ลิเวอร์พูล 2-1 นิวคาสเซิล: วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญหลัง หงส์แดง พลิกคว้าชัย พรีเมียร์ลีก กลางสัปดาห์
โดย โตมร นวลประเสริฐ
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2022
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 2-1 นิวคาสเซิล
สนาม: แอนฟิลด์
1. เกมรุกในพื้นที่สุดท้ายของ หงส์แดง เป็นปัญหาในช่วงต้น
เกมที่ แอนฟิลด์ ออกสตาร์ทครึ่งแรกด้วยการครอบครองบอลที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดของ ลิเวอร์พูล โดยมีสัดส่วนถึง 72 เปอร์เซ็นต์แต่ทีมกลับไม่สามารถจบสกอร์ตรงกรอบเลยจากความพยายามทั้งหมด 5 ครั้ง
เกมรับที่ดุดันของ นิวคาสเซิล และการประสานงานอย่างมีวินัยที่แดนหลังสร้างปัญหาให้กับทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ อย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีช็อตหวือหวาจากเกมที่ริมเส้นอยู่บ้างแต่ยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะเกมรับทีมเยือน รวมทั้งยังไม่อาจเพิ่มมิติจากศักยภาพของบอลจากแนวลึกได้
การฉวยโอกาสจากจังหวะฉาบฉวยของทัพ สาลิกาดง มาได้ผลในนาทีที่ 38 จากความยอดเยี่ยมของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ยิ่งเพิ่มความเลวร้ายซ้ำเติมเหล่า เดอะค็อป ยิ่งขึ้นไปอีกตั้งแต่ก่อนจบครึ่งแรก
2. ครึ่งหลังที่ดุดัน ประตูตีเสมอเร็วเปลี่ยนโมเมนตัม
เจ้าถิ่นกลับสู่ครึ่งหลังด้วยความดุดันที่เพิ่มขึ้น เร่งจังหวะการขึ้นเกมให้น้อยลงกว่าเคย บอลจากเท้าสู่เท้าของแข้ง ลิเวอร์พูล ใช้เวลาในการเดินทางน้อยครั้งเมื่อเทียบกับครึ่งแรก นั่นทำให้ทีมสามารถสร้างโอกาสจบสกอร์อย่างถนัดถนี่มากกว่าที่เคย
ทีมของ คล็อปป์ มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 61 เมื่อ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน แท็ปอินลูกเปิดของ โม ซาลาห์ ผ่านมือ นิค โป๊ป เป็นประตูตีเสมอสำเร็จ ก่อนที่พวกเขาจะดาหน้าโหมบุกหนักยิ่งกว่าเดิมโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย
โอกาสยิง 13 ครั้งโดยตรงกรอบที่ 6 ครั้งเป็นสถิติตัวเลขในครึ่งหลังที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับครึ่งแรก และความพยายามในการพลิกแซงเพื่อกลับมาเอาชนะของ ลิเวอร์พูล ก็ประสบผลสำเร็จในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บในที่สุด
3. ดิอาซ-เอลเลียตต์ หวือหวาก่อนเจ้าหนู คาร์วัลโญ ซูเปอร์ซับ
ทักษะการกระชากลากเลื้อยของ หลุยส์ ดิอาซ ยังคงดูน่าตื่นตาตื่นใจและหวังผลได้เช่นเคยโดยมี ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่นับวันยิ่งค่อยๆ ยกระดับความมั่นใจ และมีส่วนร่วมกับเกมมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เอลเลียตต์ จบเกมด้วยสถิติเลี้ยงเอาชนะคู่แข่งได้มากที่สุดในสนามเทียบเท่ากับ ซาลาห์ ที่จำนวน 3 ครั้งขณะที่ ดิอาซ เลี้ยงผ่าน 2 ครั้ง
ขณะที่การเปลี่ยนตัวเอา ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ลงมาเป็นตัวสำรองครึ่งหลังเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันในลีกแทนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำให้เกมรุกของเจ้าถิ่นกระชุ่มกระชวยมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าหนูวัย 20 ปีเคลื่อนที่ปั่นป่วนพื้นที่สุดท้ายต่อเนื่อง เป็นตัวเลือกในการผ่านบอลเพื่อสร้างจังหวะที่คู่แข่งยากจะคาดเดา
คาร์วัลโญ ตอบแทนความไว้วางใจของนายใหญ่ชาว เยอรมัน ด้วยการตะบันประตูชัยในระยะเผาขนนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บในที่สุด ช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนเต็มเหนือ นิวคาสเซิล
4. อาการเดี้ยง เฮนโด้ กับคำถามถึงแข้งใหม่ในตลาด
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 71 โดย ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ลงสนามแทนเจ้าตัว โดย คล็อปป์ ได้ยืนยันจากการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมระบุว่ามิดฟิลด์วัย 32 ปีมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงจนไม่สามารถเล่นต่อไหว
ทั้งนี้กุนซือ ลิเวอร์พูล ยังแย้มทิศทางการเสริมนักเตะในช่วงเวลาที่เหลือก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะจะสิ้นสุดลงไว้ว่า ทีมยังมีท่าทีคงเดิมคือไม่ได้มีแผนการจะคว้าแข้งใหม่หากไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม และยังไม่ปิดโอกาสถาวรแต่อย่างใด
5. อิซัค กับสัญญาณที่สดใสของ นิวคาสเซิล
หัวหอกคนใหม่ถอดด้ามจาก เรอัล โซเซียดาด เจ้าของค่าตัวมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ นิวคาสเซิล ที่ราว 63 ล้านปอนด์แจ้งเกิดทันทีในเกมเดบิวต์วันนี้
อเล็กซานเดอร์ อิซัค สร้างปัญหาในการดวลกับ โจ โกเมซ ชนิดไม่เกรงกลัวความดุดันของปราการหลังใน พรีเมียร์ลีก แม้สักนิดทั้งภาษากายและทักษะ เทคนิคการเล่น ชนิดที่ล็อคหลอกทำ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน กับ โกเมซ เสียท่าหลังหักหลุดไปล่อเป้าเกือบเป็นลูก 2-0 หากไม่ถูกจับล้ำหน้าไปเสียก่อน
ไม่น่าแปลกใจนักที่ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว จะทุ่มทุนด้วยมูลค่ามหาศาลดังกล่าวคว้า อิซัค มาร่วมถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค กับความสามารถชนิดแกะฉีกซองแล้วใช้งานได้ในทันที เมื่อรวมกับการประสานงานร่วมกับแข้งรอบจัดอย่าง มิเกล อัลมิรอน, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และอาจรวมไปถึง คัลลัม วิลสัน ก็ทำให้พลพรรค เดอะแม็กพายส์ กลายเป็นทีมที่น่าสนใจอีกทีมหนึ่งในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้