ดิโอโก้ โชต้า จรดปากกาขยายสัญญาอยู่โยง ลิเวอร์พูล - OFFICIAL!

Liverpool v Wolverhampton Wanderers - Premier League
Liverpool v Wolverhampton Wanderers - Premier League / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages
facebooktwitterreddit

ดิโอโก้ โชต้า บรรลุข้อตกลงจรดปากกาตอบรับการขยายสัญญาอยู่โยง สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไปจนถึงปี 2027 อย่างเป็นทางการ

โชต้า ตะบันประตูให้กับ เร้ดแมชีน ทั้งสิ้น 21 ประตูกับ 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 55 นัดเมื่อรวมทุกรายการในฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ และทะลุเข้าชิงชนะเลิศรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนในถิ่น แอนฟิลด์ ได้ทันทีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อซัมเมอร์ 2020 ภายใต้มูลค่าราว 40 ล้านปอนด์ กลายเป็นจิ๊กซอว์แรกเติมเต็ม 3 ประสานในแนวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน

"ยังไงดีล่ะ ผมคงต้องบอกว่าภูมิใจเป็นอย่างมาก" โชต้า กล่าวเปิดอกกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางของ ลิเวอร์พูล หลังจรดปากกา "เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ผมย้ายมาร่วมทีมเมื่อ 2 ปีก่อน ผมสามารถทำผลงานเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญของทีมได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการตั้งแต่แรก"

"ตอนนี้เมื่อผมได้จรดปากกาในสัญญาระยะยาวเรียบร้อย เป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าสโมสรเชื่อมั่นในตัวผมระยะยาว มันเป็นหลักประกันว่าผมจะค้าแข้งอยู่ที่นี่ในระยะยาว ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มฤดูกาลใหม่ เรามาลุ้นไปด้วยกัน"

ทั้งนี้ โชต้า ยังคงอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงซึ่งกำเริบระหว่างทัวร์พรีซีซันที่ กรุงเทพฯ ทำให้เจ้าตัวต้องพลาดการลงสนามเคาะสนิมก่อนเปิดฤดูกาลไปจนถึงแมตช์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะพลาดการลงสนามเกมเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก นัดแรกของฤดูกาลกับ ฟูแลม สุดสัปดาห์นี้

"โชคร้ายที่ผมมีช่วงเวลาไม่น่าพอใจในช่วงพรีซีซันนักเพราะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บตั้งแต่เล่นให้กับ โปรตุเกส ผมกลับมาเจ็บที่เดิมอีกครั้งและทำให้ยังต้องพักอีกสัก 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย"

"เมื่อเราได้ต่อสู้สำหรับทุกอย่างแบบที่เราเคยทำเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เราอยากที่จะทำเหมือนเดิมอีกครั้งเพราะตระหนักดีว่ามันสามารถเป็นไปได้ แรงผลักดันนั้นยังคงอยู่กับผมและผมรู้ดีว่าทั้งเพื่อนร่วมทีม สต๊าฟฟ์โค้ช ทุกคนจะต่อสู้เพื่อถ้วยแชมป์ที่อยู่ข้างหน้า"