แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ลิเวอร์พูล: เก็บตกทุกความเป็นไปหลัง เรือใบสีฟ้า เขี่ย หงส์แดง ร่วง คาราบาว คัพ

รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันพฤหัสบดีที่ที่ 22 ธันวาคม 2022
ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ลิเวอร์พูล
สนาม: เอติฮัด สเตเดียม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรุยทางสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึก คาราบาว คัพ เมื่อพวกเขาเข่นเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 จากประตูชัยของ นาธาน อาเก้ ในครึ่งหลัง

เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นฝ่าย เรือใบสีฟ้า ที่ออกสตาร์ทด้วยการได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 10 เมื่อบอลจากเกมรุกที่ริมเส้นฝั่งซ้ายของ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ โฉบตัดหน้า โจ โกเมซ ทะยานยิงด้วยซ้ายจังหวะแรกผ่ายมือ ควิวีน เคลเลเออร์ ไปซุกที่ก้นตาข่าย

หงส์แดง ตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยตามตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 20 จากการขึ้นเกมที่ริมเส้นฝั่งขวา บอลทะลุไปถึง เจมส์ มิลเนอร์ พลิกบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนผ่านเลียดเข้ากลางให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ยิงจังหวะแรกเป็นประตูและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลังเป็นพลพรรค ซิตีเซนส์ ที่ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 46 ด้วยบอลทแยงมุมของ โรดรี ไปถึง ริยาด มาห์เรซ ในกรอบเขตโทษแตะเข้าซ้ายข้างถนัดก่อนปั่นบอลเสียบมุมหมดจด แต่ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ตอบโต้อย่างรวดเร็วตามตีเสมอเป็น 2-2 จากเกมสวนกลับ ดาร์วิน นูนเญซ พาบอลทะยานกระชากขึ้นไปที่กราบซ้ายเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนผ่านให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แท็ปอินสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ

แต่แล้ว 10 นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูชัยจากจังหวะลูกเตะมุมเล่นสั้น เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากบริเวณริมกรอบเขตโทษไปที่เสาสองให้ อาเก้ โหม่งเหน่งๆ เป็นลูก 3-2

คะแนนนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

11 ผู้เล่นตัวจริง: ออร์เตก้า (6/10); ลูอิส (8/10), อคานยี (6/10), ลาปอร์กต์ (6/10), อาเก้ (7/10); กุนโดกัน (6/10), โรดรี (8/10), เดอ บรอยน์ (9/10); มาห์เรซ (8/10), ฮาลันด์ (7/10), พาลเมอร์ (7/10)

ผู้เล่นสำรอง: สโตนส์ (6/10), กรีลิข (7/10), โฟเด้น (6/10)

คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล

11 ผู้เล่นตัวจริง: เคลเลเฮอร์ (7/10); มิลเนอร์ (6/10), โกเมซ (5/10), มาติป (7/10), โรเบิร์ตสัน (6/10); บายเซติช (6/10), ติอาโก้ (7/10), เอลเลียตต์ (6/10); ซาลาห์ (7/10), นูนเญซ (6/10), คาร์วัลโญ (6/10)

ผู้เล่นสำรอง: ฟิลลิปส์ (6/10), ฟาบินโญ (6/10), อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (7/10), เฮนเดอร์สัน (7/10)

คีย์แมน - เควิน เดอ บรอยน์

มิดฟิลด์ทีมชาติ เบลเยียม ยังคงฉมังในการผ่านบอลชนิดเชื่อขนมกินได้กับการงัด 2 แอสซิสต์ เปิดบอลด้วยซ้ายจากริมเส้นให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ พังประตูเบิกร่องตั้งแต่นาทีที่ 10 ตามด้วยครอสจากริมกรอบเขตโทษให้ นาธาน อาเก้ โหม่งประตูชัยนาทีที่ 58

ขณะที่ ลิเวอร์พูล น่าจะเก็บผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้ได้หาก ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลืองกับการจบสกอร์หลุดกรอบชนิดไม่ได้ลุ้น 4 ครั้ง (มากที่สุดในสนามเทียบเท่า โคล พาลเมอร์)

ประเด็นหลังเกม แมนฯ ซิตี้ - ลิเวอร์พูล

สัญญาณฟุตบอลสโมสรกลับมาฟาดแข้ง - บรรยากาศที่คุ้นเคยในเกมระดับสโมสรกลับมาอีกครั้งกับเกมระหว่างบิ๊กทีมทั้ง ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ท่ามกลางความกังวลถึงโปรแกรมชุกต่อเนื่องในช่วงปีใหม่หลังเหล่าแข้งดังเพิ่งกรำศึก ฟุตบอลโลก ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา เดิมพันของ คาราบาว คัพ อาจไม่ได้สูงนักเมื่อไม่ได้ชิง 3 คะแนนเหมือนเกมลีกเป็นเดิมพัน และไม่ได้ขลังเหมือนกับฟุตบอลถ้วยใหญ่อย่าง เอฟเอ คัพ แมตช์นี้จึงราวกับเป็นเกมพรีซีซันเคาะสนิมของพวกเขาทั้งคู่ เห็นได้ชัดจากการจัดทีมชุดผสมลงเล่นของทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ เยอร์เก้น คล็อปป์

วัน นูนเญซ ผีออก - โอกาสทองจากการสับไกยิง 4 ครั้งเน้นๆ ของ ดาร์วิน นูนเญซ ในบทบาทหัวหอกตัวเป้าเกมนี้ไม่อาจหวังผลได้เลยแม้แต่นิดเดียว บอลจากเท้าของดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ ผิดเหลี่ยมหลุดกรอบ ชนิดที่เหล่า เดอะค็อป ต้องกุมขมับ และนั่นส่งผลถึงผลลัพธ์ในการแข่งขันที่ทำให้ เร้ดแมชีน ปราชัยตกรอบไปในที่สุด