วิเคราะห์ความเป็นไปแบบ "หมัดต่อหมัด" ก่อนเกม พรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมทช์ : ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 03.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : ลิเวอร์พูล พบ เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1

1. ปัญหาหลังบ้านบาดเจ็บ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญของ หงส์แดง

อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ณ ปัจจุบัน ประสบปัญหาตัวรับบาดเจ็บกันเป็นว่าเล่นชนิดที่เหมือนมันจะสามารถติดต่อกันได้ ทั้ง โกเมซ ฟาน ไดจ์ค มาติป หรือแม้แต่กองหลังจำเป็นอย่าง ฟาบินโญ และ เฮนเดอร์สัน ก็ยังไม่เว้น ซึ่งมันก็ปฏิเสธได้ยากว่าสาเหตุสำคัญหนึ่งที่ทำให้ทีมผลงานย่ำแย่ในตอนนี้ก็คือปัญหาหลังบ้านบาดเจ็บนี่เอง แม้ว่าเกมล่าสุดพวกเขาจะใช้ 2 ดาวรุ่งอย่าง โอซาน คาบัค จับคู่กับ แนท ฟิลลิปส์ แล้วสามารถเก็บคลีนชีทเอาไว้ได้ แต่การต้องเจอกับ เชลซี ย่อมต่างกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยอย่างแน่นอน ซึ่ง คล็อปป์ ก็ทราบตรงนี้ดี น่าสนใจว่านายใหญ่จอมแทคติครายนี้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไง จะไว้ใจ 2 หนุ่มให้ลงสนามต่อ หรือจะปรับเปลี่ยนให้ใครมาประจำตำแหน่งแทน คงต้องมาลุ้นกันคืนนี้

2. ทูเคิล สร้างกำแพงหินผาให้ สิงห์บลู

รู้หรือไม่ว่าตลอด 9 นัดที่ผ่านมา มีนักเตะเพียงคนเดียวที่สามารถเจาะตาข่ายของ เชลซี ในยุคของ โธมัส ทูเคิล ได้ นั่นคือ ทาคุมิ มินามิโนะ แข้งส่วนเกินของ หงส์แดง ในเกมที่เสมอกับ เซาแธมป์ตัน ไป 1-1 เพียงคนเดียวเท่านั้น ! อันที่จริงพวกเขาเสียไปทั้งหมด 2 ประตู แต่อีกหนึ่งลูกมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างกับในยุคของ แลมพาร์ด อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่แนวรับก็เป็นชุดเดียวกัน

โดย ทูเคิล ปรับมายืนหลัง 3 โดยมี อัซปิลิกวยต้า กับ รือดิเกอร์ เป็นตัวสกรีนและใช้ คริสเตนเซน ที่ทำหน้าที่แทน ติอาโก ซิลวา เป็นตัวเก็บกวาดด่านสุดท้าย แถมยังมีวิงแบ็ค 2 ฝั่งคอยลงมาประคองเกมพร้อมกับกองกลาง 2 ตัวค่อยช่วยตัดบอลก่อนมาถึงแดนหลัง ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มมาถูกทางแล้ว ต้องมาดูกันว่า โม ซาลาห์ ที่มีดีกรีถึงดาวยิงสูงสุดในลีก ณ ตอนนี้ จะสามารถเบิกสกอร์ สิงห์ไฮโซ เหมือนที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง มินามิโนะ ทำได้หรือไม่

3. สถิติที่น่าสนใจต่าง ๆ แบบ "หมัดต่อหมัด" ในฤดูกาลนี้

เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : ลิเวอร์พูล - 47 / เชลซี - 41
ได้จากจุดโทษ : ลิเวอร์พูล - 6 / เชลซี - 6
ยิงได้จากในกรอบ : ลิเวอร์พูล -44 / เชลซี - 38
ยิงได้จากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / เชลซี - 3
ยิงได้จากลูกโหม่ง : ลิเวอร์พูล - 8 / เชลซี - 7
จำนวนครั้งที่ยิงทั้งหมด : ลิเวอร์พูล - 281 / เชลซี - 263
ยิงตรงกรอบ : ลิเวอร์พูล - 145 / เชลซี - 132
ยิงชนเสา-คาน : ลิเวอร์พูล - 7 / เชลซี - 12
จำนวนครั้งที่จ่ายบอล : ลิเวอร์พูล - 17,184 / เชลซี - 16,548
จำนวนครั้งที่จ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 14,795 / เชลซี - 14,380
อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 86.1% / เชลซี - 86.9%

เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : ลิเวอร์พูล - 34 / เชลซี - 25
คลีนชีท : ลิเวอร์พูล - 7 / เชลซี - 12
เสียประตูจากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 30 / เชลซี - 22
เสียประตูจากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 4 / เชลซี - 3
บล็อคลูกยิง : ลิเวอร์พูล - 32 / เชลซี - 55
เข้าสะกัด : ลิเวอร์พูล - 239 / เชลซี - 277
ใบเหลือง : ลิเวอร์พูล - 29 / เชลซี - 35
ใบแดง : ลิเวอร์พูล - 0 / เชลซี - 1

4. คาดการณ์ก่อนเกม

คาดว่ารูปเกมจะออกมาค่อนข้างสูสี โดยทั้งสองทีมจะเน้นครองบอลเปิดเกมบุกแลกกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายน่าจะเริ่มต้นแบบรัดกุมเอาไว้ก่อน นั่นอาจส่งผลให้เกมส่วนใหญ่จะเป็นการสู้กันในแดนกลาง ซึ่งจะวัดกันที่สมาธิและความผิดพลาด แม้เกมรุกของ สิงห์บลู อาจยังไม่เข้าที่เข้าทางนักแต่เกมรับของ หงส์แดง ดูจะน่าเป็นห่วงกว่าหากใช้งานดาวรุ่งลงสนาม ด้วยประสบการณ์และความนิ่งอาจยังไม่แข็งพอที่จะต้านการโจมตีของทีมเยือนในเกมนี้ได้ ส่วนแนวรุกของเจ้าบ้าน ดูยังหวังพึ่ง ซาลาห์ มากเป็นพิเศษในฤดูกาลนี้ ขณะที่ มาเน และ ฟิร์มิโน นั้นหลุดฟอร์มไปพอสมควร นั่นหมายความว่าถ้าเกมรับอันแข็งแกร่งของ เชลซี สามารถจัดการกับ บังโม ให้ไม่สามารถแผลงฤทธิ์ได้ โอกาสที่จะไม่เสียประตูรวมถึงบุกมาคว้าชัยกลับบ้านในวันนี้ของพวกเขาก็มีสูงเลยทีเดียว

คาดการณ์สกอร์ : ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด