เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในบทบาทมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ - OPINION
โดย โตมร นวลประเสริฐ
แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทีมชาติอังกฤษ ได้ทดลองจับเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แข้งสังกัด สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลงประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์เกมที่ทัพ สิงโตคำราม เอาชนะ อันดอร์รา 4-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เซาธ์เกต จับ เทรนท์ บู๊ที่แดนกลางเคียงข้างกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่กลางสนามสนับสนุน 3 ประสานที่แดนหน้าได้แก่ เจสซี ลินการ์ด, แพทริค แบมฟอร์ด และ บูคาโย ซาก้า ในครึ่งเวลาแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาตามถนัดใน 45 นาทีหลัง
ก่อนหน้านี้แบ็คขวาจากค่าย หงส์แดง เคยถูกกูรูหลายสำนักนำทักษะการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูไปเทียบกับจอมทัพระดับเวิลด์คลาสอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยบทบาทที่แดนกลางของ TAA ยังเป็นหน้าที่ของเขาเมื่อยังเล่นให้กับทีมเยาวชนของ เร้ดแมชีน ในอดีต
90 นาทีของ เทรนท์ กับเกม อันดอร์รา
อดัม เบท กูรู สกายสปอตส์ วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า บทบาทแบ็คขวาของ เทรนท์ กับ ลิเวอร์พูล ที่เน้นการขึ้นเกมที่ริมเส้นทำให้รีดเค้นศักยภาพของเจ้าตัวไปอีกขั้นโดยเฉพาะหน้าที่ในการผ่านบอลสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู และการประคองเกมเพื่อรอโอกาสเข้าทำ สถิติค่าเฉลี่ยการสัมผัสบอลของ เทรนท์ เมื่อฤดูกาล 2020/21 มากที่สุดเป็นอันดัน 1 ในทีม ลิเวอร์พูล ที่ 101.4 ครั้งต่อ 90 นาที (ติอาโก้ อัลคันทารา 98.8 ครั้ง, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน 97.9 ครั้ง)
การจับ เทรนท์ ลงเล่นในแดนกลางโดย เซาธ์เกต เมื่อดวลกับทีมสมันน้อยอย่าง อันดอร์รา จึงเห็นเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการขยับเอาเจ้าตัวขึ้นไปมีส่วนร่วมกับเกมในพื้นที่ใกล้ประตูของฝั่งตรงข้ามให้มากยิ่งขึ้น รีดจุดเด่นในการผ่านบอลของเขาเพื่อสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมในเกมรุก
แต่ 10 นาทีแรกของเกมที่ เวมบลีย์ สำหรับ เทรนท์ ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เจ้าตัวสัมผัสบอลไปเพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นการทุ่มบอลจากเส้นข้างสนาม ขณะที่การสัมผัสบอลทั้งหมด 45 นาทีแรกของเขาอยู่ที่ 33 ครั้ง น้อยกว่า รีซ เจมส์ (52 ครั้ง) ในตำแหน่งแบ็คขวาเกมนี้
การเคลื่อนที่ของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในครึ่งแรกเป็นการฉีกจากกลางสนามรับบอลที่บริเวณริมเส้นฝั่งขวา รวมไปถึงการทะยานขึ้นไปครอสที่สุดเส้นหลัง และเติมเข้าไปลุ้นทำประตูในกรอบเขตโทษในบางครั้ง ซึ่งโดยรวมดูเจ้าตัวจะอึดอัดเมื่อถูกกลุ่มแนวรับของ อันดอร์รา รุมปิดพื้นที่
ขณะที่ 45 นาทีหลัง TAA ถูกขยับไปเล่นแทน รีซ เจมส์ ในบทบาทฟูลแบ็คฝั่งขวา โดยที่กองหลังจาก เชลซี ขยับขึ้นมาประจำการในแดนกลางแทนที่ และกลายเป็น เทรนท์ ที่หวือหวากราบขวาอย่างที่เราคุ้นตาในสีเสื้อ หงส์แดง เจ้าตัวเกือบได้แอสซิสต์ในช่วงท้ายเกมหาก เจสซี ลินการ์ด ทำแฮตทริคสำเร็จด้วยซ้ำ
ทัศนะของ เซาธ์เกต
หลัง 90 นาทีที่ เวมบลีย์ เซาธ์เกต ดูจะพอใจในระดับหนึ่งกับการทดลองบทบาทของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมระบุว่า "สิ่งที่ชัดเจนในครึ่งแรกคือเราไม่ได้มีพื้นที่ให้เล่นมากนัก การถูกจับลงเล่นเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าวกับตำแหน่งที่คุณไม่ได้เคยชินนั้นเป็นการยาก ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกว่าเราสูญเสียอะไรไปแต่อย่างใด"
บทบาทของ เทรนท์ ในอนาคต
ในถิ่น แอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้เมื่อทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เรียกใช้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์วัย 18 ปีที่แดนกลาง เจ้าหนูชาว อังกฤษ มักทะยานขึ้นไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ที่กราบขวาบ่อยครั้งเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หุบไปลุ้นทำประตูในเขตโทษ ขณะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มักเคลื่อนที่ขึ้นแทนตำแหน่งของ เอลเลียตต์ ที่กลางสนามอยู่บ่อยครั้งเมื่อทีมอยู่ระหว่างการครอบครองบอล
ในระยะสั้น นั่นจะทำให้ เทรนท์ มีพัฒนาการในการเล่นที่แดนกลางโดยอัตโนมัติ แต่กับทีม ลิเวอร์พูล ที่สัดส่วนการแอสซิสต์จำนวนมากของทีมมาจาก TAA ที่ตำแหน่งแบ็คขวาก็เป็นการยากที่จะทำให้กลายเป็นจอมทัพในแดนกลางที่ แอนฟิลด์
แต่กับทีมชาติอังกฤษ ก็ยังถือว่าน่าสนใจไม่น้อยหากเขาคุ้นเคยกับบทบาทนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คขวาชั้นนำให้เลือกจำนวนมาก
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด