แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เชลซี: บทสรุปทุกความเป็นไปหลังศึก เอฟเอ คัพ

Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Third Round
Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Third Round / Alex Livesey/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2023
สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เชลซี


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฉลุยสู่รอบ 4 ของศึก เอฟเอ คัพ 2022/23 เมื่อเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ถล่มเอาชนะ เชลซี ขาดลอย 4-0 จากประตูของ ริยาด มาห์เรซ (2 ประตู), ฆูเลียน อัลบาเรซ และ ฟิล โฟเด้น

แมนฯ ซิตี้ ออกสตาร์ทด้วยการได้ประตูเบิกร่อง 1-0 ในนาทีที่ 23 จากลูกฟรีคิกระยะราว 25 หลาเยื้องมาทางฝั่งซ้ายเล็กน้อย มาห์เรซ รับหน้าที่สังหารปั่นโค้งด้วยซ้าย บอลลอยข้ามกำแพงก่อนมุดลงไปซุกที่ก้นตาข่ายหมดจดชนิด เคปา อาร์ริซาบาลากา พุ่งสุดตัวแต่ไม่ถึงบอล

เจ้าถิ่นทิ้งห่างเป็น 2-0 นาทีที่ 30 เมื่อบอลจากลูกเตะมุมของ ฟิล โฟเด้น ไปถูกแขนของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินพิจารณาจาก วีเออาร์ ข้างสนามก่อนเป่าให้เป็นลูกจุดโทษของ ซิตี้ ทันทีโดย อัลบาเรซ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

เกมขาดเป็น 3-0 อีก 8 นาทีให้หลังจากจังหวะตั้งต้นขึ้นเกมที่กราบซ้าย โรดรี เปิดบอลทแยงมุมไปถึง มาห์เรซ ริมเขตโทษอีกฝั่งก่อนแทงให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ทะยานเติมขึ้นมารับบอลสุดเส้นหลังก่อนเปิดบอลตัดหลังให้ โฟเด้น แท็ปอินจังหวะแรกในกรอบ 6 หลา

ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาได้ประตูปิดท้ายเป็น 4-0 ช่วงท้ายเกมเมื่อ คาลิดู คูลิบาลี ทำฟาวล์ โฟเด้น ในเขตโทษ โดย มาห์เรซ รับหน้าที่สังหารตุงตาข่าย


คะแนนนักเตะ แมนฯ ซิตี้

Riyad Mahrez, Bernardo Silva, Sergio Gomez, Kyle Walker
Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Third Round / Marc Atkins/GettyImages

11 ผู้เล่นตัวจริง: ออร์เตก้า (6/10); วอล์คเกอร์ (7/10), อคานยี (6/10), ลาปอร์กต์ (7/10), โกเมซ (6/10); โรดรี (7/10),​ แบร์นาร์โด้ (6/10), โฟเด้น (7/10); มาห์เรซ (8/10), พาลเมอร์ (6/10), อัลบาเรซ (6/10)

ผู้เล่นสำรอง: ฟิลลิปส์ (โรดรี 58' 6/10), คันเซโล (โกเมซ 59' 6/10), ลูอิส (แบร์นาร์โด้ 86' N/A)


คะแนนนักเตะ เชลซี

Conor Gallagher
Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Third Round / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

11 ผู้เล่นตัวจริง: อาร์ริซาบาลากา (5/10); ชาโลบาห์ (5/10), ฮัมฟรีส์ (5/10), คูลิบาลี (4/10); ฮอลล์ (6/10), จอร์จินโญ (5/10), โควาชิช (5/10), กัลลาเกอร์ (6/10); ซิเย็ค (5/10), เมาท์ (5/10), ฮาแวร์ตซ์​ (4/10)

ผู้เล่นสำรอง: โฟฟานา (ฮาแวร์ตซ์ 46' 6/10), ซาคาเรีย (โควาชิช 46' 6/10), อัซปิลิกวยต้า (จอร์จินโญ 63' 6/10), ฮัทชิสัน (ซิเย็ค 63' 6/10), ชุควูเมก้า (เมาท์ 73' 6/10)


คีย์แมน - ริยาด มาห์เรซ

Riyad Mahrez
Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Third Round / Naomi Baker/GettyImages

ดาวเตะทีมชาติ อัลจีเรีย พังประตูเบิกร่องจากการตะบันลูกฟรีคิกสุดงาม สร้างโมเมนตัมให้กับ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่ราวกลางครึ่งแรก ริยาด มาห์เรซ ยังสามารถสร้างโอกาสให้กับทีมจากการสร้างสรรค์เกมรุกจากริมเส้นฝั่งขวา ตัดเข้าในได้ต่อเนื่อง มีส่วนร่วมกับการได้ประตู 3-0 ทำ second assist ให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ หลุดเข้าไปถวายพานถึง โฟเด้น ก่อนเจ้าตัวจะส่งท้ายด้วยการสังหารลูกจุดโทษในครึ่งหลัง


ประเด็นหลังเกม
แมนฯ ซิตี้ 4-0 เชลซี

FBL-ENG-FACUP-MAN CITY-CHELSEA
FBL-ENG-FACUP-MAN CITY-CHELSEA / OLI SCARFF/GettyImages

เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เข้าทางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ครึ่งแรก ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ครองเกมอย่างเบ็ดเสร็จขโยกเข้าทำชนิดที่ เชลซี ไม่สามารถสร้างโอกาสได้แม้สักครั้งเดียวใน 45 นาทีแรก ขณะที่สกอร์ 3-0 โดย มาห์เรซ, อัลบาเรซ และ โฟเด้น แทบจะปิดประตูในการคัมแบ็คของทัพ สิงห์บลู

ขณะที่ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์กดดันอย่างหนักจากผลงานในช่วงหลังเมื่อจบศึก ฟุตบอลโลก (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2) เจ้าตัวถูกดันให้กลายเป็นผู้จัดการทีมเต็ง 2 ที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ของ เอฟเวอร์ตัน