ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี: วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญหลังศึก พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์

Liverpool v Chelsea - Premier League
Liverpool v Chelsea - Premier League / Michael Regan/Getty Images
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2021
เวลาแข่งขัน: 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี
สนาม: แอนฟิลด์


1. ความเป็นไปของเกม

Mohamed Salah, Sadio Mane
Liverpool v Chelsea - Premier League / Michael Regan/Getty Images

แมตช์ที่ แอนฟิลด์ เริ่มต้นอย่างดุเดือดเมื่อทั้ง 2 ทีมต่างใช้จุดเด่นที่เกมรุกของตนเองเปิดเกมรุกเข้าใส่ฝั่งตรงข้ามอย่างที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลารอให้เครื่องร้อนแต่อย่างใด

หงส์แดง เป็นฝ่ายออกสตาร์ทครองบอลได้มากกว่าแต่โอกาสของพวกเขาไม่ได้เป็นช็อตที่ถนัดถนี่นัก ขณะที่ สิงห์บลู ใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของ โรเมลู ลูกากู สร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมได้ต่อเนื่องกระทั่งทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการโหม่งลูกเตะมุมของ ไค ฮาแวร์ตซ์

ก่อนจะจบครึ่งแรกไม่กี่อึดใจ เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษแถมเป็นใบแดงของ รีซ เจมส์ เมื่อวิงแบ็คทีมชาติ อังกฤษ ทำแฮนด์บอลที่เส้นปากประตู และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

เกมหลังจากนั้นกลายเป็นของเจ้าถิ่นโดยสิ้นเชิงเมื่อพวกเขาอาศัยข้อได้เปรียบด้านตัวผู้เล่นขโยกเข้าใส่ สิงโตน้ำเงินคราม อย่างต่อเนื่องตลอด 45 นาทีของครึ่งหลังแต่ไม่อาจเจาะแนวรับที่เหนียวแน่นของพวกเขาได้

2. ลูกากู ทีเด็ด สิงโตน้ำเงินคราม

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-CHELSEA
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-CHELSEA / PAUL ELLIS/Getty Images

นับเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันที่ โรเมลู ลูกากู แสดงให้เห็นได้ในทันทีว่าเขาสามารถสร้างความแตกต่างที่แดนหน้าให้กับ เชลซี ได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับการที่พวกเขาเคยใช้งาน ติโม แวร์เนอร์ มาในช่วงก่อนหน้านี้

ความแข็งแกร่งของศูนย์หน้าทีมชาติ เบลเยียม ทำให้ทีมของ โธมัส ทูเคิล พักบอลที่แดนหน้าได้ต่อเนื่อง ความคล่องตัวของ ลูกากู ยังถูกแสดงให้เห็นจากหลายครั้งที่เขาสปรินต์ทะยานเข้าพื้นที่อันตรายเพื่อจบสกอร์

แม้บทบาทของเจ้าตัวจะลดลงไปเป็นอย่างมากในครึ่งหลังเมื่อทีมเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าแต่ดูท่าว่าเขาจะเบียด แวร์เนอร์ ยืนระยะครองตำแหน่งตัวจริงให้กับ สิงห์บลู ได้อีกยาว

3. จุดเปลี่ยนใบแดงของ เจมส์ ท้ายครึ่งแรก

Anthony Taylor, Reece James
Liverpool v Chelsea - Premier League / Michael Regan/Getty Images

จากรูปเกมในครึ่งแรกที่ยังดูคู่คี่สูสีโดยที่ ลิเวอร์พูล เหลื่อมกว่าเล็กน้อยจากสัดส่วนการครองเกม ขณะที่ เชลซี ทำได้ดีกว่าในการสร้างโอกาสอย่างถนัดถนี่

โมเมนตัมของเกมสวิงไปอยู่ที่เจ้าบ้านฝ่ายเดียวเมื่อ รีซ เจมส์ ได้รับใบแดงโดยตรงจากการพิจารณา วีเออาร์ ของผู้ตัดสินที่มองว่าแข้งวัย 21 ปีเจตนาทำแฮนด์บอลที่บนเส้นประตู

โดยที่ครึ่งหลัง หงส์แดง สามารถสร้างโอกาสยิงได้มากถึง 14 ครั้ง (เข้ากรอบ 6 ครั้ง) ขณะที่ สิงห์บลู ได้สับไกยิงเพียง 2 ครั้ง (เข้ากรอบ 1 ครั้ง) เท่านั้น

4. ยกนิ้วแนวรับ เชลซี

Thiago Silva, Sadio Mane
Liverpool v Chelsea - Premier League / Michael Regan/Getty Images

แม้ว่าทีมของ โธมัส ทูเคิล จะถูกกดดันแทบจะทั้ง 45 นาทีหลัง แต่บรรดาแนวรับของพวกเขารวมใจกันป้องกันเกมรุกของเจ้าถิ่นได้อย่างยอดเยี่ยม เกมริมเส้นของ เร้ดแมชีน ที่เคยเป็นจุดเด่นไม่ได้ทำอันตรายให้กับทีมเยือนอย่างที่ควรจะเป็น รูปแบบการเล่น 3 เซ็นเตอร์แบ็คโดยมีวิงแบ็คสอดซ้อนในเกมรับยิ่งที่ให้แผงป้องกันของ สิงโตน้ำเงินคราม เหนียวแน่นขึ้นไปอีกขั้น

5. ฟิร์มิโน เล่นไม่ออก

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-CHELSEA
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-CHELSEA / PAUL ELLIS/Getty Images

โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ได้รับความไว้วางใจจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นนัดแรกของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้แม้ว่า ดิโอโก้ โชต้า จะฟอร์มฮ็อตพัง 2 ประตูจาก 2 เกมที่ผ่านมาก็ตาม

แต่กลายเป็นว่าหัวหอกทีมชาติ บราซิล แทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมนักที่แดนหน้า กระทั่งอาการบาดเจ็บทำให้เจ้าตัวต้องออกจากสนามตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก ขณะที่ความกระตือรือล้นของ โชต้า ก็ทำให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูคึกคักกว่าเดิมไปอีกขั้น


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด