คล็อปป์ เผย 4 กุญแจสำคัญที่ทำให้ ฟาน ไดจ์ค กลับมาท็อปฟอร์มหลังหายเจ็บยาว

Villarreal v Liverpool Semi Final Leg Two - UEFA Champions League
Villarreal v Liverpool Semi Final Leg Two - UEFA Champions League / Quality Sport Images/GettyImages
facebooktwitterreddit

เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมเปิดเผยแล้วว่า การที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค แข้งมหาอุตม์กลับมาระเบิดฟอร์มสุดยอดได้อีกครั้งหลังเจ็บยาว ก็เพราะมีกุญแจสำคัญอยู่ 4 อย่างนั่นเอง

"การที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาดจนต้องพักรักษาตัวนานเกือบปี มันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยด้วยกัน" คล็อปป์ เกริ่นกับ Sky Sports

"อันดับแรกสุดคือ ต้องขอบคุณศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด สองคือตัวของ ฟาน ไดจ์ค เอง เพราะเขาสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่มืดมนสุดบนเส้นทางค้าแข้งของตัวเองมาได้ด้วยสภาพจิตใจอันแข็งแกร่ง"

"แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลา 10 เดือนที่เขาต้องเจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้น เขาแค่ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ ต้องการเวลาสงบจิตใจ พยายามไม่คิดถึงอะไรที่มันเป็นเรื่องลบมากเกิน"

"ส่วนอันดับสาม ผมขอยกเครดิตให้กับทีมกายภาพบำบัดของสโมสร พวกเขาวางโปรแกรมพิเศษเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ ฟาน ไดจ์ค ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำงานร่วมกับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลและตัวนักเตะได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง"

"สุดท้ายค่อนข้างสำคัญ นั่นก็คือ ไม่มีใครเร่งเร้าให้ ฟาน ไดจ์ค รีบกลับมาลงสนามอีกครั้งเร็ว ๆ แม้แต่เจ้าตัวเอง คุณน่าจะเคยเห็นกระแสข่าวที่บอกว่า ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ อยากให้เขาติดทีมไปเล่นในศึกยูโร 2020 เขาอยากออกจากแอนฟิลด์ไปช่วยทีมชาติสู้ศึกยูโร ฯลฯ อะไรพวกนี้"

"แต่ผมยืนยันว่ามันไม่เป็นความจริง หรือหากจะมีใครอยากได้ตัวไปทำแบบนั้น ผมก็จะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด ซึ่ง ฟาน ไดจ์ค เองก็เห็นด้วยอย่างเต็มใจ"

"ฟาน ไดจ์ค พูดอย่างหนักแน่นกับทุกคนว่า เขาจะไม่ไปเล่นให้ทีมชาติในศึกยูโรเด็ดขาด ทีมกายภาพบำบัดเองก็กางโปรเจ็คมาให้ดูอย่างชัดเจนว่าเราต้องการเวลาอีกกี่สัปดาห์เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายเขาจนกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง จะมีทีมงานจาก เนเธอร์แลนด์ แวะเวียนมาถามเพื่ออัพเดตข้อมูลบ้างนิดหน่อย ก็เพราะสื่อเอาแต่ประโคมข่าวว่าพร้อมแล้วทั้ง ๆ ที่มันไม่จริงนั่นแหละ"


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด