แมนฯ ซิตี้ 6-3- แมนฯ ยูไนเต็ด: วิเคราะห์ทุกประเด็นสำคัญหลัง เรือใบสีฟ้า ยำใหญ่ ปีศาจแดง

Manchester City v Manchester United - Premier League
Manchester City v Manchester United - Premier League / Michael Regan/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2022
ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม


1. คำถามถึงการดร็อป กาเซมิโร ไว้บนม้านั่งสำรอง

Casemiro, Erling Haaland
Manchester City v Manchester United - Premier League / Michael Regan/GettyImages

ดีกรีมิดฟิลด์ทีมชาติ บราซิล แชมป์ ยุโรป 5 สมัยไม่ได้ช่วยให้เจ้าตัวชนะใจ เอริค เทน ฮาก ในเกมนี้และทำได้เพียงมีชื่อบนม้านั่งสำรองในตอนต้น เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อนายใหญ่ ปีศาจแดง มีกองกลางตัวรับพันธุ์แท้ให้เลือกใช้งานในมือแต่เขากลับใช้งาน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ปักหลักโดยมี คริสเตียน เอริคเซน เคลื่อนที่เชื่อมบอล

แดนกลางของ เทน ฮาก ไม่อาจรับมือกับแข้งมหากาฬอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน ไปจนถึง เควิน เดอ บรอยน์ ได้แม้แต่น้อย ขณะที่แข้งความหวังอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส ที่แดนบนถูกตัดออกจากเกมเมื่อไม่ได้มีบอลในครอบครอง

ส่วนหมากการจับเอา กาเซมิโร ลงสนามนาทีที่ 59 เมื่อสกอร์ขาด 4-1 ไปเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อโมเมนตัมของเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

2. สกอร์ 4-0 ครึ่งแรกตัดสินเกม

Erling Braut Håland, Jack Grealish
Manchester City v Manchester United - Premier League / Visionhaus/GettyImages

ซิตี้ ออกสตาร์ทอย่างดุดันโดยออกนำ 1-0 จากประตูของ ฟิล โฟเด้น ตั้งแต่นาทีที่ 8 ตามด้วยการสังเวยใบเหลืองของแบ็คทั้ง 2 ข้าง ดิโอโก้ ดาโลต์ นาทีที่ 2 กับ ไทเรลล์ มาลาเซีย นาทีที่ 23 ทำให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากสุดๆ

เมื่อเกมรับที่ริมเส้นถูกบังคับไม่ให้สามารถตัดเกมหนักได้อีกต่อไป เจ้าถิ่นจึงใช้โอกาสดังกล่าวนวดเข้าใส่จนสกอร์กลายเป็น 4-0 ตั้งแต่เกมครึ่งแรกยังไม่สะเด็ดน้ำจากความยอดเยี่ยมของ เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น และ เออร์ลิง ฮาลันด์

เอาเข้าจริง สกอร์ 4-0 ในครึ่งแรกดูจะน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับโอกาสทั้งหมดที่ เรือใบสีฟ้า สร้างได้ 15 ครั้งกับสถิติยิงตรงกรอบ 7 ครั้งใน 45 นาทีแรก

3. ตัวบั๊ก เออร์ลิง ฮาลันด์

Erling Haaland
Manchester City v Manchester United - Premier League / Michael Regan/GettyImages

3 ประตูจากการสับไกยิง 6 ครั้ง และ 2 แอสซิสต์จาก 4 คีย์พาสคือสถิติของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ใน 90 นาทีที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

นี่คืออีกหนึ่งแข้งที่จะจารึกชื่อเป็นตำนานในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ต่อจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี อย่างไม่ต้องสงสัย เขากลายเป็นกองหน้าระดับปีศาจที่มีเพียงนับวันถอยหลังจ่อทำลายสถิติในอนาคต

ความแข็งแกร่งของ ฮาลันด์ ยากจะรับมือ เมื่อรวมเข้ากับความคล่องแคล่วรวดเร็ว จมูกในการเคลื่อนที่หาพื้นที่อันตราย ทักษะในการเล่นลูกกลางอากาศ และการจบสกอร์ชนิดตีนระเบิดยิ่งทำให้เขาเป็นดาวยิงที่สมบูรณ์แบบในฟุตบอลทุกวันนี้

4. โฟเด้น แฮตทริคฮีโร่อีกราย

Phil Foden
Manchester City v Manchester United - Premier League / Visionhaus/GettyImages

นอกจาก ฮาลันด์ ที่มีชื่อเป็นพระเอกอยู่บนพาดหัวจากแฮตทริคของเจ้าตัวในเกมนี้ ฟิล โฟเด้น เป็นอีกรายที่มีชื่อทำ 3 ประตูในเกมนี้เช่นเดียวกัน นับเป็นแฮตทริคแรกของเจ้าตัวในเส้นทางการค้าแข้งอีกด้วย

3 ประตูในเกมนี้ของ โฟเด้น (22 ปี 127 วัน) ทำให้เขาก้าวข้ามสถิติการพังประตูของ ลิโอเนล เมสซี (22 ปี 164 วัน) กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุ ที่ซัลโวแตะหลัก 50 ประตูอีกด้วย

5. ระยะห่างของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับทีมชั้นนำ

FBL-ENG-PR-MAN CITY-MAN UTD
FBL-ENG-PR-MAN CITY-MAN UTD / LINDSEY PARNABY/GettyImages

เป็นอีกเกมที่สาวก เร้ดเดวิลส์ ถูกปลุกให้ตื่นจากความฝันสู่ความจริงว่าระยะห่างระหว่างพวกเขากับท็อปทีมในลีกต่างชั้นกันมากเพียงใด ทั้งศักยภาพของนักเตะไปจนถึงรูปแบบการเล่น

เม็ดเงินกว่า 200 ล้านปอนด์ที่ ปีศาจแดง ถลุงในช่วงตลาดซัมเมอร์แลกกับการได้มาของนักเตะอย่าง อันโตนี, กาเซมิโร, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย (รวมกับ มาร์ติน ดูบราฟก้า ในสัญญายืมตัว และ คริสเตียน เอริคเซน แบบฟรีเอเยนต์) ที่แม้จะแสดงสัญญาณที่ดีอยู่บ้างในเกมก่อนหน้านี้ แต่ทั้งหมดยังไม่เพียงพอที่จะก้าวขึ้นไปท้าชนกับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ แต่อย่างใด