจ่ายบอลได้แม่นยำอีกด้วย น่าเสียดาดที่ปีสุดท้ายกับทีมเจ้าตัวถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก กระทั่งตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

10. กองหน้า - ราฮีม สเตอร์ลิง

แม้ว่าปัจจุบันผลงานจะดร็อปลงไป แต่ก่อนหน้านั้นเขาเคยถูกสื่ออังกฤษยกให้เป็นเบอร์ 3 ของโลกรองจาก เมสซี และ โรนัลโด้ เลยทีเดียว สเตอร์ลิง เรียกได้ว่าเป็นคนที่ เป๊ป จัดการปลุกปั้นให้กลายเป็นซุเปอร์สตาร์เลยก็ว่าได้ ด้วยผลงานการส่วนร่วมกับประตูมากกว่า 30 ลูกตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้แฟน ๆ เรือใบ คงต้องภาวนาให้หอกรายนี้กลับมาคืนฟอร์มเก่งเหมือนปีก่อน ๆ ได้ในเร็ววันเท่านั้น

11. กองหน้า - เซร์คิโอ อเกวโร

อกีคนที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นคือ "กุน" หัวหอกผู้เป็นตำนานของ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยผลงานการยิงประตูถล่มทลาย เช่นเดียวกับในยุคของ เป๊ป ที่ กองหน้าหมายเลข 10 รายนี้ ได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่เป็นตัวความหวังในแดนหน้ามาตลอด 5 ปีเต็ม กระทั่งมาถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักในปีนี้ แถมก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้าตัวจะอำลาทีมไปหลังจบซีซั่น จึงน่าสนใจว่านายใหญ่ชาวสเปนรายนี้ จะนำใครเข้ามาทดแทนการจากไปของเขา ผู้เป็นถึงตำนานของสโมสรรายนี้

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด