ลิเวอร์พูล 2-0 เบิร์นลีย์: วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญหลังศึก พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2021
เวลาแข่งขัน: 18:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 2-0 เบิร์นลีย์
สนาม: แอนฟิลด์
1. ความพยายามครอสบอลของ เบิร์นลีย์
ทีมของ ฌอน ไดช์ พยายามที่จะวางบอลจากแนวลึกทะลุแนวรับที่ดันไลน์ขึ้นสูงของ ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นเกมจนทำให้เกมรับของเจ้าบ้านออกอาการเล็กน้อย รูปแบบดังกล่าวพอจะเล่นงานทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ในช่วงต้นแต่ไม่ดีพอที่จะเป็นประตู
เมื่อ หงส์แดง จับจังหวะของเกมได้กลายเป็น ดไวท์ แม็คนีล ที่พยายามลากตะลุยจี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลายเป็นตัวอันตรายของทีมเยือนแต่บอลสุดท้ายไม่อาจเอาชนะคู่ปราการหลังทั้ง โจเอล มาติป และ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้
2. ป้อมปราการ มาติป-ฟาน ไดค์
รูปแบบการโจมตีด้วยการบอลครอสจากริมเส้นเพื่อให้กองหน้าเข้าทำของ เบิร์นลีย์ ไม่เป็นที่เหนือความคาดหมายนักแต่บรรดาแนวรับของ เร้ดแมชีน โดยเฉพาะคู่ โจเอล มาติป กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ประสานงานป้องกันการโจมตีดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง
ฟาน ไดค์ ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการวางบอลยาวจากแนวลึกเช่นเคยกับการผ่านบอลเปลี่ยนแกนเป็นจุดตั้งแต่ในการได้ประตู 2-0 ของ มาเน
การได้ VVD กลับมาลงสนามทำให้ฟุตบอลของ ลิเวอร์พูล มีมิติที่หลากหลายอีกครั้งโดยเฉพาะทีเด็ดในการวางบอลจากแดนหลัง
3. ซิมิคาส เรียกความมั่นใจ
คอสตาส ซิมิคาส ได้รับความไว้วางให้ลงประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้ายต่อเนื่องเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันหลังจากที่เจ้าตัวลงเล่น 90 นาทีเต็มในแมตช์ถล่มเอาชนะ นอริช 3-0
แม้แบ็คซ้ายทีมชาติ กรีซ วัย 25 ปีจะมีช็อตที่น่าเป็นกังวลในเกมรับอยู่บ้างจากเกมแรก แต่ในแมตช์พบ เบิร์นลีย์ เจ้าตัวออกสตาร์ทด้วยเอาชนะในการเข้าปะทะอย่างเด็ดขาดตั้งแต่ช่วงต้น ตามด้วยการเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกของ หงส์แดง ที่กราบซ้ายต่อเนื่อง กระทั่งเป็นตัวเขาเองที่สามารถครอสบอลทำแอสซิสต์ให้กับ ดิโอโก้ โชต้า ในที่สุด
แม้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะฟิตกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองได้ในเกมนี้และแบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ ลุ้นคัมแบ็คออกสตาร์ทในแมตช์ถัดไปดวลกับ เชลซี แต่ผลงานของ ซิมิคาส ก็ทำให้นายใหญ่ชาว เยอรมัน มีการบ้านต้องขบคิดไม่น้อย
4. ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มาตรฐานเกินเด็ก
เป็นอีกครั้งที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แสดงความมหัศจรรย์จากเซนส์บอลที่ทันกับรุ่นพี่ในทุกๆ จังหวะ มิดฟิลด์วัย 18 ปีเชื่อมเกมบริเวณกลางสนามและฮาล์ฟสเปซฝั่งขวาร่วมกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้อย่างเนียนตา
เจ้าตัวทำได้ยอดเยี่ยมถึงขนาดงัดคิลเลอร์พาสแทงทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปล่อเป้าส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ในครึ่งแรก น่าเสียดายที่ช็อตดังกล่าวถูก วีเออาร์ จับล้ำหน้า
มาตรฐานการเล่นของ เอลเลียตต์ ทำให้เราเชื่อเหลือเกินว่าเขาจะก้าวขึ้นมามีส่วนสำคัญกับทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในฤดูกาลนี้โดยที่ทีมอาจไม่จำเป็นต้องเสริมทัพแข้งใหม่ในตำแหน่งมิดฟิลด์แทนที่ จินี ไวนัลดุม ที่บอกลาสโมสรไปแต่อย่างใด
เหลือแค่เพียงความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้นที่จอมพลิ้ววัยกระเตาะต้องยกระดับเพื่อต่อกรกับบรรดาคู่แข่งสุดหินบนเวที พรีเมียร์ลีก
5. โชต้า ร้อนแรงต่อเนื่อง
เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันที่ ดิโอโก้ โชต้า ออกสตาร์ทในตำแหน่งกองหน้าบทบาทฟอลส์ไนน์แทนที่ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน และสามารถทำประตูได้อีกแมตช์
หัวหอกทีมชาติ โปรตุเกส โดดเด่นตั้งแต่การเคลื่อนที่ต่ำลงมาช่วยบีบพื้นที่ในแดนกลางรวมไปถึงการเพรสซิงที่แดนบนอันเป็นจุดที่เจ้าตัวทำได้อย่างแข็งแกร่งอย่างที่เคยเป้นมา
โชต้า ยังแสดงให้เห็นถึงจมูกในการหาพื้นที่เข้าทำในช็อตโฉบโหม่งพังประตูในครึ่งแรก
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด