เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในบทบาทมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ - OPINION

England v Andorra: 2022 FIFA World Cup Qualifier
England v Andorra: 2022 FIFA World Cup Qualifier / James Williamson - AMA/Getty Images
facebooktwitterreddit

แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทีมชาติอังกฤษ ได้ทดลองจับเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แข้งสังกัด สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลงประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์เกมที่ทัพ สิงโตคำราม เอาชนะ อันดอร์รา 4-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เซาธ์เกต จับ เทรนท์ บู๊ที่แดนกลางเคียงข้างกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่กลางสนามสนับสนุน 3 ประสานที่แดนหน้าได้แก่ เจสซี ลินการ์ด, แพทริค แบมฟอร์ด และ บูคาโย ซาก้า ในครึ่งเวลาแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาตามถนัดใน 45 นาทีหลัง

ก่อนหน้านี้แบ็คขวาจากค่าย หงส์แดง เคยถูกกูรูหลายสำนักนำทักษะการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูไปเทียบกับจอมทัพระดับเวิลด์คลาสอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยบทบาทที่แดนกลางของ TAA ยังเป็นหน้าที่ของเขาเมื่อยังเล่นให้กับทีมเยาวชนของ เร้ดแมชีน ในอดีต

Trent Alexander-Arnold, Max Llovera
England v Andorra: 2022 FIFA World Cup Qualifier / Shaun Botterill/Getty Images

90 นาทีของ เทรนท์ กับเกม อันดอร์รา

อดัม เบท กูรู สกายสปอตส์ วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า บทบาทแบ็คขวาของ เทรนท์ กับ ลิเวอร์พูล ที่เน้นการขึ้นเกมที่ริมเส้นทำให้รีดเค้นศักยภาพของเจ้าตัวไปอีกขั้นโดยเฉพาะหน้าที่ในการผ่านบอลสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู และการประคองเกมเพื่อรอโอกาสเข้าทำ สถิติค่าเฉลี่ยการสัมผัสบอลของ เทรนท์ เมื่อฤดูกาล 2020/21 มากที่สุดเป็นอันดัน 1 ในทีม ลิเวอร์พูล ที่ 101.4 ครั้งต่อ 90 นาที (ติอาโก้ อัลคันทารา 98.8 ครั้ง, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน 97.9 ครั้ง)

การจับ เทรนท์ ลงเล่นในแดนกลางโดย เซาธ์เกต เมื่อดวลกับทีมสมันน้อยอย่าง อันดอร์รา จึงเห็นเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการขยับเอาเจ้าตัวขึ้นไปมีส่วนร่วมกับเกมในพื้นที่ใกล้ประตูของฝั่งตรงข้ามให้มากยิ่งขึ้น รีดจุดเด่นในการผ่านบอลของเขาเพื่อสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมในเกมรุก

แต่ 10 นาทีแรกของเกมที่ เวมบลีย์ สำหรับ เทรนท์ ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เจ้าตัวสัมผัสบอลไปเพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นการทุ่มบอลจากเส้นข้างสนาม ขณะที่การสัมผัสบอลทั้งหมด 45 นาทีแรกของเขาอยู่ที่ 33 ครั้ง น้อยกว่า รีซ เจมส์ (52 ครั้ง) ในตำแหน่งแบ็คขวาเกมนี้

การเคลื่อนที่ของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในครึ่งแรกเป็นการฉีกจากกลางสนามรับบอลที่บริเวณริมเส้นฝั่งขวา รวมไปถึงการทะยานขึ้นไปครอสที่สุดเส้นหลัง และเติมเข้าไปลุ้นทำประตูในกรอบเขตโทษในบางครั้ง ซึ่งโดยรวมดูเจ้าตัวจะอึดอัดเมื่อถูกกลุ่มแนวรับของ อันดอร์รา รุมปิดพื้นที่

ขณะที่ 45 นาทีหลัง TAA ถูกขยับไปเล่นแทน รีซ เจมส์ ในบทบาทฟูลแบ็คฝั่งขวา โดยที่กองหลังจาก เชลซี ขยับขึ้นมาประจำการในแดนกลางแทนที่ และกลายเป็น เทรนท์ ที่หวือหวากราบขวาอย่างที่เราคุ้นตาในสีเสื้อ หงส์แดง เจ้าตัวเกือบได้แอสซิสต์ในช่วงท้ายเกมหาก เจสซี ลินการ์ด ทำแฮตทริคสำเร็จด้วยซ้ำ

FBL-WC-2022-EUR-QUALIFIERS-ENG-AND
FBL-WC-2022-EUR-QUALIFIERS-ENG-AND / JUSTIN TALLIS/Getty Images

ทัศนะของ เซาธ์เกต

หลัง 90 นาทีที่ เวมบลีย์ เซาธ์เกต ดูจะพอใจในระดับหนึ่งกับการทดลองบทบาทของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมระบุว่า "สิ่งที่ชัดเจนในครึ่งแรกคือเราไม่ได้มีพื้นที่ให้เล่นมากนัก การถูกจับลงเล่นเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าวกับตำแหน่งที่คุณไม่ได้เคยชินนั้นเป็นการยาก ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกว่าเราสูญเสียอะไรไปแต่อย่างใด"

บทบาทของ เทรนท์ ในอนาคต

ในถิ่น แอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้เมื่อทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เรียกใช้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์วัย 18 ปีที่แดนกลาง เจ้าหนูชาว อังกฤษ มักทะยานขึ้นไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ที่กราบขวาบ่อยครั้งเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หุบไปลุ้นทำประตูในเขตโทษ ขณะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มักเคลื่อนที่ขึ้นแทนตำแหน่งของ เอลเลียตต์ ที่กลางสนามอยู่บ่อยครั้งเมื่อทีมอยู่ระหว่างการครอบครองบอล

ในระยะสั้น นั่นจะทำให้ เทรนท์ มีพัฒนาการในการเล่นที่แดนกลางโดยอัตโนมัติ แต่กับทีม ลิเวอร์พูล ที่สัดส่วนการแอสซิสต์จำนวนมากของทีมมาจาก TAA ที่ตำแหน่งแบ็คขวาก็เป็นการยากที่จะทำให้กลายเป็นจอมทัพในแดนกลางที่ แอนฟิลด์

แต่กับทีมชาติอังกฤษ ก็ยังถือว่าน่าสนใจไม่น้อยหากเขาคุ้นเคยกับบทบาทนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คขวาชั้นนำให้เลือกจำนวนมาก


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด